Mark Minervini  ชายหนุ่มที่เกิดมาพร้อมความยากจน หลังจากลงทุนในหุ้น ลองผิดลองถูก มามากกว่า 7 ปี เขาได้ใช้ระบบเทรดแบบ SEPA  ร่วมแข่งขัน U.S Investing Championship ปี 1997 เขาสร้างผลตอบแทนได้ 155% โดยการลงทุนในหุ้นอย่างเดียว ไม่มีพวกอนุพันธ์

นระยะเวลา 5 ปี เขาสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 220% เงินในบัญชีจาก USD100,000 วิ่งขึ้นไป USD30 ล้าน

เขาได้ชื่อเป็นหนึ่งใน Top Trader ของโลก โดยเขาเขียนหนังสือได้แก่

  • Trade Like a stock market Wizard
  • Think and Trade like a Champion

และหนังสือที่เขาถูกเชิญไปในสัมภาษณ์

  • Momentum Master: A roundtable interview with super traders
  • Stock Market Wizards: Conversation with America’s top stock trader

The Earnings Maturation Cycle

ระบบ SEPA จะ Focus ใน Stage 2 ของ Earing Maturation Cycle

  • โดยที่จะต้องมี EPS และ ยอดขาย เติบโตเหนือความคาดหมาย
  • มี volume การซื้ออย่างมากมายจากกลุ่มสถานบันและนักลงทุนรายใหญ่
  • ราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

VCP Pattern

ย่อมาจาก Volatility Contraction Pattern หุ้นจะต้องมีการหุ้น Price  Action แบบ VCP Pattern ตามรูปข้างล่าง

VCP Pattern จะเกิดจากราคาหุ้นจะค่อยๆๆ แกว่งตัวแคบลงเรื่อยๆ จน break ทะลุแนวต้านเดิม

5 กุญแจที่สำคัญของระบบ SEPA

  • จะต้อง trade ในขณะที่หุ้นเป็น trend ขาขึ้น ไม่ เทรดในขณะที่หุ้นเป็น trend sideway หรือ downtrend
  • Fundamentals: หุ้น super performance จะถูกขับเคลื่อนด้วย กำไรที่เติบโตขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งอาจจะเกิดจากการยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะมีสินค้าใหม่ หรือ ลด Cost เพราะปรับปรุงกระบวนการผลิต
  • Catalyst : ทุกหุ้นที่มีกำไรมหาศาล เนื่องจากจะต้องมีตัวเร่ง (Catalyst)  อาจจะเกิดจาก สินค้าที่ออกมาใหม่ทำให้ได้รับความนิยม ทำให้ขายได้มาก  หรือ เข้าไปซื้อบริษัทเพิ่มที่ทำให้เกิด synergy ระหว่างกัน หรือ ถ้าเป็นหุ้นวัฏจักรจะต้องเป็นราคาขาขึ้นของสินค้า commodity นั้นๆ
  • Entry Point : เวลาที่เข้าซื้อหุ้นนั้นสำคัญมาก หุ้น super performance จะมี VCP Pattern จะ break แนวต้านก่อนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • Exit Point: หุ้นที่มีลักษณะเป็น super performance อาจจะไม่ใช่ทุกตัวที่จะวิ่งขึ้นไปมีกำไร ดังนั้นคุณจะต้องมีระบบการปกป้องกำไรและเงินต้น โดยมีการทำ stop-loss ด้วย

SEPA Screening Process

  • หุ้นจะถูก screened ผ่านข้อมูลทั้ง fundamental ข้อมูลด้านพื้นฐานของกิจการ and technical data ข้อมูลด้านเทคนิค. โดยจะมี template การ filter
  • นำหุ้นที่ผ่านการ filter มาดูรายละเอียด เพื่อจะเลือกหุ้น
  • กำไรและยอดขาย
  • อัตราเร่งของกำไรและยอดขาย
  • ประเมินกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • ความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม
  • อะไรเป็นตัวเร่งกำไรของหุ้น
  • ความแข็งแกร่งของราคาหุ้นเทียบกับตลาด
  • ลักษณะของกราฟ และ volume ที่เข้าซื้อ

Mark Minervini  เป็นนักลงทุนแนว techno-fundamental

Techno fundamental เป็นแนวทางการลงทุน ที่ใช้การผสมผสานข้อเด่นของการวิเคราะห์หุ้นทั้งสองแบบ

คือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical analysis) และการวิเคราะห์เชิงพื้นฐานกิจการ (Fundamental Analysis) เข้าด้วยกัน โดยแนวทางการลงทุนลักษณะนี้ สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งการลงทุนทั้งแบบระยะกลางและระยะยาว ถ้าใครสนใจวิธีการแบบนี้ลองไปศึกษาต่อดูนะครับ

iran-israel-war