คุณจะอยู่รอดได้อย่างไรในยุค Sandwich Generation

คุณเคยเจอสถานการณ์แบบนี้หรือไม่?

กำลังจะต้องจ่ายเงินค่าเล่าเรียนลูก ค่าเล่าเรียน 20,000 บาท แต่บังเอิญคุณแม่ล้มป่วย ต้องใช้เงิน 50,000 บาท

คุณต้องรับภาระทั้งดูแลคุณพ่อคุณแม่ และบุตร

คุณเป็นคนยุคไหน Gen X หรือ Gen Y แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ยุค Generation อะไรก็ตาม

คุณทั้งหมดกำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า “Sandwich Generation”

เรามาเข้าใจความหมายของ Sandwich Generation ก่อน  Sandwich Generation หมายถึง วัยของคนทำงานที่จะต้องดูแล ทั้งลูกและพ่อแม่ซึ่งสูงอายุ

อะไรทำให้เกิด Sandwich Generation ?

ข้อแรก คนจะสูงอายุมากขึ้น อยู่นานขึ้น ที่สำคัญ ต้องการชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่าประเทศไทยในอีก 17 ปีข้างหน้า หรือประมาณปี 2568 จะมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 14.45 ล้านคนจากจำนวนประชากร 72.28 ล้านคน หรือคิดเป็น 20% ของประชากร เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปี 2548 อย่างมาก

ปัจจุบันไทยมีจำนวนคนวัยเกษียณในสัดส่วน 10% ของประชากร แต่กำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของประชากรในปี 2568 และเพิ่มเป็น 30% ในปี 2593 แต่อัตราเกิดลดน้อยลง ปัจจุบันอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 75 ปี แต่ในอนาคตอาจจะเพิ่มเป็น 80-85 ปี

ปัจจุบันคนวัยทำงาน 7 คนต้องเลี้ยงดูคนชรา 1 คน แต่อีก 20 ปีข้างหน้า สัดส่วนนี้จะเปลี่ยนเป็น 4 ต่อ 1 และในอีก 40 ปีข้างหน้า (2593) จะเหลือคนทำงาน 2 ดูแลคนชรา 1 คนเท่านั้น

ภาระของคนวัยทำงานในวันนี้จึงหนักอึ้งกว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ในยุคก่อน

ข้อที่สอง เด็กจำเป็นต้อง ดูแลเอาใจใส่เป็นระยะเวลานานมากเวลากว่าในอดีตที่ผ่านมา

เป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับคนหนุ่มสาว ที่จะเป็นอิสระจากพ่อแม่ของพวกเขาในเวลาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับ สมัยก่อนหน้านี้ ใน อดีตที่ผ่านมาคนหนุ่มสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเรียนจบ พวกเขาอยากจะเป็นอิสระ แต่งงานมีครอบครัว ตอนนี้หลาย ๆคนหนุ่มสาว มีโอกาสจะอยู่ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของเขามากขึ้น เนื่องจากแต่งงานช้าลง

คนที่อยู่ใน (sandwich generation) เพราะตัวเองกำลังอยู่ในตำแหน่งที่ “ถูกบีบ” จากภาระรอบด้าน สิ่งที่คนวัยทำงานรุ่นนี้จะเผชิญ มีมากกว่าสิ่งที่คนยุคพ่อแม่ได้เผชิญ และมีความซับซ้อนกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องชีวิตบั้นปลายที่มีเงินร่อยหรอลงเท่านั้น แต่ จะมีภาระเข้ามาหลายทาง เรื่องของพ่อแม่ต้องดูแล เรื่องของตัวเอง และ เรื่องของลูก

ดังนั้น เราควรจะเตรียมแผนการเงินเพื่อจะได้อยู่รอดในยุคของ Sandwich Generation

  1. เข้าไปช่วยวางแผนการเงินให้พ่อแม่ คุณควรจะเข้าไปช่วยบริหารจัดการเงินของคุณพ่อแม่ ตั้งแต่ท่านยังไม่เกษียณ คุณต้องช่วยท่านจัดการอะไรบ้าง
    • จัดการหนี้สิน เรื่องนี้ด่วนที่สุดเนื่องจากถ้ายังมีหนี้สินอยู่ นอกจากพ่อแม่ลำบาก จะทำให้ตัวของคุณเองลำบากด้วย
    • ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องใช้หลังเกษียณ ค่าใช้จ่ายเรื่องนี้จะเยอะที่สุด มีแผนการจัดการค่ารักษาพยาบาลอย่างไร
    • จัดพอร์ตการลงทุนหลังเกษียณให้พ่อแม่แบ่งเงินให้เหมาะสมกับช่วงอายุหลังการเกษียณ
  2. คิดถึงตัวเองตอนแก่ให้มากๆ ดังนั้นคุณจะต้องวางแผนการเงินเกษียณอายุของตัวเอง จะต้องลงทุนและมีแผนประกันสุขภาพก่อนและหลังเกษียณ โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลสำคัญมาก เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่มากที่สุด
  3. ไม่จ่ายค่าการศึกษาลูกจนเกินไป ให้แยกเงินเกษียณของตัวเองกับเงินเพื่อการศึกษาบุตร ออกกันให้อย่างชัดเจน ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า จะส่งลูกถึงระดับชั้นอะไร และเรียนแบบใด เอกชน หรือเป็น International เงินลงทุนจะต้องครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยเช่น ค่าเรียนพิเศษ

    สำคัญที่สุดคือ พ่อแม่บ้างคนให้ความสำคัญกับเงินเพื่อการศึกษาบุตร มากจนเกินไป จนกระทั่งทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ลูกเรียนดีที่สุด ทำให้เงินหมดไม่เหลือสำหรับแผนการเกษียณ

  4. สอนให้ลูกจับปลากินเองได้ สอนลูกให้ช่วยเหลือตัวเองให้ได้โดยเร็ว ทำให้เขาคิดได้ว่าควรจะต้องทำอะไรเพื่อชีวิตของตัวเอง เป้าหมายของเขาคืออะไร ฝึกให้ลูกทำงานพิเศษ อย่าเน้นเรียนเพื่อเอาเกรด ควรเพิ่มทักษะชีวิต

เริ่มนำวิชา “การเงิน” มาสอนให้เด็กเรียนรู้ตั้งแต่เด็กๆด้วย

เด็กประถม…เรียน…วิชาใช้เงิน

เด็กม.ต้นและ ม. ปลาย..เรียน…วิชาหาเงิน

เด็ก ป.ตรี … เรียนวิชาบริหารเงินและลงทุน

ยุคของ Sandwich Generation มาถึงแล้ว!

คุณละเตรียมการกับมันอย่างไร?

โดย WealthGuru