ลงทุนอย่างไร? ในภาวะวิกฤต

ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสติดมาด้วยเสมอ วิกฤต และโอกาสเป็นของคู่กันมาช้านาน แต่เมื่อเกิดวิกฤตทุกอย่างจะดูแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกมืดมนอับจนหนทางไปหมด แต่เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป ทุกอย่างกลับดูดีผิดหูผิดตา เหมือนอยู่กันคนละโลกเลยก็ว่าได้ครับ

ณ ช่วงกลางเดือนมีนาคม คงไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไปแล้วนะครับว่ามันคือ วิกฤต หรือไม่ … ในเมื่อวิกฤตก็เกิดขึ้นมาแล้ว เรามาวางแผนกันดีกว่าว่า เราควรจะทำอย่างไรในภาวะวิกฤตแบบนี้ มาติดตามกันครับ

ประการแรก … “ทบทวนเหตุผลของการลงทุนเสียก่อน”

สิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ … เราต้องทบทวนเหตุผลของการลงทุนของเราเสียก่อน ก่อนที่เราจะลงทุนเราใช้เหตุผลอะไร และเหตุผลดังกล่าวยังอยู่หรือไม่ ?

ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์แห่งอนาคต เช่น โรงพยาบาล โรงไฟฟ้า ระบบรางขนส่งมวลชน หรือเมกะเทรนด์ด้านต่าง ๆ ที่กำลังจะเติบโตในอีกสิบปีข้างหน้า เราก็จะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นภาวะชั่วคราว หรือภาวะวิกฤตอย่างถาวร

ถ้าหากเหตุผลแห่งการลงทุนของเรายังอยู่ เราก็อาจไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น และไม่ต้องไปทำอะไร แค่อยู่เฉย ๆ ให้เป็น แต่หากเหตุผลของเราผิดไปแล้ว เช่น เราต้องการลงทุนระยะสั้น และภาพระยะสั้นนั้นแย่มาก ๆ เราก็ควรตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง

ประการที่สอง … “เรียนรู้ ทำการบ้านให้เข้ม เก็บเงินสดไว้ก่อน”

ในยามภาวะวิกฤต ถ้าเราคิดว่ามันต่ำสุด ๆ แล้ว มันอาจจะต่ำลงไปได้อีก … สินทรัพย์ที่เราลงทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม หรือหุ้นสามัญ หากราคาตกต่ำลงมา แม้มันจะเป็นโอกาสอันดีในการเก็บสินทรัพย์ราคาถูกลง แต่ก็ไม่ควรรีบร้อน

ดังคำที่ว่า “เวลาที่มืดมิดที่สุดนั้น มันคือเวลาที่ใกล้จะสว่างแล้ว” แต่หลายครั้งก็ใช้เวลานานกว่าจะถึงแสงสว่าง ดังนั้นในเวลาแบบนี้ หากเราไม่ได้ตัดใจขายสินทรัพย์ที่เราถือไปก่อนหน้านี้ เราก็ต้องทำใจอยู่เฉย ๆ ให้ได้ ถ้าเหตุผลของเรายังอยู่นะครับ … และใช้เวลานี้ศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม ทบทวนตัวเอง เพื่อที่เวลาดี ๆ กลับมา เรามีความรู้แล้ว จะได้คว้าโอกาสเอาไว้ได้อย่างแม่นยำ

และที่สำคัญ ในเวลาวิกฤต “เงินสด คือ พระเจ้า” เสมอ หรือ Cash is a King ถ้าเรายังทำมาหากินได้ ผลิตกระแสเงินสดได้ ก็ควรเก็บเงินสดไว้บ้าง อย่าเพิ่งรีบร้อนซื้อ ควรรอให้อะไร ๆ คลี่คลายไปในระดับหนึ่งก่อน ค่อยตัดสินใจทยอยซื้อก็ยังไม่สายนะครับ

ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ …

ภาวะวิกฤต คือ บทเรียนชั้นครู ที่จะทำให้เรากลายเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญสุด ๆ ก็คือ เราต้องอยู่รอดให้ได้ในภาวะแบบนี้ ลองทบทวนเหตุผลของการลงทุน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำการบ้านให้เข้ม เก็บเงินสดให้พร้อม แล้วโอกาสในวิกฤต จะปรากฏกายออกมาในวันที่ส่องสว่างวันนั้น ต้องมีเรายืนอยู่เพื่อได้เห็นความสำเร็จ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ

#นายแว่นลงทุน

ดูรายละเอียด RUNNING for Growth ได้ที่ https://www.finnomena.com/port/naiwaen/


iran-israel-war