FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 17/05/2021

“Elon Musk เผย Tesla อาจเตรียมขาย Bitcoin”

ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones +360.68 จุด (+1.06%) S&P500 +61.32 จุด (+1.49%) Nasdaq +304.99 จุด (+2.32%) Small Cap 2000 +51.77 จุด (+2.38%) VIX index อยู่ที่ 18.81 (-18.68%) บริษัทใน S&P500 กว่า 86% รายงานรายได้และกำไรดีกว่าตลาดคาด และมากกว่าครึ่งใน 86% เป็นกลุ่มเทคโนโลยี ตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนเมษายน (U.S. retail sales) ไม่เติบโต จากที่ตลาดคาดว่าจะโต 1% ตัวเลขค่าความสัมพันธ์ระหว่าง S&P500 กับตัวเลขพันธบัตรรัฐบาลในตลาดซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวขึ้นสูงสุดตั้งแต่ปี 1999

ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 +64.99 จุด (+1.64%) Dax เยอรมัน +216.96 จุด (+1.43%) CAC 40 ฝรั่งเศส +96.81 จุด (+1.54%) เศรษฐกิจยุโรปเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากแนวโน้มหลายประเทศเริ่มมีแผนเปิดเมือง การฉีดวัคซีนยังเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง อีกปัจจัยคือแนวโน้มการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนบางส่วนสู่ยุโรป

ตลาดหุ้นเอเชียล่าสุด (เช้าวันที่ 17 พ.ค. 2564) SET ไทยปรับตัวลดลงกว่า 10 จุดจากวันทำการก่อนหน้า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวในทิศทางลบประมาณ 1.2% ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและอินเดียเคลื่อนไหวในทิศทางบวก ตัวเลขค้าปลีกของจีนที่ประกาศออกมาต่ำกว่าคาด

ทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 17 พ.ค. 2564) ราคาทองคำ เคลื่อนไหวอยู่ระดับประมาณ 1,850 เหรียญฯ ดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจัยที่น่าติดตามคือ ข่าวการขาย Bitcoin ของ Tesla ว่าจะมีการขายออกมาจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าจริง อาจจะเป็นผลดีต่อทองคำ Silver เคลื่อนไหวที่ราคาประมาณ 27.76 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 65.42 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 68.75 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาเหล็กในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของสิงคโปร์ติดลบประมาณ 10% สาเหตุจากทางการจีนมองว่าราคาเหล็กปรับตัวสูงและกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้ารวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ จึงมีการประกาศจะเข้าไปควบคุมราคาเหล็ก ทำให้เป็นปัจจัยกดดันราคาเหล็ก

Cryptocurrency (เช้าวันที่ 17 พ.ค. 2564) Bitcoin ราคาปรับตัวต่ำกว่า 45,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบ 7 วัน ปรับตัวลงกว่า 25% ขณะที่เหรียญอื่นๆ เช่น Ethereum รวมถึง Dogecoin ราคาปรับลดลงเช่นเดียวกัน Elon Musk ออกมาตอบทวีตเกี่ยวกับ Bitcoin ในทิศทางลบเกี่ยวกับข่าวที่ว่า Tesla มีแนวโน้มที่จะขาย Bitcoin ออกมาในอนาคต นอกจากนั้น ในอาทิตย์ที่แล้วมีข่าวการระงับการใช้ Bitcoin ในการซื้อขายรถ Tesla Musk ยังกล่าวถึง Dogecoin ว่าถ้าไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้ Tesla อาจจะออก cryptocurrency ของตัวเอง จากข้อมูลพบว่า Bitcoin และ Ethereum เป็นสกุลเงิน cryptocurrency 2 สกุล ที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานมากที่สุด

ตลาดหุ้นเอเชียผลตอบแทนแพ้ตลาดหุ้นโลกใน 4 เดือนย้อนหลัง นอกจากนี้ในเดือนพฤษภาคม ตลาดหุ้นเอเชียมีผลตอบแทนย้อนหลังในช่วงนี้ค่อนข้างไม่ดีเฉลี่ยติดลบประมาณ -2% นอกจากนี้ผลประกอบการของเอเชียยังเติบโตได้ไม่ดีเท่าสหรัฐฯ (เอเชียประมาณ 10% สหรัฐฯ ประมาณ 16-17%) ในช่วงหลังหากดูราคาเปรียบเทียบระหว่างเอเชียกับ S&p500 โดยใช้ Relative P/E เห็นว่าตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงมาระดับ -1S.D. บ่อยครั้ง ขณะที่การปรับตัวขึ้นทำได้แค่เท่ากับค่าเฉลี่ย

ตลาดหุ้นจีน ตอนนี้มีค่าความสัมพันธ์กับหุ้นโลกไปในทิศทางที่เป็นลบ ประเทศไทยมีแนวโน้มเชิงลบจากหนี้ครัวเรือนซึ่งอยู่ที่ 89.2% ขณะที่หนี้สินต่อหัวปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต ซึ่งจะเป็นแนวโน้มกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หุ้นไทยหลายตัวมียังมีผลประกอบการที่ดี

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ มีแนวโน้มการลงทุนในหุ้น IPO ค่อนข้างมาก โดยจำนวนบริษัทที่เข้า IPO ในปี 2021 เท่ากับครึ่งหนึ่งของปี 2020 ขณะที่ในแง่ของมูลค่าในปี 2021 เกินปี 2020 ไปแล้ว สัดส่วนนักลงทุนรายย่อยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมจำนวน IPO ของตลาดหุ้นทั่วโลก สูงสุดในปี 2017 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงปี 2018 – 2019 และฟื้นตัวได้เล็กน้อยในปี 2020 แต่ถ้าหากดูในแง่ของเม็ดเงิน IPO จะพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี โดย Emerging market มีกระแสการทำ IPO เพิ่มขึ้นมา แต่จำนวนเงินจะเป็นสหรัฐฯ ที่มีมากที่สุด

JD Logistics เตรียม IPO ในตลาดหุ้นฮ่องกง มูลค่า 3,400 ล้านดอลลาร์ ใหญ่ที่สุดในปีนี้เป็นอันดับที่ 2 โดยก่อตั้งในปี 2007 รายได้เติบโต +47% ในปี 2020 ได้ปัจจัยบวกจากสถานการณ์ COVID-19

วันนี้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในไทย อยู่ที่ 9,635 ราย ทำสถิติสูงสุดใหม่ (ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,782 จากในเรือนจำ 6,853 ราย) เสียชีวิตเพิ่ม 25 คน มีผู้หายป่วยกลับบ้าน 1,397 ราย หายป่วยสะสม 39,774 ราย Bloomberg คาดการณ์ GDP ไตรมาส 1 -3.5% Reuters คาดการณ์ -3.3%

ไต้หวันและสิงคโปร์เผชิญตัวเลขผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงในสัปดาห์ก่อน ไต้หวันมีการสั่งปิดสถานที่ๆ มีความเสี่ยง เช่น สถานบันเทิง รวมถึงอาจจะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น ประชาชนเริ่มมีการกักตุนสินค้า เวียดนามพบผู้เสียชีวิต รวมถึงมีตัวเลขการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น

The Opportunity

The Opportunity ตลาดหุ้นอินเดีย BSE SENSEX มีแนวโน้ม sideway down จุดที่น่าสนใจคือ GDP Growth ที่จะเติบโต และจะขึ้นมาเป็นประเทศที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และมีการเติบโตของผลแระกอบการบริษัทจดทะเบียนที่สูงกว่าภูมิภาค แรงงานมีจำนวนมาก ค่าแรงยังอยู่ในระดับไม่แพง รวมถึงเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ P/E อยู่ที่ 22 ค่อนข้างแพง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับ Emerging market ค่า P/E จะปรับลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย กอง INDIA 4 กองเด่นเทียบจาก Sharpe ratio ในรอบ 1 ปี คือ TMBINDAE, ASP-INDIA, KF-INDIA และ K-INDX (Passive) ผลตอบแทนย้อนหลัง 2 กอง ที่โดดเด่นทั้ง 1 ปี และ YTD. คือ TMBINDAE ถ้าดูผลการดำเนินงานของกองทุนหลักย้อนหลัง 5 ปี จะพบว่ากองทุนหลักของ ASP-INDIA ทำได้ดีที่สุด ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงอินเดียคือ จำนวนผู้ติดเชื้อ และสายพันธ์ที่ระบาดใหม่ นอกจากนี้การที่อินเดียมีสัดส่วนการบริโภคภายในเป็นหลัก ทำให้เมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้กระทบการบริโภคบ้าง การลงทุนระยะสั้นอาจจะมีปัจจัยกดดันบ้าง แต่ระยะยาวยังถือเป็นประเทศที่น่าสนใจ การลงทุนในอินเดีย มีความผันผวนของการลงทุนค่อนข้างสูง ผู้สนใจลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน และควรกระจายการลงทุนไปในประเทศหรือ sector อื่นด้วย

TSF2024