ทำความรู้จัก Kuaishou คู่แข่ง TikTok ในจีน ลุ้นขึ้นแท่น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี!

Kuaishou (อ่านว่า ไคว่โฉ่) แพลตฟอร์มคู่แข่ง TikTok ในประเทศจีน เตรียมตัว IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange) ในวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2021 นี้ ซึ่งการ IPO ครั้งนี้อาจระดมเงินทุนได้ถึง 5.42 พันล้าน หรืออาจจะถึง 6.2 พันล้านดอลล่าร์หากมีการออกหุ้นเพิ่ม

หาก Kuaishou ประสบความสำเร็จในการระดมทุนครั้งนี้ จะเรียกได้ว่านี่เป็นการ IPO ครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีเลยทีเดียว

โพสนี้เลยอยากขอพามาทำความรู้จัก Kuaishou กันคร่าว ๆ หน่อย

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Kuaishou

1. Kuaishou คือแพลตฟอร์มรวมคอนเทนต์ประเภทวิดิโอสั้น ๆ ความยาวประมาณ 15-20 วินาที และไลฟ์สตรีมมิ่ง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 ดูเผิน ๆ ก็คือเหมือน TikTok เลย เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มแม้ต่างชาติจะไม่รู้จัก แต่ก็เป็นที่นิยมในประเทศจีนมาก ๆ

2. เห็นชื่อไม่คุ้นหูแต่ก็ไม่ใช่แพลตฟอร์มธรรมดา เพราะ Kuaishou มีจำนวนผู้ใช้ต่อเดือน (Monthly Active Users, MAU) ถึง 776 ล้านคน ซึ่งในวันนึงแล้วโดยเฉลี่ยคนจะใช้ Kuaishou อยู่ที่ประมาณ 85 นาที หรือประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ

3. เมื่อเทียบกับ Douyin (TikTok เวอร์ชั่นจีน) แล้ว Kuaishou ยังอาจสู้ไม่ได้ในเชิงตัวเลข เพราะ Douyin นั้นมีจำนวนผู้ใช้ต่อวัน (Daily Active Users, DAU) กว่า 600 คน (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2020) แต่ ณ มิถุนายน 2020 Kuaishou ยังมี DAU อยู่ที่ 257.7 ล้านคน นับเป็นประมาณ ⅓ ของ Douyin

4. แต่ถึงอย่างนั้น Kuaishou ก็ถือว่าเติบโตเร็วมาก ๆ เพราะตัวเลข DAU ดังกล่าวนั้นเพิ่มขึ้นมาจาก 155.4 ล้านในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2019 เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นมาแบบเกือบ ๆ คูณสองก็ว่าได้

5. เมื่อเทียบกับ Douyin แล้ว ผู้ใช้ Kuaishou โดยเฉลี่ยจะมีอายุน้อยกว่า มีการศึกษาน้อยกว่า และมีความฟู่ฟ่าน้อยกว่า ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นความท้าทายในการหารายได้จากการยิงโฆษณา หรือการทำ E-Commerce

6. ในฝั่งของผู้ใช้งานนั้น สามารถสร้างไลฟ์สตรีมมิ่งขึ้นมา ผู้ชมก็สามารถซื้อ Virtual Gifts ส่งให้ผู้สตรีมได้ ส่วนในฝั่งของธุรกิจนั้น Kuaishou ก็มีเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเกมมือถือ ให้คนกดเข้าไปโหลดเล่นได้ จุดนี้ Kuaishou ก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้มา

7. ในส่วนของ E-Commerce นั้น เจ้าของสินค้าสามารถไลฟ์สดเพื่อโปรโมตสินค้าตัวเองได้ ซึ่งถ้าสินค้าขายได้ผ่านแพลตฟอร์ม ตัว Kuaishou ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเช่นกัน เจ้าของสินค้าจะขายบน Kuaishou ตรง ๆ เลยก็ได้ หรือจะผ่านพาร์ตเนอร์เช่น JD.com หรือ Alibaba ที่เชื่อมกับระบบ Kuaishou ก็ได้

8. Tencent ถือหุ้น Kuaishou อยู่ประมาณ 21.6% ก่อนหน้านี้ในปี 2017 ก็ได้ลงทุนไปกว่า 350 ล้านดอลล่าร์ เพื่อให้ Kuaishou ขยายฐานผู้ใช้ไปยังต่างประเทศมากขึ้น และเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปมากขึ้น

9. เจ้าของ Kuaishou คือ Su Hua อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์จาก Google และ Baidu และ Cheng Yixiao อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์จากบริษัท HP และ Renren

ทำความรู้จัก Kuaishou คู่แข่ง TikTok ในจีน ลุ้นขึ้นแท่น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี!

ตัวอย่าง Live Streaming ใน Kuaishou
ที่มา: marketingtochina

เพิ่มเติมเกี่ยวกับการ IPO ของ Kuaishou

1. ในการ IPO ครั้งนี้ Kuaishou ตั้งใจจะออกหุ้นเป็นจำนวนประมาณ 365 ล้านหุ้น ราคาระหว่าง 105-115 ดอลล่าร์ฮ่องกง

2. นอกจากส่วนนี้แล้วยังอาจจะมีการออกหุ้นเพิ่ม ทำให้อาจช่วยเพิ่มเงินระดมทุนได้ถึง 6.2 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งจะนับว่าเป็นการ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี โดยครั้งก่อนหน้านี้คือการ IPO ของ Saudi Aramco ที่ระดมเงินได้เกือบ 3 หมื่นล้านดอลล่าร์ในเดือนธันวาคม 2019

3. นักลงทุนที่แสดงความสนใจอยากลงทุนใน Kuaishou ก็มีทั้ง Temasek, BlackRock, Fidelity, Invesco และอื่น ๆ

ฐานะการเงินของ Kuaishou

1. จากเอกสารการยื่นขอ IPO นั้น Kuaishou ระบุว่าอยากให้น้ำหนักกับการขยายฐานผู้ใช้ ก่อนจะไปโฟกัสที่กำไร ซึ่งก็แสดงให้เห็นในช่วงครึ่งปีแรกของ 2020 Kuaishou ขาดทุนอยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านดอลล่าร์ จากรายได้ทั้งหมด 3.9 พันล้านดอลล่าร์

2. ตั้งแต่ปี 2017 บริษัทก็ไม่เคยทำกำไรได้อีกเลย แม้ว่าจะสามารถเพิ่มรายได้เป็นเท่าตัวได้ในระหว่างปี 2017-2019 ก็ตาม

3. สัดส่วนรายได้ของ Kuaishou นั้นหลัก ๆ มาจากไลฟ์สตรีมมิ่งเลย โดยในช่วงครึ่งปีแรกของ 2020 นั้นไลฟ์สตรีมมิ่งคิดเป็น 69% ของรายได้ทั้งหมด รองลงมาก็คือบริการทำการตลาดออนไลน์ (หลัก ๆ คือการโฆษณา) ซึ่งคิดเป็น 28% และที่เหลืออื่น ๆ อีก 3% ทีนี้เหล่านักลงทุนก็เลยเริ่มกังวลว่า Kuaishou พึ่งพารายได้จากไลฟ์สตรีมมิ่งมากไปไหม เพราะเหล่า Influencer ที่ไลฟ์บน Kuaishou ก็มีอยู่ไม่กี่คน

4. การขาดทุนหลัก ๆ นั้นมาจากค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาด โดยเฉพาะในปี 2020 ที่ Kuaishou เริ่มบู๊มากขึ้น ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 Kuaishou ใช้งบไป 2.1 พันล้านดอลล่าร์เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งกินไปมากกว่าครึ่งของรายได้บริษัทแล้ว

ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง

1. มาตรการควบคุมบริษัทเทคฯ ที่เข้มงวดจากรัฐบาล: ซึ่งในช่วงปลายปี 2020 นั้นมีกฎใหม่ที่ห้ามไม่ให้วัยรุ่นส่งของขวัญให้ผู้ที่ทำไลฟ์สตรีม มีการจำกัดค่าใช้จ่ายในการซื้อ Virtual Items นอกจากนั้นยังบังคับให้ทุกคนใช้ชื่อจริงบนแพลตฟอร์มอีกด้วย ซึ่งถ้า Kuaishou ไม่สามารถทำตามมาตรการของรัฐได้ ก็อาจจะเจอค่าปรับ บทลงโทษ หรือแม้กระทั่งไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจนี้ต่อไปได้เลย ซึ่งก็จะกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัท

2. ความสามารถในการทำกำไรระยะยาว: ซึ่งก็มีความเสี่ยงที่น่าจับตาตรงที่เหล่าผู้สร้างคอนเทนต์หลัก ๆ ของ Kuaishou อาจจะหนีไปทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มอื่นก็ได้ สิ่งที่ Kuaishou ทำได้คือพยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีงามกับผู้สร้างคอนเทนต์ไว้ และยังต้องสร้างให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานเรื่อย ๆ

ความแตกต่างระหว่าง TikTok และ Kuaishou ที่สื่อต่าง ๆ กล่าวไว้

1. ปรัชญาของ TikTok เน้นไปที่การส่งมอบคอนเทนต์ที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจที่สุดให้ผู้ใช้งาน ในขณะที่ Kuaishou นั้นจะเน้นไปที่การกระจายสปอรต์ไลต์ไปยังทุก ๆ คน ให้โอกาสทุก ๆ คนมีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ

2. ดังนั้น สิ่งที่ TikTok ทำจึงเป็นการทำให้ผู้ใช้รู้สึกผูกพันกับแพลตฟอร์มผ่านการส่งมอบคอนเทนต์ ไม่ได้สนใจเรื่องการสร้างสังคมออนไลน์มากนัก ในขณะที่ Kuaishou นั้นต่างกันไป เพราะ Kuaishou มองว่าตัวเองเป็นเหมือนแพลตฟอร์มโซเชียลที่ต้องการให้เหล่าผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกัน มีการพูดคุยกันจริง ๆ นั่นจึงทำให้ Kuaishou มุ่งเน้นไปที่การสร้างให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกผูกพันกับผู้คนที่ใช้ Kuaishou ด้วยกันมากกว่า

เพื่อนผู้ใจดี

ที่มา
https://www.protocol.com/kuaishou-ipo?rebelltitem=4#rebelltitem4

https://positioningmag.com/1317102
https://edition.cnn.com/2021/01/25/tech/kuaishou-hong-kong-ipo-intl-hnk/index.html
https://www.scmp.com/tech/tech-leaders-and-founders/article/3119335/kuaishou-ipo-how-chinas-newest-millennial
https://www.cnbc.com/2021/01/26/kuaishou-hong-kong-ipo-could-raise-over-5-billion.html
https://www.forbes.com/profile/su-hua/?sh=d2d9d4aeea73
https://www.kuaishou.com/en