เรามาสู่ยุคที่หลาย ๆ คนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ต้องการทำงานที่มีอิสระในชีวิต และมีความเป็นเป็นมนุษย์เงินเดือนน้อยลง
ทำให้อาชีพ “ฟรีแลนซ์ (Freelance)” มีความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน หรือหลาย ๆ คนก็ตัดสินใจตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ (Startup) ของตัวเอง เพื่อจะได้ทำสิ่งที่ตัวเองฝัน และจัดการเวลาชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่แต่ละคนจินตนาการไว้ ว่างานอิสระจะทำให้เราไปเที่ยวได้ จัดเวลาของตัวเองได้ เล่นเกมระหว่างวันได้ สำคัญที่สุดคือการหารายได้ให้พอกับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือนที่เหล่าฟรีแลนซ์มักจะมีรายได้ไม่สม่ำเสมอ บางเดือนที่งานไม่เข้าถึงกับไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวกินเลยก็มี ในวันนี้ผมจะขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักอาชีพอิสระในสายงานการเงินที่เรียกกันว่า Independent Financial Advisor (IFA) ซึ่งเป็นงานที่บอกเลยว่าไม่หมู แต่ก็ไม่หินจนเกินไป ที่สำคัญคือสามารถสร้างรายได้ประจำคล้ายกับการเป็นมนุษย์เงินเดือนได้อีกด้วย
Financial Advisor (ที่ปรึกษาทางการเงิน) คือคำที่มีความหมายโดยกว้างสำหรับมืออาชีพที่ให้คำปรึกษาในการบริหารเงิน ซึ่งรวมถึงหุ้น กองทุน ประกัน อสังหาฯ การวางแผนการศึกษา วางแผนเกษียณ ฯลฯ
ขณะที่ Financial Planner (นักวางแผนการเงิน) จัดเป็นชนิดหนึ่งของอาชีพ Financial Advisor ที่เน้นเรื่องการวางแผนการเงินให้กับลูกค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน (ที่มา Investopedia)
นอกจากนี้ยังมีอาชีพ Investment Advisor (ที่ปรึกษาการลงทุน) ซึ่งก็จัดเป็นอีกชนิดหนึ่งของ Financial Advisor เช่นกัน ซึ่งในบ้านเรามีคำเรียกหลายคำมาก ได้แก่ Investment Advisor (ที่ปรึกษาการลงทุน), Investment Consultant(ผู้แนะนำการลงทุน), Investment Planner (ผู้วางแผนการลงทุน) ตามแต่ละหน่วยงานจะเรียก โดยที่ปรึกษาการลงทุนนั้น หมายถึงมืออาชีพที่ให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุน รวมถึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้แก่นักลงทุน
FA คืออาชีพที่ให้บริการวางแผนทางการเงิน และแนะนำการลงทุนให้กับลูกค้า ถ้าเป็น FA ที่เน้นเรื่องการให้คำแนะนำการลงทุนบ้านเรามักจะใช้คำเรียกว่า Investment Planner (IP) หรือ Investment Advisor (IA) ซึ่งจะเน้นไปที่การวางแผน และจัดพอร์ตการลงทุนในหลักทรัพย์ โดยเฉพาะ “กองทุน” ทั้งกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล
ขณะที่ FA ที่เน้นเรื่องการวางแผนการเงินบ้านเรามักจะเรียกว่า Financial Planner (นักวางแผนการเงิน) ซึ่งจะเน้นเรื่องการวางแผนเกษียณ วางแผนการศึกษา โดยใช้ประกันชีวิต/ประกันภัย เข้ามาเป็นส่วนประกอบในแผนการเงินร่วมกับกองทุนรวมและสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าแต่ละท่านบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว
IFA นั้นหมายถึงที่ปรึกษาทางการเงินที่ไม่ได้สังกัดกับสถาบันการเงินทั้ง ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกัน แต่อยู่ภายใต้สัญญาตัวแทนอิสระที่แนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ และรับรายได้จากสถาบันการเงินในรูปของส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม (Fees)
เนื่องจากส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมที่ IFAได้รับจากสถาบันการเงินนั้นมีส่วนที่จ่ายต่อเนื่องเป็นประจำรายเดือน / รายปีด้วย (Trail Fees) ยกตัวอย่างเช่นกรณีกองทุนรวมนอกจากส่วนแบ่งที่ได้จากค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (Front End Fee) แล้ว ยังมีส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมที่ได้รับจากค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) ของแต่ละกองทุนด้วย หรืออย่างกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ซึ่งมีการแบ่งค่าธรรมเนียมให้กับ FA อย่างต่อเนื่องเป็นรายปีตลอดอายุสัญญากรมธรรม์ ยกตัวอย่างเช่น
กรณีที่ IFA แนะนำการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น สมมติว่าได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการการจัดการในอัตราร้อยละ 0.5% ต่อปี
สมมติ IFA ดูแลนักลงทุน 100 คน ลงทุนในกองทุนหุ้นรวมคนละ 1,000,000 บาท จะเท่ากับมีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำการลงทุน 100 x 1,000,000 = 100,000,000 ล้านบาท
หากคุณคิดจะลงทุนเพิ่มในกองทุนรวม นี้คือสิ่งที่คุณไม่อยากพลาด! สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับโพยกองทุนเด็ดที่แนะนำ อัพเดททุกเดือนจาก FINNOMENA
กดที่นี่เพื่อรับโพยกองทุนIFA จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการจัดการต่อปี = 0.5% x 100,000,000 = 500,000 บาทต่อปี
โดยส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการจัดการจะได้รับเป็นรายเดือนต่อเนื่องตราบใดที่ลูกค้ายังคงเงินลงทุนในกองทุนรวมที่ IFA เป็นผู้แนะนำ
นอกจากค่าธรรมเนียมการจัดการที่ได้รับเป็นรายเดือนแล้ว IFA จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนครั้งแรกที่ได้รับแบบครั้งเดียวอีกด้วย
กรณีแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภท Term Insurance สมมติว่าได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมในอัตรา 10% ของเบี้ยประกันชีวิตต่อปีตลอดอายุสัญญากรมธรรม์
สมมติ IFA ดูแลลูกค้า 100 คน ที่ทำประกันคุ้มครองประเภท Term Insurance เป็นระยะเวลา 15 ปี โดยแต่ละคนจ่ายค่าเบี้ยประกันเฉลี่ยคนละ 80,000 บาทต่อปี จะเท่ากับมีเบี้ยประกันรวม 100 x 80,000 บาท = 8,000,000 บาท
IFA จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมเป็นมูลค่า 10% x 8,000,000 = 800,000 บาทต่อปีตลอดอายุกรมธรรม์ 15 ปี
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่าอาชีพ IFA นั้นต่างจากอาชีพฟรีแลนซ์ทั่ว ๆ ไปที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอขึ้นอยู่กับจำนวนโปรเจกต์งานที่ได้รับในแต่ละเดือน ขณะที่งาน IFA นั้นสามารถสร้างรายได้แบบต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ทุกปี ซึ่งตอบโจทย์การสร้างความมั่นคงในด้านการเงินกับผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความอิสระในการทำงานในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามอาชีพ FA นั้นก็เป็นอาชีพที่ต้องมีความรู้ ความรับผิดชอบ และต้องมีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพสูง เพราะแก่นของอาชีพนี้คือการรับผิดชอบเงินออม เงินลงทุน ของผู้คนที่เก็บหามาทั้งชีวิต ลูกค้าแต่ละคนมีครอบครัวหลาย ๆ ชีวิตที่ต้องดูแล ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้จึงต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และต่อผู้อื่น รวมถึงต้องมีความรู้เรื่องการวางแผนการเงิน และการแนะนำการลงทุนที่ถูกต้อง โดยผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน ใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย และควรมีคุณวุฒิอย่าง CFP (Certified Financial Planner) หรือ CFA (Chartered Financial Analyst) เพื่อเป็นเครื่องการันตีความรู้ความสามารถในงานสายนี้อีกด้วย
ทั้งหมดเป็นความรู้เรื่อง “Financial Advisor (FA) อาชีพอิสระที่สามารถสร้างรายได้คล้ายมนุษย์เงินเดือน” ที่ผู้เขียนนำมาฝากกันในวันนี้ซึ่งผมเชื่อว่าในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้า FA จะกลายเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมจากคนไทยจำนวนมาก และจะมีส่วนช่วยให้คนไทยหลายล้านคนสามารถเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ และส่งบุตรหลายเรียนหนังสือได้อย่างตั้งใจ อันเป็นผลมาจากการวางแผนการเงิน และการจัดการเงินลงทุนของตัวเองอย่างมีคุณภาพมากขึ้น โดยทาง FINNOMENA ซึ่งเป็นบริษัทที่ผู้เขียนทำงานก็มีการทำงานเป็น partnership กับ IFA ด้วยเช่นกัน สนใจดูรายละเอียดได้ที่ https://www.finnomena.com/fa/ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
FundTalk รายงาน
ที่มาบทความ: https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/648034
หากคุณคิดจะลงทุนเพิ่มในกองทุนรวม นี้คือสิ่งที่คุณไม่อยากพลาด! สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับโพยกองทุนเด็ดที่แนะนำ อัพเดททุกเดือนจาก FINNOMENA
กดที่นี่เพื่อรับโพยกองทุน