หลายคนเปรียบเศรษฐกิจจีนกับมังกรที่กำลังผงาดครองโลก ถ้าอย่างนั้นแล้วผมมองว่าเวียดนามก็คงเป็น ‘มังกรน้อย’ ที่รอวันทะยาน อย่างน้อยก็ในระดับภูมิภาค 

ถ้ามองในแง่ของการลงทุนตลาดเวียดนามก็เป็นตลาดที่ยังไม่ใหญ่มากนัก อาจมีสั่น ๆ บ้างระหว่างทาง ตามสไตล์ตลาดชายขอบ (frontier market) แต่ศักยภาพระยะยาวน่าสนใจ น่าจะถูกจริตเหล่า Long-Term Investor ที่ชื่นชอบการลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงตาม Mega Trend

มีปัจจัยไม่น้อยเลยที่คอยหนุนเศรษฐกิจเวียดนามให้โตได้อีกหลายปีข้างหน้า แต่จะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในบทความนี้

สารบัญ (คลิกอ่านส่วนที่สนใจได้เลย)


มังกรน้อย/เสือเศรษฐกิจตัวใหม่ 

ถ้าลองพลิกหน้าสื่ออ่านข่าวเกี่ยวกับเวียดนาม คำว่า ‘เสือเศรษฐกิจตัวใหม่’ หรือ ‘มังกรน้อย’ น่าจะเป็นคำที่ถูกยกมาอธิบายถึงเวียดนามอยู่บ่อย ๆ เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ก็เป็นอย่างที่หลายท่านทราบ นั่นคือการเติบโตของเวียดนามที่ก้าวกระโดดด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง 

ลงทุน กองทุน หุ้น เวียดนาม ระยะยาว

ภาพนครโฮจิมินห์ | Source: Shutterstock

นอกจากนี้ การที่เวียดนามเป็นไม่กี่ประเทศที่เติบโตในช่วงโควิด (ปี 2020) ก็กลายเป็นอีกเรื่องราวที่ถูกยกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องราวเบื้องหน้าที่หวือหวา คือปัจจัยเบื้องหลังอันแข็งแกร่งที่หนุนอยู่หลากหลายปัจจัย

ผลลัพธ์ที่หลายท่านเห็นกันคือผลรวมของปัจจัยหลาย ๆ ข้อ ทั้งจำนวนชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตจึงช่วยทั้งในเรื่องผลิตภาพและการบริโภค สัดส่วนคนวัยทำงาน (อายุต่ำกว่า 65 ปี) ที่สูงถึง 90% หรือประมาณ 89 ล้านคน รวมถึง การลงทุนจากบริษัทระดับโลกจำนวนมาก

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ แค่ Apple บริษัทเดียวก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทกว่า 30 แห่งและแรงงานกว่า 160,000 คน ในเวียดนามผ่าน supply chain ยังไม่นับว่ามีบริษัทอีกมากที่เข้ามาลงทุนแบบเดียวกัน เช่น Samsung, LG, Lego, Panasonic และอื่น ๆ ส่วน Netflix กับ Boeing ก็มีข่าวว่าได้ร่วม Business trip กับอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนามไปเมื่อต้นปี

แผนที่แสดงประเทศที่ลงนามในข้อตกลง CPTPP | Source: trade.gov.tw as of 24/03/2023

ส่วนอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การมีข้อตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมอย่างมาก เช่น CPTPP กับประเทศรอบมหาสมุทรแปซิฟิก, EVFTA กับสหภาพยุโรป, UKVFTA กับสหราชอาณาจักร, RCEP กับกลุ่มอาเซียนและประเทศข้างเคียง คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ซึ่งช่วยให้การนำเข้า-ส่งออก หรือทำธุรกิจกับประเทศเหล่านี้สะดวกขึ้นอย่างมาก

เวียดนามในปี 2023 ยังแรงเหมือนเดิมไหม?

ก่อนหน้านี้เราพูดถึงโครงสร้างที่แข็งแกร่งของเวียดนามกันมาพอสมควร ต่อจากนี้เราจะมาดูกันว่า พอหยิบโครงสร้างเหล่านี้มาลงสนามจริง ผลลัพธ์เป็นอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา? ตรงนี้ผมจะชวนทุกท่านไปดูกันทีละจุด

จุดที่ 1 … เวียดนามยังเติบโตแข็งแกร่ง

ปี 2023 เศรษฐกิจหลายประเทศอาจจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาด ตรงนี้สำคัญ เพราะรายได้ก้อนใหญ่ของเวียดนามมาจากการส่งออก แต่ประเด็นก็คือ Bloomberg คาดว่า เวียดนามจะยังโตได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2023 และ 2024 โดยอาจโตได้ถึง 5.2% ในปี 2023 และ 6.5% ในปี 2024 เลยทีเดียวจากภาคการบริโภคที่แข็งแกร่ง

คาดการณ์ GDP ปี 2023 และ 2024 ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก | Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 03/07/2023

จุดที่ 2 … รายได้จากการส่งออกกำลังกลับมา

อย่างที่เล่าไปก่อนหน้า การที่ประเทศอื่นยังไม่ฟื้นค่อนข้างกดดันเศรษฐกิจเวียดนาม แต่ตอนนี้ เราอาจกำลังเจอจุดเปลี่ยนเพราะโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัว เห็นได้จาก Manufacturing PMI และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

Manufacturing PMI ของเวียดนามฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 48.7 จุด จากเศรษฐกิจของคู่ค้าหลักของเวียดนามอย่างสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ขาดดุลกับเวียดนามกว่าปีละ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แกร่งกว่าคาด หนุนให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวสู่ระดับขยายตัวได้อีกครั้งที่ระดับ 3.7% YoY ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจแย่กว่าคาดของจีนยังอาจสร้างแรงกดดันอยู่เล็กน้อยในฐานะที่เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 2

ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและ PMI ภาคการผลิตของเวียดนาม | Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 07/08/2023

จุดที่ 3 … รัฐแก้ปัญหาค้างคา

ตลาดเวียดนามขึ้นชื่อเรื่องโตเป็นพัก ๆ และพักเป็นรอบ ๆ จากอุปสรรคต่าง ๆ ที่คอยเข้ามาขวางการเติบโตอยู่เนือง ๆ เช่น วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาทุจริต ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐบาลได้เข้ามาผ่อนคลายปัญหาหนี้ธุรกิจอสังหาฯ ทำให้ความกังวลต่อหุ้นกลุ่มอสังหาฯ คลี่คลายลง นอกจากนี้ ยังมีการกวาดล้างทุจริตครั้งใหญ่ของทางการเวียดนามอีกด้วย

จุดที่ 4 … กระตุ้นเศรษฐกิจแบบไม่กั๊ก

ตรงข้ามกับจีนที่กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินเพียงอย่างเดียว (เพิ่งประกาศว่าจะใช้นโยบายการคลัง) เวียดนามชัดเจนว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจแบบจัดเต็ม

  • ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการเงิน ที่ทางธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ช่วยเสริมสภาพคล่องต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ระบบการเงินลดความตึงตัว ผ่านทางการลดอัตราดอกเบี้ยหลากหลายประเภท
  • รวมถึงใช้ นโยบายการคลัง เช่น การลด VAT เหลือ 8% (จากเดิม 10%) เพื่อกระตุ้นการบริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง

 

จำนวนตัวเลขบัญชีหลักทรัพย์เปิดใหม่ของเวียดนามรายเดือน | Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 07/08/2023

สรุปแล้ว คาดกันว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะยังเติบโตแรงต่อเนื่องในปี 2023 และ 2024 โดยมีปัจจัยสำคัญคือการที่ประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ ฟื้นตัว หนุนการส่งออกของเวียดนาม รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายทั้งการเงินและการคลัง 

นอกจากนี้ ปัญหาค้างคาหลายเรื่องที่ฉุดรั้งเวียดนามก่อนหน้าก็ค่อย ๆ คลี่คลาย ทำให้การเปิดบัญชีหลักทรัพย์ของนักลงทุนเวียดนามฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 150,000 บัญชีอีกครั้ง บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนเวียดนามที่ฟื้นตัว ช่วยให้ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไปในอนาคต

เวียดนามในเวลาที่ใช่

ครั้งหนึ่ง Warren Buffett นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับตำนานเคยกล่าวเอาไว้ว่า 

สิ่งที่ต้องทำในการลงทุน คือการเลือกสิ่งที่ดีในเวลาที่ใช่ และอยู่กับมันไปตราบที่มันยังดีอยู่

หลายคนมักจะโฟกัสกับ ‘การเลือกสินทรัพย์ที่ดี’ แต่ต้องไม่ลืมว่าอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการลงทุนระยะยาวคือการซื้อในเวลาที่ใช่’ หรือพูดง่าย ๆ คือซื้อในราคาที่เหมาะสม จึงจะอยู่กันได้แบบยาว ๆ โดยไม่เจ็บตัว

เพราะถ้าสินทรัพย์ดีแต่ซื้อมาแพง อันนี้ก็ปิดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูง ๆ เหมือนกัน ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ก็คือ “ไม่มีสินทรัพย์ไหนดีในทุก ๆ ราคา”

Relative P/E ของดัชนี VN30 เทียบกับตลาดหุ้นโลก (ซ้าย), 12M forward PE ของ ดัชนี VN30 (ขวาบน) และ Relative EPS to MSCI ACWI ของตลาดหุ้นเวียดนาม (ขวาล่าง) | Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 07/08/2023

และตอนนี้ ดูเหมือนว่าหุ้นเวียดนามก็กำลังอยู่ในเวลาที่ใช่ เพราะเมื่อพิจารณาในแง่ของ Valuation ที่ดัชนี VN30 มีระดับ 12M forward PE ที่ 10.8 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และต่ำกว่าหุ้นทั่วโลกถึง -1 SD บ่งชี้ Upside ของตลาดหุ้นเวียดนาม 

นอกจากนี้ ตลาดเวียดนามยังน่าสนใจมากหากพิจารณาควบคู่กับคาดการณ์กำไร ที่ดัชนี VN30 ถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวมากกว่าหุ้นทั่วโลก

แนะนำกองทุนหุ้นเวียดนาม PRINCIPAL VNEQ-A

สำหรับนักลงทุนที่สนใจตลาดเวียดนาม ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าทยอยสะสมเนื่องจากหุ้นเวียดนามอยู่ในจุดที่พื้นฐานดีและมี Valuation เหมาะสม ส่วนใครที่มีกองทุนเวียดนามอยู่แล้วก็สามารถลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar-Cost Averaging: DCA) ได้เช่นเดียวกัน 

โดยผมขอแนะนำเป็นกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A ที่ทาง FINNOMENA FUNDS Investment Team กำลังแนะนำผ่าน MEVT Call ซึ่งมองทั้งปัจจัยมหภาค การเติบโตกำไร มูลค่าสินทรัพย์ และปัจจัยเทคนิค

อ่านบทความ : รีวิวกองทุน Principal VNEQ-A: กองทุนผลตอบแทนโดดเด่น
รับโอกาสเติบโตของประเทศเวียดนาม

PRINCIPAL VNEQ-A หรือ กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า มีนโยบายการลงทุน คือ

  • บริหารโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในประเทศเวียดนาม บริหารโดยทีมงานผู้จัดการกองทุนรวมเวียดนามกองแรกของไทย และมีนักวิเคราะห์ที่เข้าใจภาษาเวียดนามติดตามข้อมูลได้อย่างใกล้ชิด
  • เน้นการลงทุนระยะยาว ในกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ตามการพัฒนาของประเทศ
  • มีการถือครองหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง แม้ติดเกณฑ์ FOL (Foreign Ownership Limit) สร้างโอกาสเหนือกองทุนอื่น ในการเข้าถึงหุ้นคุณภาพดีแต่อาจเข้าถึงได้ยาก

 

ทรัพย์สินที่ PRINCIPAL VNEQ-A ลงทุน 5 อันดับแรก | Source: Fund Factsheet ของกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A as of 07/2023

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/

สรุปแล้ว ตลาดเวียดนามกำลังอยู่ในจุดที่ลงตัว ทั้งปัจจัยสนับสนุนการเติบโตที่กำลังสุกงอม ปัจจัยมหภาคทั้งการเงินและการคลัง และราคาที่ไม่สูงเกินไป มองได้ว่าตลาดเวียดนามอยู่ในจุดที่ดีมาก ๆ สำหรับการถือเพื่อทำกำไรสำหรับนักลงทุนระยะยาว

เขียนโดย Yong – The Long-Term Investor


อ้างอิง

คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงบางส่วน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

iran-israel-war