News Update: รัฐบาลลดภาษี พ.ร.บ. รถยนต์ - ยกเว้นภาษีนำเข้า จูงใจคนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้า กระตุ้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

ครม. มีมติเห็นชอบสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยอนุมัติการลดภาษีประจำปีลง 80% และยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบหรือผลิตในเขตปลอดภาษี และเขตการค้าเสรี

เมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) ครม. ได้ออกมาตรการสนับสนุน และส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ โดยมี 2 มาตรการที่สำคัญ ดังนี้

1. ลดอัตราภาษีรถตาม พ.ร.บ.รถยนต์ประจำปีลงร้อยละ 80 เป็นเวลา 1 ปี

มีมติอนุมัติร่าง พ.ร.ฎ. ลดภาษีประจำปีลง 80% สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ที่จดทะเบียนระหว่าง 1 ต.ค. 2565 – 30 ก.ย. 2568 เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน

เป็นการปรับลดภาษีตามอัตราที่กำหนดตามอัตราภาษีประจำปีท้าย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 (แก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ. รถยนต์ (ฉ. 14) พ.ศ. 2550)

ตัวอย่างเช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ขนาดใหญ่สุด (น้ำหนัก 7,001 กก. ขึ้นไป) เดิมอยู่ที่ 3,600 บาท ปรับลงมาเหลือ 720 บาท

2. ยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่

นอกจากนี้ยังมีการยกเว้นอากร ศุลกากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ทั้งแบบรถยนต์นั่ง, รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 10 คน และรถยนต์กระบะ ที่ประกอบหรือผลิตในเขตปลอดอากร หรือเขตประกอบการเสรีตามที่กำหนด โดยมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68

ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด

เช่น ให้นับมูลค่าของเซลล์แบตเตอรี่จากต่างประเทศ สำหรับการนำมาผลิตเป็นแบตเตอรี่ และนำไปผลิตหรือประกอบเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในเขตปลอดภาษี รวมเป็นต้นทุนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศสำหรับการคำนวณมูลค่าเพิ่มได้ไม่เกิน 15% ของราคายานยนต์ไฟฟ้าหน้าโรงงาน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่า การยกเว้นภาษีดังกล่าวจะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 36,128 ล้านบาท และอาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามปริมาณความต้องการภายในประเทศ

อย่างไรก็ดี การสูญเสียดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาใหญ่เนื่องจาก สัดส่วนรายได้จากภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นเพียง 0.05% เท่านั้น

มาตรการนี้ถือเป็นการส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปริมาณ PM 2.5 ในอากาศ รวมถึงช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ

ก่อนหน้านี้ (15 ก.พ.) รัฐบาลได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ดังนี้
– เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน
– ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2% และรถกระบะเป็น 0%
– ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566
– ยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) จำนวน 9 รายการ

อ้างอิง: https://www.bbc.com/thai/thailand-62305769

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war