
คาดการณ์ล่าสุดจาก FedWatch Tool มองโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 กันยายน 2025 เป็น 100% แล้ว หลังตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าคาด แนะนำกองทุนที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง

อัปเดตข้อมูล ณ วันที่ 9 กันยายน 2025 โดย Finnomena Funds
- ซื้อกองทุน KT-BOND
- ซื้อกองทุน K-GDBOND-A(A)
- ซื้อกองทุน TUSREIT
- ซื้อกองทุน ES-INTERNET
- ซื้อกองทุน ASP-DIGIBLOC
- ซื้อกองทุน B-BHARATA
นับถอยหลัง Fed ปรับลดดอกเบี้ย
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาประกาศตัวเลข Nonfarm Payrolls เดือนสิงหาคม 2025 เพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 70,000 ตำแหน่ง ในขณะฟากของอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ก็พุ่งถึง 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021
สะท้อนว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแอกว่าที่คาด กลายเป็นว่าโอกาสที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครึ่งถัดไปวันที่ 17 กันยายน เพิ่มเป็น 100% แล้ว โดย FedWatch Tool (Data as of 8 Sep) มองว่า
- โอกาสที่จะลดดอกเบี้ย 25bps เป็น 4.00 – 4.25% มีความเป็นไปได้ 90%
- โอกาสที่จะลดดอกเบี้ย 50bps เป็น 3.75-4.00% มีความเป็นไปได้ 10%
- โอกาสที่จะคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 4.25-4.50% มีความเป็นไปได้ 0%
Source: FedWatch Tool as of 08/09/2025
สรุปคือ ตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอ → คาดว่า Fed จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วขึ้น → Bond Yield ปรับตัวลดลง → เป็นโอกาสสะสมกองทุนตราสารหนี้โลกกับ REITs สหรัฐฯ นอกจากนี้ ควรหาจังหวะ Buy on Dip หุ้นเติบโต และตลาดที่มีศักยภาพไปต่อในระยะยาวด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจอันแข็งแกร่ง
กองทุนที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย
1. ตราสารหนี้โลก (Global Bond) เพราะเมื่อดอกเบี้ยลด ราคาพันธบัตรจะขึ้น Bond Yield จะลง ดีต่อกองทุนที่ถือตราสารหนี้อายุยาว (Long Duration) แนะนำกองทุน
- KT-BOND (ความเสี่ยงระดับ 4) ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Global Bond Fund โดยปัจจุบันมี Duration อายุยาวประมาณ 7 ปี
- K-GDBOND-A(A) (ความเสี่ยงระดับ 5) ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาด ผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ปัจจุบัน Duration อยู่ที่ 5 ปี
2. ทรัสต์อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ (US REITs) เป็นสินทรัพย์ที่วิ่งสวนทางกับ Bond Yield และได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง แนะนำกองทุน
- TUSREIT (ความเสี่ยงระดับ 8) ลงทุนในทรัสต์อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ หลากหลายอุตสาหกรรม ที่กระจายลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้ง Data Center, Healthcare, Retail
3. หุ้นเติบโต (Growth Stock) โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนาคต เนื่องจากมูลค่าบริษัทในอนาคตถูก Discount Rate ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำลง แนะนำกองทุน
- ES-INTERNET (ความเสี่ยงระดับ 6) กลยุทธ์การลงทุนหุ้นนวัตกรรมแห่งอนาคต ผ่าน ARK Next Generation Internet ETF ซึ่งเน้นคัดเลือกบริษัท Small Tech ที่อาจจะยังไม่มีกำไร แต่คาดว่าจะโตได้อีกมากในอนาคต
- ASP-DIGIBLOC (ความเสี่ยงระดับ 6) กองทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบล๊อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการเติบโตภายใต้ธีมดังกล่าว
4. หุ้นที่เน้นสะสมระยะยาว (Long-Term Growth) จากศักยภาพเติบโตของโครงสร้างเศรษฐกิจ และมีปัจจัยหนุนที่โดดเด่นในอนาคต เช่น อินเดียและเวียดนาม แนะนำกองทุน
- B-BHARATA (ความเสี่ยงระดับ 6) คัดเลือกหุ้นอินเดียที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐภิจภายในประเทศ โดยที่อินเดียยังคงมีปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่ง แม้จะมีกดดันเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
อัปเดตคำแนะนำทั้งหมดได้ที่ 👉 Opportunity Hub แหล่งรวมโอกาสการลงทุนจาก Finnomena
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299
