เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี

รอบ 10 ปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มไหนเป็นผู้ชนะ หุ้นกลุ่มไหนเป็นผู้แพ้

หุ้นจีน หรือ หุ้นอเมริกา

หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว หรือ หุ้นประเทศกำลังพัฒนา คุณคิดว่าใครเป็นผู้ชนะ

เรามาดูผลย้อนหลัง 10 ปี และ 5 ปี โดยจะใช้ Global ETF เป็นตัวแทนของแต่ละกลุ่มดังนี้

ETF ETF description
QQQ Nasdaq
SMH Semiconductor
KXI Consumer Staples
RXI Consumer Discretionary
IXG Financials 
IXJ Healthcare 
MXI Materials
IXC Energy
DBC Commodity
GLD GOLD
ICLN Clean Energy
MCHI China
IXN Technology
ACWI All World 
FEZ Euro STOXX50
EXI Industrials
JXI Utilities 
CNYA China A
AAXJ Asia ex Japan
URTH World Index
AIA Asia 50

1. ผลตอบแทน vs ความผันผวน

โดยทำการทดสอบรอบระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 2013 – 2022 และทำการทดสอบรอบระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2018 – 2022

เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี

Figure 1: ผลทดสอบจาก portfoliovisualizer.com วันที่ 20 พฤษภาคม 2023

เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี

Figure 2: ผลทดสอบจาก portfoliovisualizer.com วันที่ 20 พฤษภาคม 2023

ข้อสังเกต

  • ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องสูง กลุ่มอุตสาหกรรม Technology จะให้ผลตอบแทนสูง แต่ขณะเดียวกันก็มีความผันผวนสูงด้วยเช่นกัน โดยกลุ่ม Semiconductor ให้ผลตอบแทนดีที่สุดแต่ความผันผวนสูงที่สุด
  • กลุ่มอุตสาหากรรม Healthcare และ Consumer Staple เป็นอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนต่ำกว่าตลาด (All World Index) แต่ Healthcare มีผลตอบแทนสูงกว่าตลาด
  • กลุ่มดัชนีประเทศพัฒนาแล้ว (World Index) จะทำผลงานได้ดีกว่า กลุ่มประเทศทั้งหมด (All World Index)
  • ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม Euro ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับกลุ่ม Asia แต่ในช่วง 5 ปีหลัง กลุ่ม Euro จะทำได้ดีกว่า
  • กลุ่มประเทศจีน A-shares จะทำผลตอบแทนได้ดีกว่า All shares

2. Sharpe Ratio vs Max Drawdown (ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง vs ติดลบมากที่สุด)

โดยทำการทดสอบรอบระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่ปี 2013 – 2022 และทำการทดสอบรอบระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2018 – 2022

เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี

Figure 3: ผลทดสอบจาก portfoliovisualizer.com วันที่ 20 พฤษภาคม 2023

เปิดเผยผลวิจัยการลงทุน ใครชนะ ใครแพ้ในรอบ 10 ปี

Figure 4: ผลทดสอบจาก portfoliovisualizer.com วันที่ 20 พฤษภาคม 2023

ข้อสังเกต

  • แม้กลุ่มอุตสาหกรรม Technology จะมี Sharpe Ratio (ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง) ดีที่สุด แต่จะเจอกับ Max Drawdown (ติดลบมากทีสุด) ที่มากกว่าเช่นเดียวกัน
  • อุตสาหกรรม Healthcare และ Consumer Staples มี Sharpe Ratio ดีกว่าตลาด (All World Index) และ Max Drawdown (ติดลบมากที่สุด) ที่น้อยกว่าอีกด้วย 
  • กลุ่มประเทศจีน จะมี Max Drawdown ที่ลงลึกมาก ส่งผลให้กลุ่ม Asia มี Max Drawdown ที่ลงลึกกว่า  กลุ่ม Euro ไปด้วย เนื่องจากลุ่ม China All shares ที่มี H Shares อยู่ด้วย มี Max Drawdown ที่สูงมากที่สุด
  • ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาเงินเฟ้อ และ Covid-19 เกิดความไม่แน่นอนดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Defensive เช่น Utilities, Healthcare, Consumer Staples และทองคำ จะมีความทนทานต่อสภาวะเหล่านั้น ทำให้เห็นได้ว่า จะมี Sharpe Ratio และ Max Drawdown ดีกว่าตลาด (All World Index)

อย่างไรก็ตาม นี้เป็นผลดำเนินการที่ผ่านมาแล้ว ไม่การันตีผลในอนาคต นักลงทุนควรจะพิจารณาก่อนการลงทุนเสมอ

WealthGuru


คำเตือน

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต