News Update: เงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ธ.ค. เหลือ 6.5% จับตา Fed ประชุม 1 ก.พ. นี้

เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปิดฉากปี 2022 ด้วยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นในการระบาดของโควิด

เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เดือน ธ.ค. ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด ซึ่งเท่ากับการลดลงในเดือนเม.ย. 2020 ในช่วงเวลาที่หลายประเทศปิดเมืองเพื่อต่อสู้กับโควิด

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานทั่วไปเพิ่มขึ้น 6.5% จากปีที่แล้ว ตอกย้ำภาระค่าครองชีพของครัวเรือนสหรัฐฯ​ ที่พุ่งสูงขึ้น แต่ถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีน้อยที่สุดนับตั้งแต่ ต.ค. 2021 ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้าตามคาด และเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ว่า นโยบายการเงินเข้มงวดของ Fed จะกดให้อัตราเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.ลดลงได้อีกครั้ง เหมือนที่ลดลงในเดือน พ.ย.

แม้จะอยู่ในช่วงขาลง แต่อัตราเงินเฟ้อ 6.5% ก็ยังเป็นระดับที่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำหนดไว้ 2% และยังเป็นระดับที่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ

รายงานตัวเลขเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ Fed จะใช้ในการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. นี้

โดยเมื่อต้นสัปดาห์ (10 ม.ค.) Mary Daly ประธาน Fed สาขาซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.25% ​​และจะปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 5.00%-5.25% โดยจะคงอยู่ที่ระดับนั้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% แต่การที่ดอกเบี้ยจะตรึงอยู่ระดับดังกล่าวนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต

พร้อมคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับ 3.5% จะเพิ่มขึ้นแตะประมาณ 4.5% หรือ 4.6% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 5.5% จะลดลงสู่กรอบล่างของ 3% ภายในสิ้นปี 2566

อ้างอิง:

https://www.cnbc.com/2023/01/12/consumer-prices-fell-0point1percent-in-december-in-line-with-economists-expectations.html 

https://www.prachachat.net/world-news/news-1174304

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน