นักลงทุนมือใหม่หลายคนคงประสบกับปัญหาที่ว่าตลาดหุ้นมี 600-700 บริษัท ไม่รู้จะเริ่มลงทุนตัวไหนดี บางคนเลือกหุ้นที่มีตัวอักษรแรกตรงกับชื่อตัวเองเพื่อความเป็นสิริมงคล บางคนเลือกหุ้นที่กำลังดังจากข่าวตามสื่อต่าง ๆ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ผมขอแนะนำเป็นคำขวัญแบบนี้เลยครับจะได้จำกันง่าย ๆ
“หุ้นดี มีคุณธรรม ขยันทำกำไร”
เลือกบริษัทที่เรารู้จักเป็นอย่างดี รู้ว่าเค้าขายอะไร หรือแม้แต่เป็นหุ้นที่เราใช้บริการอยู่ เหมือนกับหลักการที่ปีเตอร์ ลินซ์ บอกว่าเขาได้หุ้นห่านทองคำหลายตัวจากการคุยกับเพื่อนฝูง ขับรถเที่ยววันหยุด หรือไปซื้อของตามห้าง เช่น หุ้นเสื้อผ้า GAP ที่เห็นคนซื้อกันเยอะแยะ และเปิดสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เค้ากลับมาเปิดดูงบการเงินและทำกำไรได้อย่างมากในที่สุด
หลักการทดสอบง่าย ๆ ว่าเราเข้าใจได้ดีจริง คือ เราสามารถเล่าเรื่องหุ้นตัวนี้ให้ใครฟังก็รู้เรื่องภายใน 5 นาที หรือ เราวาดเป็นภาพออกมาง่าย ๆ บนกระดาษแผ่นเดียวได้ ถ้าแม้แต่เด็ก 10 ขวบ ยังรู้เรื่อง แปลว่า เราเข้าใจหุ้นตัวนี้ดี
หุ้นตัวแรกไม่ควรเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงเพราะถ้าเราขาดทุนจะทำให้เราหมดกำลังใจ และคิดว่าตลาดหุ้นมันแสนโหดร้าย ทำไมทำกับชั้นแบบนี้ และทำให้เรากลัวตลาดไป อัตราส่วนง่าย ๆ ที่เราควรพิจารณาไว้ก่อนเลยคือ
หุ้นตัวแรกอย่างน้อยขอให้มีปันผล 3-4% เพื่อให้เราอุ่นใจว่าอย่างน้อยก็มากกว่าเอาเงินไปฝากธนาคาร หรือพลาดพลั้งเสียที อย่างน้อยก็มีเงินปันผลรองรับ
หุ้นก็คือบริษัท แต่สิ่งที่จะนำพาธุรกิจให้เติบโต คือ คนหรือผู้บริหารที่ดี เราต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบว่า เจ้าของหรือผู้บริหารของบริษัทที่เราจะไปร่วมหัวจมท้ายด้วยนั้นไว้ใจได้หรือไม่ เคยมีคดีความอะไรมั้ย เคยต้องสงสัยว่าปั่นหุ้นหรือเปล่า ง่าย ๆ เลยคือ เอาชื่อเขาไป search google แล้วตามด้วยคำว่า “ปั่นหุ้น” ถ้าไม่มีอะไรไม่ดีขึ้นมาก็อุ่นใจได้ในระดับนึง
นอกจากนี้เราก็อาจจะลองสังเกตจากรายงานผู้ตรวจสอบบัญชีว่า โดยปกติแล้วรับรองงบการเงินทุกไตรมาสหรือเปล่า หรือว่าไม่รับรอง ไม่ถูกต้อง มีเงื่อนไขในงบ ก็ให้เราสงสัยไว้ก่อนว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
ให้ยึดหลักที่ท่านพุทธทาสภิกขุได้กล่าวไว้ว่า “คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง” เหมือนเวลาเราเลือกคบเพื่อน หรือจะไปร่วมหุ้นทำธุรกิจกับใคร เราก็คงไม่อยากไปอยู่กับคนที่ไม่ดีซึ่งอาจจะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้เราได้ในที่สุด
เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ กับคำว่า Top Line และ Bottom Line
และต้องตรวจสอบให้ดีว่าเป็นรายได้หรือกำไรพิเศษหรือเปล่า เพราะบางทีเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ทำให้เราเข้าใจผิดว่าจะโตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
สรุป หลักการง่าย ๆ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังค้นหาหุ้นตัวแรกลองจำคำขวัญนี้ไปใช้ดูครับ “หุ้นดี มีคุณธรรม ขยันทำกำไร”
แต่สังเกตอะไรอย่างนึงมั้ยครับว่าผมไม่ได้พูดถึงเรื่องราคาหุ้นเลย เพราะผมเชื่อว่า “มูลค่าหรือคุณค่า” คือสิ่งแรกที่เราต้องพิจารณา และ “ราคา” คือสิ่งสุดท้ายที่เราค่อยไปดูต่างหากว่าคุ้มค่าแค่ไหนที่จะลงทุนเหมือนอย่างที่ Warren Buffet บอกเราว่า
“Price is What you Pay, Value is What you get”
โดย Stock Vitamins