ถ้าเป้าหมายเกษียณชัดเจน RMF ย่อมดีกว่า LTF

คำถามยอดฮิต ลงทุนอะไรดีระหว่างกองทุน LTF และ RMF?

คุณคิดแบบนี้อยู่หรือไม่

LTF สั้นดี ลงทุนไม่กี่ปีเอง

RMF ยาวไปอีกนานนะ กว่าจะได้เงินอายุ 55 ปีไม่คุ้มหรอก

ทำไมคนถึงนิยม LTF มากกว่า RMF?

เหตุผลหลักคือ คนคิดว่า RMF  มีระยะลงทุนนานไป และส่วนใหญ่ต้องการลงทุนเพื่อลงภาษี แต่ถ้าเป้าหมายเกษียณชัดเจน และสำคัญ เนื่องจากเงินเกษียณจะเป็นการลงทุนในระยะยาว จะมองเป้าหมายการเกษียณเป็นหลัก ไม่ใช่การลดภาษีเป็นหลัก

ดังนั้น การลงทุนใน RMF  มีประโยชน์กว่า LTF ดังนี้

1. พลังของดอกเบี้ยทบต้น

คนส่วนใหญ่มักจะขายหน่วยลงทุนทิ้งเพื่อเอาเงินออกมาใช้ บางคนขายไปแล้วนำเงินกลับไปซื้อ LTF ต่อก็เพื่อผลประโยชน์ด้านภาษี ทำให้การออมไม่ต่อเนื่องและไม่มีเงินออมใหม่ๆ เข้ามาเติมเพิ่ม!!! RMF จะเป็นการออมระยะยาว ทำให้เกิดพลังของดอกเบี้ยทบต้นได้ดีกว่า

ยกตัวอย่าง:

ลงทุนเงิน 100,000 บาท ที่ผลตอบแทน 6% สิ้นปีที่ 7  จะมีมูลค่าเงิน 150,363 บาท

แต่ถ้าลงทุนยาว 14  ปี  จะมีมูลค่าเงิน 226,090 บาท

2. ลงทุนได้หลาย Asset Class

LTF เน้นลงทุนในหุ้น จะต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ในขณะที่ RMF จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะ RMF มีนโยบายการลงทุนที่มากกว่า

RMF ลงทุนในหุ้น
RMF ลงทุนในตราสารหนี้
RMF ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
RMF ลงทุนได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้

3. กระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้

LTF จะลงทุนหุ้นได้แค่ในประเทศไทย แต่ RMF กลับสามารถลงทุนได้หลาย Asset Class ดังนั้นเราสามารถลงทุนโดยที่จะกระจายความเสี่ยงได้

4. จัดพอร์ตการลงทุนและปรับสัดส่วนการลงทุนได้ง่ายกว่า

เนื่องจาก RMF ลงทุนได้หลาย Asset Class ดังนั้นจะจัดพอร์ตการลงทุนได้หลาย Asset Class

เช่น คนอายุ 35 อาจจะจัดพอร์ตกองทุน RMF หุ้นไทย 35%  หุ้นต่างประเทศ 30% กองทุน RMF ตราสารหนี้ 25% กองทุน RMF ทางเลือก ลงทุนใน REIT 10% แต่เมื่อเวลาผ่านไป อายุเยอะมากขึ้น ต้องการปรับสัดส่วนของหุ้นในน้อยลง หรือ แต่ละปี อาจจะมีการทำ พอร์ต Rebalancing เราจะสามารถ switch ระหว่างกองทุน RMF ด้วยกันเองได้ง่าย

ดังนั้นถ้าเป้าหมายเกษียณชัดเจนและสำคัญกับคุณ RMF คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการเกษียณ

สิ่งที่คุณควรจะทำคือ

“จงวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณไว้เป็นเป้าหมายหลักของชีวิตคุณ”

จงอย่ารอให้ลูกหลานเลี้ยง เพราะพวกเขาอาจจะเลี้ยงเราไม่ได้
จงอย่ารอให้รัฐบาลเลี้ยง เพราะพวกเขาอาจจะไม่มีเงินเพียงพอ
จงอย่าคิดว่าเก็บเงินแค่ 10% เพราะคุณอาจจะต้องเก็บเงินมากกว่านั้น
จงอย่ากลัวการลงทุน เพราะการลงทุนเป็นหนทางเดียวที่จะชนะเงินเฟ้อ
จงอย่ากลัวการทำประกันสุขภาพ เพราะคุณจะได้มีสวัสดิการยามแก่
และสุดท้าย

จงเปลี่ยนทัศคติของคุณใหม่

“จาก เกษียณเริ่มเมื่อไรก็ได้ เป็น เกษียณต้องเริ่มเดี๋ยวนี้”

WealthGuru

iran-israel-war