(เงินล้าน) เฟ้นหาหุ้นเติบโตหลังวิกฤติโลก ... “มองหาหุ้นหลายเด้งจากหุ้นที่ผิดราคา Valuation Missing Price”

ในห้วงที่เป็นภาวะวิกฤติ อะไร ๆ ก็ดูย่ำแย่ไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง โรคไข้หวัดอู่ฮั่น สงครามการค้าที่ยังไม่สงบดี ค่าเงินบาทแข็งค่ากระทบการส่งออก ตลาดหุ้นตกต่ำ ทำให้ดูไม่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก

แต่ในภาวะวิกฤติแบบนี้สิ่งที่กำเนิดเกิดขึ้นมาก็คือ “หุ้นที่ผิดราคา” ซึ่งการเกิดขึ้นของหุ้นผิดราคานั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจเกิดเฉพาะช่วงวิกฤติแบบนี้ สำหรับคนที่มองภาพออก นี่คือโอกาสในการลงทุนครั้งใหญ่ … แต่หุ้นที่ผิดราคาจะมีลักษณะแบบใดบ้าง ไปติดตามกันครับ

(เงินล้าน) เฟ้นหาหุ้นเติบโตหลังวิกฤติโลก ... “มองหาหุ้นหลายเด้งจากหุ้นที่ผิดราคา Valuation Missing Price”

(ตารางแสดงการอธิบายหุ้นที่ผิดราคา)

อย่างแรก … “PE กับกำไรไม่สัมพันธ์กัน ทำให้หุ้นผิดราคา”

หากเราสามารถคำนวณได้ว่า กำไรต่อหุ้นจะเติบโต แต่ PE ยังต่ำ นี่คือโอกาสการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น หุ้นที่มีกำไรเติบโต 20% ต่อปี แต่พีอีต่ำแค่ 5 เท่า โดยปัจจุบันหุ้นอสังหาริมทรัพย์บางตัว พีอีปัจจุบันต่ำมาก เนื่องจากกำไรหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการณ์รัฐ ที่ต้องการสกัดฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ แต่หากกิจการกลับมาขาย และทำให้กำไรเติบโต ราคาหุ้นจะโตเร็วมาก

อย่างที่สอง … “PBV ไม่สัมพันธ์กับ ROE ทำให้หุ้นผิดราคา”

PBV คือ ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี ส่วน ROE คือ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อัตราส่วนทั้งสองมีความสัมพันธ์ และควรจะไปในทิศทางเดียวกัน

ถ้าเราพบเจอกับหุ้นที่ ROE เติบโต หรือ ROE มีค่าสูงมาก ๆ ในขณะที่ PBV ยังต่ำ แสดงว่าเราเจอกับหุ้นผิดราคาเช่นกันครับ หุ้นลักษณะนี้ค่อนข้างจะหายาก แต่ขอยกตัวอย่างเช่น หุ้นเดินเรือ ที่ในช่วงวัฏจักรขาลง ราคาจะตกลงต่ำมาก ๆ จน PBV ต่ำ ในปัจจุบันหุ้นเดินเรือบางตัวมี PBV ต่ำกว่า 0.5 เท่า !

แต่หากเป็นช่วงวัฏจักรกลับมาเป็นขาขึ้น ROE จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และนั่นจะทำให้หุ้น PBV ต่ำ ๆ ตอนนี้ กลายเป็นหุ้นผิดราคาไป คือ ราคาถูกเกินไป ถ้าตลาดปรับ PBV ใหม่ อาจเพิ่มเป็น 1 เท่า ราคาหุ้นก็สามารถปรับขึ้นได้อย่างน้อย 1 เท่าตัว

อย่างที่สาม … “PSR  และอัตรากำไรสุทธิ”

PSR คือ Prize/Sale หรือ การนำเอา ขนาดกิจการมาหารด้วยยอดขาย ถ้า > 1 แสดงว่าหุ้นราคาแพง ถ้าต่ำกว่าแสดงว่าหุ้นอาจจะผิดราคา แต่สำหรับหุ้นเติบโต PSR อาจต้องสูงได้บ้าง แต่ก็ไม่ควรเกิน 3 เท่า

เมื่อเราเจอหุ้นที่ PSR ต่ำ แต่ % Net Margin สูง … เข้าข่ายว่าเราเจอหุ้นผิดราคา ยกตัวอย่างเช่น กิจการที่มียอดขายสูงมาก เช่น ผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกที่มียอดขายเป็นหมื่นล้าน แต่มีกำไรแค่หลักร้อยล้าน ในขณะที่ขนาดกิจการต่อยอดขายยังต่ำกว่า 1 เท่า โดยที่คู่แข่งมียอดขายต่ำกว่า แต่ทำกำไรได้เป็นพันล้าน แบบนี้ถ้าเราเข้าไปขุดพบว่า มันเกิดจากต้นทุนที่สูงเกินจริง และมีการลดต้นทุนจริงจังจนประสบผลสำเร็จ ราคาหุ้นก็จะกลับมาได้ จากที่เคยผิดราคา

อย่างสุดท้าย … “EV/EBITDA กับการลงทุน”

EV/EBITDA คือ การนำเอาขนาดกิจการทั้งหมดบวกกลับด้วยหนี้สินทั้งหมด หักออกด้วยเงินสด และหารด้วยกำไรขั้นต้น

ถ้าค่านี้ต่ำมาก ๆ แสดงว่าหุ้นมีราคาถูก เราจะพบค่านี้ต่ำ ๆ ในช่วงที่กิจการเข้าสู่เฟสการลงทุน ทำให้ต้นทุนเพิ่ม และกำไรหดหาย ราคาหุ้นจึงปรับลงมา หากเราพบว่า หุ้นกำลังหมดเฟสการลงทุน และเริ่มเข้าสู่เฟสเก็บเกี่ยวแล้ว ค่านี้ยังต่ำอยู่ แสดงว่าเราเจอหุ้นผิดราคาครับ

ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ …

การลงทุนในหุ้นที่ผิดราคา หรือ Valuation Missing Prize นั้น หากเราหาหุ้นถูกตัวก็มีโอกาสที่เราจะได้หุ้นเป็นเด้ง ๆ เหมือนกันนะครับ แต่ถ้าเราคิดผิดบางทีเราก็ต้องยอมมอบตัว เพราะสิ่งที่คิดไม่ถูกต้องแบบชัดเจนแล้ว ก็หมดเหตุผลที่เราจะลงทุนต่อไปนั่นเองครับ

#นายแว่นลงทุน

ติดตามนายแว่นลงทุน ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/NaiwaenTammada/


**สนใจลงทุนในพอร์ต RUNNING for Growth พอร์ตกองทุนรวมหุ้นซึ่งจัดโดยนายแว่นลงทุน คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเลย https://www.finnomena.com/port/naiwaen