News Update: เศรษฐกิจตกต่ำแต่ยอดขายแบรนด์เนมพุ่ง LVMH รายได้โต 19% แม้จะขึ้นราคา 3% - 8% ยอดขายสหรัฐฯ-ยุโรปโตดี ชดเชยจีนซบเซา

LVMH รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ดีเกินคาด จากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในยุโรปและสหรัฐฯ จนสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงในจีนและเอเชียได้

LVMH คือเครือบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าของแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกมากกว่า 70 บริษัทย่อย ตั้งแต่ Louis Vuitton, Christian Dior, Celine, Bvlgari, Givenchy, Fendi, Tiffany & Co ไปจนถึง Moet & Chandon

โดยบริษัทได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่แข็งแกร่งหลังการเปิดเมืองอีกครั้งจากโรคระบาด เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเริ่มกลับมาเข้าสังคม ใช้เงินออมที่สะสมไว้ในช่วงโควิด รวมถึงหนีจากตลาดหุ้นที่ปั่นป่วนและราคาสูง

ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ของ LVMH เพิ่มขึ้น 19% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 18,730 ล้านยูโร หรือประมาณ 18,950 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 17,130 ล้านยูโร

อย่างไรก็ตาม ยอดขายในจีนลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านโควิดที่รัฐบาลจีนบังคับใช้มาตั้งแต่เดือน มี.ค.

LVMH เสริมว่า มีการใช้จ่ายในสินค้าแบรนด์เนมเพิ่มขึ้นในยุโรป จากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ได้ประโยชน์จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

บริษัทมีมุมมองบวกอย่างมากต่อยอดขายในสหรัฐฯ แต่ยังต้องจับตาดูยอดขายในจีน เพราะมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าตลาดจีนฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน

แม้ราคาสินค้าแบรนด์เนมจะขึ้นมาในช่วง 3% – 8% แต่ LVMH ยังไม่เห็นการตอบโต้ใดๆ จากผู้บริโภค และคาดว่าจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

◆ กำไรจากการดำเนินงานในแผนกแฟชั่นและเครื่องหนังที่นำโดย Louis Vuitton และ Dior ปรับตัวขึ้นมาถึง 41.4%
◆ ยอดขายในแผนกไวน์และสุราดีดตัวขึ้นมา 30% จากข้อจำกัดด้านลอจิสติกส์และซัพพลายเมื่อต้นปี
◆ ยอดขายในธุรกิจขายปลีกแบบคัดสรร (Selective Retailing) ซึ่งรวมถึงแบรนด์เครื่องสำอาง Sephora เพิ่มขึ้น 20%

อ้างอิง: https://www.reuters.com/business/retail-consumer/lvmh-q2-sales-climb-19-offsetting-slower-china-2022-07-26/ 

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน

iran-israel-war