รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

ใครที่กำลังมองหากองทุนหุ้นไทยขนาดกลางและขนาดเล็กที่เน้นการลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Stocks) และสามารถทำผลตอบแทนได้แข็งแกร่งอยู่ มารวมกันตรงนี้ได้เลย เพราะบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักและคว้าโอกาสลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็กกับกองทุน TLMSEQ กองทุนที่มีผลงานเติบโตโดดเด่นเอาชนะดัชนีได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ได้รับการการันตีจาก Morningstar ด้วยระดับ 5 ดาว

แต่ก่อนที่จะไปเจาะลึกถึงกองทุน TLMSEQ เรามาอัปเดตภาพรวมตลาดโลกและเศรษฐกิจไทยกันสักหน่อยว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง

อยากลงทุนกองทุน TLMSEQ แต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนในสัดส่วนเท่าไรดี?
👉 ลงทะเบียนรับคำแนะนำเพิ่มเติม คลิก >>> https://finno.me/fpick-services

สถานการณ์ภาพรวมตลาดโลก

อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ต้องเดินหน้าดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อ เริ่มที่ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ ที่ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เป็นรอบที่ 2 ของปี 2565 สู่ระดับ 2.25-2.50% เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคม 2565 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 8.5% ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ที่แตะระดับ 9.1% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี โดยเป็นผลมาจากมาตรการผ่อนคลายให้ผู้บริโภคและราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลง ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของประเทศอังกฤษในเดือนกรกฎาคม 2565 พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี แตะระดับ 10.1% โดยเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2525 นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับเหนือ 18% ในเดือนมกราคมปี 2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้นอย่างรุนแรง 

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นสร้างแรงกดดันต่อการคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2565 จะขยายตัวที่ 3.2% และจะชะลอตัวลงในปี 2566 สู่ระดับ 2.9% โดยปรับลดลง 0.4% และ 0.7% ตามลำดับจากตัวเลขการคาดการณ์ในเดือนเมษายน 2565 ในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจรายประเทศ IMF ก็ปรับลดคาดการณ์เช่นเดียวกัน โดยปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2565 สู่ระดับ 2.3% และ 1.0% ในปี 2566 และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนในปี 2565 จะขยายตัวที่ 3.3% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ยังปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินเดียสู่ระดับ 7.4% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนสู่ระดับ 2.6% ในปี 2565

ภาพรวมเศรษฐกิจไทย

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกบริการขยายตัวเร่งขึ้น

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกบริการขยายตัวเร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยขยายตัวจาก 32.5% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 สู่ 54.3% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 และความคืบหน้าของการกระจายวัคซีน ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวและกลับมาเป็นปกติมากขึ้น

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

องค์ประกอบสำคัญของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2565 (ข้อมูล ณ วันที่ 15/08/2022)
ที่มา: https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=12813&filename=QGDP_report

ในขณะที่ฐานรายได้ของครัวเรือนและภาคธุรกิจขยายตัวตามภาคการผลิตอุตสาหกรรม และภาคการส่งออก รวมทั้งตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากอัตราการว่างงานที่ลดลง

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

อัตราการว่างงาน และจำนวนผู้ประกันตนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจำแนกตามสาเหตุ
ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานประกันสังคม

อุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวจะเป็นแรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยได้การยกเลิกมาตรการ Thailand Pass ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา และเปิดด่านชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางของประเทศต่าง ๆ

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

กราฟแสดงประมาณการการบริโภคภาคเอกชน และประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 15/08/2022)

ในขณะที่การค้นหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวประเทศไทยกลับมาอยู่ในระดับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ทำให้คาดการณ์ได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มกลับมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

ที่มา: Google (ข้อมูล ณ วันที่ 09/08/2022)

กำไรหุ้นไทยถูกปรับขึ้นแกร่งกว่าหุ้นโลก และราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มาก

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

SET Index normalized relative to index
ที่มา: FINNOMENA (ข้อมูล ณ วันที่ 15/08/2022)

จากภาพด้านบน กราฟเส้นสีดำแสดงข้อมูล EPS หุ้นไทยเทียบกับ EPS ของ MSCI AWCI ในขณะที่กราฟเส้นสีเหลืองแสดงข้อมูลดัชนีราคาหุ้นไทยเทียบกับ MSCI ACWI จะเห็นได้ว่ากราฟเส้นสีดำเริ่มตัดกราฟเส้นสีเหลืองขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกำไรของหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าหุ้นโลก โดยที่ราคาหุ้นนั้นก็ยังปรับตัวหุ้นไม่มาก (Laggard) ในขณะที่หุ้นที่มี Story ที่ดียังสามารถสร้างผลตอบแทนได้เหนือตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นเหล่านี้

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

SET100 Monthly Performance & The most perform stock & Sector (%)
ที่มา: FINNOMENA

คว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็กกับกองทุน TLMSEQ

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

กองทุน TLMSEQ หรือ Talis Mid-Small Cap Equity Fund จาก บลจ.ทาลิส (TALIS) มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 6 โดยกองทุน TLMSEQ จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงระดับ 6

กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Morningstar Rating: 5 ดาว

กลยุทธ์การลงทุนของกองทุน TLMSEQ

  • ลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กยังมีโอกาสเติบโต ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่
  • ช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางส่วนใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถปรับตัวได้เร็วกว่า รวมทั้งธุรกิจที่ได้รับ ประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19 รวมถึง New Economy จึงมีผลประกอบการที่ดีกว่า
  • เลือกลงทุนในบริษัทขนาดกลางและเล็กที่มีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งมีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้มากกว่า ทำให้มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ย

จุดเด่นของกองทุน TLMSEQ

  • ใช้กลยุทธ์สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโต (Growth Stock) และผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ในการบริหารกิจการที่ดี มีการติดตามวิเคราะห์หุ้นเชิงลึก (Bottom up)
  • กระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อลดความผันผวน
  • เป็นกองทุนขนาดเล็กที่มีความยืดหยุ่นและความคล่องตัว ส่งผลให้มีการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถเลือกหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่ให้ผลตอบแทนได้ดี

สัดส่วนอุตสาหกรรมของกองทุน TLMSEQ

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

การจัดสรรการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกของกองทุน TLMSEQ
ที่มา: TLMSEQ Fund Factsheet (ข้อมูล ณ วันที่ 27/07/2022)

กองทุน TLMSEQ เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมบริการ (SERVICE) โดยให้น้ำหนักการลงทุนมากที่สุดที่ 32.30% อุตสาหกรรมเทคโนโลยี (TECH) มีสัดส่วนการลงทุนรองลงมา โดยให้น้ำหนักที่ 14.29% ของพอร์ตการลงทุน อุตสาหกรรมทรัพยากร (RESOURC) ให้น้ำหนักการลงทุน 8.42% อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON) ให้น้ำหนักการลงทุน 8.24% และอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน (FINCIAL) ให้น้ำหนักการลงทุน 6.87%

รีวิวหุ้นที่กองทุน TLMSEQ ลงทุน

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

ทรัพย์สินที่ลงทุน 5 อันดับแรกของกองทุน TLMSEQ
ที่มา: TLMSEQ Fund Factsheet (ข้อมูล ณ วันที่ 27/07/2022)

FSMART: บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) – 8.39%

ผู้นำด้านการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) และบริการชำระเงินออนไลน์ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ (ตู้เติมเงิน) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” โดยลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ ด้วยการหยอดเหรียญหรือธนบัตรและทำรายการชำระเงินด้วยตนเองบนเครื่องชำระเงินออนไลน์ผ่านระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงข้อมูลผ่านเครือข่ายซึ่งติดตั้งไว้ใน “ตู้บุญเติม” ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายตู้บุญเติมมากกว่า 130,000 จุดทั่วประเทศ ซึ่งทำให้มีโอกาสสร้างรายได้จากบริการใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มเติมเข้ามาได้

FORTH: บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) – 8.32%

ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์ของไทย โดยได้ขยายธุรกิจไปสู่การจําหน่ายสินค้าและบริการผ่านตู้อัตโนมัติที่ตอบสนองการใช้ชีวิตยุคดิจิทัลซึ่งได้อย่างดี กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบัน

ลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

  1. ธุรกิจอีเอ็มเอส: เป็นส่วนงานที่ทำการจัดหา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งงานสั่งผลิตและอุปกรณ์ทั่วไป
  2. ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่นส์: เป็นส่วนงานที่รับงานโครงการ จัดหา จัดจ้างและวางระบบต่างๆ จากภาครัฐและภาคเอกชน
  3. ธุรกิจสมาร์ท เซอร์วิส: เป็นส่วนงานที่ให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ จำหน่ายสินค้าและบริการผ่านตู้อัตโนมัติ

BAFS: บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) – 4.34%

บริษัทเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสิทธิจากรัฐบาลไทยในการดําเนินธุรกิจจัดเก็บ และให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแก่อากาศยานทุกประเภทและทุกเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้บริการเชื้อเพลิงการบินอย่างครบวงจรทั้ง 3 ระบบ คือ ระบบคลังน้ำมันอากาศยาน ระบบส่งน้ำมันอากาศยานผ่านท่อฯ และระบบเติมน้ำมันอากาศยาน

SSP: บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) – 4.08%

บริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้มีบริษัท เสริมสร้าง พลังงาน จำกัด เป็นบริษัทแกน ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่ จ.ลพบุรี มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 40 เมกะวัตต์

BCH: บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) – 3.91%

หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจในรูปแบบกลุ่มโรงพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 13 แห่ง และโพลีคลินิก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้บริการทางการแพทย์ในระดับปฐมภูมิ-ตติยภูมิ ภายใต้ 4 กลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่

  1. โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล: ให้บริการแก่กลุ่มคนไข้เงินสดระดับบนและคนไข้ชาวต่างชาติ
  2. กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล: ให้บริการแก่กลุ่มคนไข้เงินสดระดับกลางบน
  3. กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์: ให้บริการแก่กลุ่มคนไข้เงินสดระดับกลางและคนไข้ในโครงการประกันสังคม
  4. กลุ่มโรงพยาบาลการุญเวช: ให้บริการแก่กลุ่มคนไข้ในโครงการประกันสังคม

นอกจากนี้ยังเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ที่ให้บริการด้านการตรวจวินิจฉัยรักษาโรคหัวใจแบบครบวงจร ทั้งการรักษาโดยการสวนหัวใจและการผ่าตัด

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของ TLMSEQ

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

** ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต **

ผลการดำเนินงานย้อนหลังแบบปักหมุดของกองทุน TLMSEQ
ที่มา: TLMSEQ Fund Factsheet (ข้อมูล ณ วันที่ 27/07/2022)

ผลการดำเนินงานของกองทุน TLMSEQ หากจะพูดว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับดีเยี่ยมก็คงจะไม่เกินจริงสักเท่าไร เพราะสามารถทำผลตอบแทนย้อนหลังเอาชนะทั้งดัชนีชี้วัดอย่าง sSET TRI และค่าเฉลี่ยในกลุ่มได้ในทุกช่วงเวลา โดยกองทุน TLMSEQ ทำผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ได้ถึง 30.36% ในขณะที่ผลตอบแทนดัชนีชี้วัดทำไปได้เพียง 7.28% และผลตอบแทนเฉลี่ยในกลุ่มที่ทำไปได้เพียง 2.60% ผลการดำเนินงานของกองทุนที่สามารถเอาชนะทั้งดัชนีชี้วัดและค่าเฉลี่ยในกลุ่มทุกช่วงเวลาเช่นนี้ ก็ถือเป็นการพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของกองทุน TLMSEQ ได้เป็นอย่างดี

ความเสี่ยงของกองทุน TLMSEQ

รีวิวกองทุน TLMSEQ: จังหวะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ผลงานโตเด่นแซงดัชนี

Standard Deviation (SD) ของกองทุน TLMSEQ (ข้อมูล ณ วันที่ 19/08/2022)
ที่มา: https://www.finnomena.com/fund/TLMSEQ/performance

กองทุน TLMSEQ จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 ซึ่งแม้ว่ากองทุน TLMSEQ จะไม่มีความเสี่ยงจากจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเป็นกองทุนหุ้นในประเทศไทย แต่ก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนของผลการดำเนินงาน (Standard Deviation: SD) อยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าค่อนข้างสูง จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าค่า SD ที่บ่งบอกถึงความผันผวนของกองทุน TLMSEQ จะสูงกว่าค่าเฉลี่ย SD ในกลุ่ม แต่หากอ้างอิงจากผลการดำเนินงานที่สามารถเอาชนะผลตอบแทนเฉลี่ยในกลุ่มได้อย่างสวยงามในทุกช่วงเวลาแล้วก็คงต้องบอกว่าความเสี่ยงในระดับนี้ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติของกองทุนที่มีกลยุทธ์การบริหารจัดการลงทุนแบบ active management

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยการจัดพอร์ตการลงทุน โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดพอร์ตการลงทุนจากฟินโนมีนาได้ที่ https://www.finnomena.com/port/

ค่าธรรมเนียมของกองทุน TLMSEQ

  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 2.1400%
  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) และ Switching-in: 1.00%
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อ (Back-end Fee) และ Switching-out: ยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: 2.3068%

เงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน TLMSEQ

  • มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก: 1,000 บาท
  • มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งถัดไป: 1,000 บาท

กองทุน TLMSEQ เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่สนใจหรือต้องการลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโต (Growth Stock) สูง
  • ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อลดความผันผวน
  • ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้ และสามารถรับความเสี่ยงได้สูงเพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

สำหรับใครที่อยากฟังคุณประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ บล.ทาลิส มาวิเคราะห์กองทุน TLMSEQ แบบเจาะลึกในรายการ Market Talk ของ FINNOMENA เพิ่มเติมก็สามารถกดรับชมคลิปด้านล่างได้เลย

ส่วนใครที่อยากลงทุนในกองทุน TLMSEQ แล้วยังได้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีแถมไปด้วย ทาง TALIS เขาก็มีกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) อย่าง TLMSEQRMF ให้เลือกลงทุนเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม สรุป LIVE Market Talk: เจาะลึกกองทุน TLMSEQ โอกาสลงทุนหุ้นกลาง-เล็ก ของดีที่ไม่ควรมองข้าม

อยากลงทุนกองทุน TLMSEQ แต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนในสัดส่วนเท่าไรดี?
👉 ลงทะเบียนรับคำแนะนำเพิ่มเติม คลิก >>> https://finno.me/fpick-services

— planet 46.

อ้างอิง


คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”