รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

หลังจากที่เราได้รีวิวกองทุน TMB-ES-GINNO และ TGENOME ซึ่งล้วนแล้วแต่ลงทุนในกองทุนอีทีเอฟตระกูล ARK กันไปแล้ว วันนี้ก็มีกองทุนอีกหนึ่งกองที่อยากมารีวิว เป็นอีกกองที่มีธีมระยะยาวน่าสนใจ เหมาะกับใครที่ชื่นชอบด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั่นก็คือกอง ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกองที่ทาง FINNOMENA เขาแนะนำให้ลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนไทยอย่าง WE-CYBER ที่เพิ่ง IPO กันไป รายละเอียดจะเป็นอย่างไรไปดูกัน

แต่ก่อนจะไปดูรายละเอียดกองทุน เรามาเข้าใจธีมที่กองทุนนี้จะไปลงทุนกันแบบคร่าว ๆ ก่อนดีกว่า

นวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต (The Next Generation Internet) มีอะไรบ้าง?

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

Big Data & Artificial Intelligence (AI)

ในยุคที่ระบบการเก็บข้อมูลดีขึ้น ผลก็คือเรามีข้อมูลมากมายมหาศาล ซึ่ง Big Data ก็คือข้อมูลปริมาณมหาศาลเหล่านั้นที่เพียงมนุษย์ลำพังหรือระบบดั้งเดิมอาจจะไม่สามารถประมวลผลได้อย่างเต็มที่ เราจึงต้องให้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยจัดการ ซึ่งการมี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ก็จะช่วยจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นอย่างละเอียดและรวดเร็ว ไม่ตกหล่น ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึก ไม่ลำเอียง ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีกว่า

โดยปกติแล้ว AI จะเรียนรู้จากสิ่งที่เราป้อนมันไป เรียกว่าวิธี Machine Learning ซึ่งเปรียบเสมือนสมองของ AI ก็ว่าได้ แต่การที่ Machine Learning นั้นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องใช้โปรแกรม หรือ Algorithm ที่มนุษย์เป็นผู้ออกแบบ โดยอัลกอริธึมที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Deep Learning ซึ่งเลียนแบบการทำงานของโครงข่ายประสาทมนุษย์ (Neurons) ส่งผลให้สามารถเกิดการเรียนรู้แบบอัตโนมัติได้ สิ่งนี้จะทำให้ AI สามารถเขียนโปรแกรมเองได้ ไม่ต้องง้อมนุษย์แล้วละ

AI นั้นถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับ ลำโพงอัจฉริยะ ระบบจดจำใบหน้า เครื่องมือวินิจฉัยโรค หรือแม้กระทั่งการแนะนำคอนเทนต์ที่คิดว่าเราน่าจะชอบ (ใครมี Netflix หรือ Spotify น่าจะเข้าใจดี)

ข้อมูลจาก ARK นั้นเผยว่า ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI จะสามารถสร้างมูลค่าตลาดได้ถึง 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว ทั้งในส่วนของ AI Accelerator Chips (ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง) หรือระบบ Deep Learning ในปี 2037 ที่จะสร้างมูลค่าเหนืออินเทอร์เน็ตทั่ว ๆ ไปกว่า 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

การเติบโตของมูลค่าตลาดที่มี AI มาเกี่ยวข้อง
Source:
ARK

Cloud Computing & Cyber Security

Cloud Computing คือบริการที่จะทำให้เราสามารถประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลบนระบบออนไลน์ได้ง่าย ๆ โดยที่เราไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติมในฝั่งของเรา ช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดกำลังการดูแลระบบ (โดยรวมคือประหยัดเวลาในการ Maintainance) หลัก ๆ จะมีอยู่ 3 ประเภทคือ IaaS (Infrastructure as a Service), PaaS (Platform as a Service) และที่หลายคนน่าจะคุ้นหูสุดก็คือ SaaS (Software as a Service) เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คือพวกบริการอย่าง Google Drive, Office 365, Dropbox ที่หลายคนน่าจะใช้กันอยู่

ส่วน Cyber Security ก็คือความปลอดภัยทางไซเบอร์ แน่นอนว่าพอหลาย ๆ กิจกรรมย้ายไปอยู่บนออนไลน์มากขึ้น ความปลอดภัยของการรักษาข้อมูลก็ต้องมากขึ้นด้วย

Social Platforms & Digital Media

สื่อบันเทิงต่าง ๆ ก็ขยับขยายขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียล หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่ที่ทุกคนสามารถมาร่วมสร้างเนื้อหาหรือออกความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มีทั้ง Facebook, YouTube, TikTok ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ๆ รวมไปถึง WeChat ที่นิยมกันในประเทศจีนด้วย นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ ที่เราสามารถเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น Netflix, Spotify

สตรีมมิ่งนั้นถือว่าได้เข้ามา Disrupt วิธีการเสพสื่อแบบดั้งเดิมของเรามาก ๆ เพราะจากแต่ก่อนเราทำได้เพียงรอคอยหน้าทีวีว่าเมื่อไรรายการที่ชอบจะมา แต่ตอนนี้เราสามารถเลือกได้เองว่าเราจะดูรายการไหนเมื่อไร ในฐานะบริษัทสตรีมมิ่งเองก็กลายเป็นบริษัทที่ผลิตสื่อเองด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าทั้งสร้างคอนเทนต์ ทั้งครอบครองช่องทางเผยแพร่ไปเลยในตัว ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ก็จะเป็นบริษัทหนึ่ง เจ้าของช่องก็แยกเป็นอีกบริษัทหนึ่ง ไม่ใช่บริษัทเดียวกัน

จากงานวิจัยของ ARK ระบุว่าสตรีมมิ่งจะเข้ามาช่วยอุตสาหกรรมบันเทิงดั้งเดิม รวมถึงเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามารายได้โฆษณาในระบบสตรีมมิ่งเหล่านี้ก็จะเติบโตมากกว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าทีวีแบบดั้งเดิมด้วย

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

จำนวนรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นของธุรกิจสตรีมมิ่ง
Source: We Asset Management, ARK

Internet of Things (IoT)

IoT จะช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเชื่อมโยงและรับส่งข้อมูลกันได้ ลองนึกภาพว่ารถยนต์ไร้คนขับมีเซ็นเซอร์รอบคัน สามารถส่งสัญญาณให้รถคันอื่น ๆ ที่ติดตั้งระบบเดียวกันได้ ก็จะช่วยให้เกิดอุบัติเหตุน้อยลง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งควบคุมอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ด้วย เช่น พวก อุปกรณ์ Smart Home ต่าง ๆ

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

จำนวนเม็ดเงินใช้จ่ายในด้าน Internet of Things มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
แตะระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2023
ที่มา:
Statista

E-Commerce

จากสมัยก่อนที่เราต้องไปซื้อของที่หน้าร้านอย่างเดียว ตอนนี้เราสามารถซื้อของได้ผ่านออนไลน์ ธุรกิจก็ขายของออนไลน์ได้ง่าย ๆ สบาย ๆ ซึ่งประสบการณ์ของ E-Commerce ยิ่งก้าวล้ำยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้นวัตกรรมอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น ความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality, AR) ที่ให้ลูกค้าเห็นสินค้าเสมือนจริงก่อนซื้อได้ (เคสนี้ Amazon เคยทำแล้ว) หรือการนำโดรน (Drone) มาส่งของ ซึ่งเคสนี้ Amazon ก็ได้รับอนุญาตให้สามารถทำได้แล้วเช่นกัน

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

รายงานจาก eMarketer ได้คาดการณ์ว่ารายได้จากการค้าขายผ่าน E-Commerce นั้นจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และจะแตะระดับ 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2023 คิดเป็น 22% ของยอดขายทั้งหมด
Source: We Asset Management, eMarketer

Blockchain

Blockchain คือระบบการกระจายข้อมูลโดยไม่ผ่านคนกลาง จัดเก็บข้อมูลเป็นบล็อก ๆ ซึ่งแต่ละบล็อกก็จะมีสิ่งที่เปรียบเสมือนสายโซ่เชื่อมโยงกันหมด โดยข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับการตรวจสอบว่าถูกต้องแล้วจะถูกกระจายไปบันทึกในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่าย ทุกคนจะเห็นข้อมูลเหมือนกันหมด ทำให้มีความโปร่งใส ใครมีการเคลื่อนไหวอย่างไรก็รู้กันหมด มีความน่าเชื่อถือเพราะหากใครคิดอยากแก้ไขให้มีความคลาดเคลื่อนก็ทำได้ยากเพราะต้องไปแก้ในทุก ๆ Block ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก Block มีการเชื่อมโยงถึงกันนั่นเอง

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

คาดว่าขนาดของตลาด Blockchain จะมีการเติบโตเรื่อย ๆ
แตะระดับ 3.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2025
Source: We Asset Management, Statista

ทำความรู้จักกองทุน WE-CYBER

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

ได้รู้จักเทรนด์ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่กันไปแล้ว ต่อมาเรามาทำความรู้จักกับกองทุน WE-CYBER ที่จะไปลงทุนในนวัตกรรมเหล่านี้กัน

นโยบายการลงทุน

WE-CYBER จะลงทุนใน ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) ซึ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเติบโต พัฒนา นวัตกรรมที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ โดยกองนี้ก็เป็นอีทีเอฟอีกกองที่บริหารแบบเชิงรุก (Active) นั่นหมายความว่าผู้จัดการกองทุนจะต้องพยายามเอาชนะดัชนีชี้วัดให้ได้

จุดเด่นของ ARKW

1. เข้าถึงนวัตกรรม: เข้าถึงนวัตกรรมอย่างด้านอินเทอร์เน็ตยุคใหม่อย่าง Cloud Computing, Big Data, Digital Media, E-Commerce, Blockchain, IoT ซึ่งถ้าใครอิน ๆ กับเทคโนโลยีละก็น่าจะชื่นชอบธีมของกองนี้อยู่ไม่น้อย

2. มีแนวโน้มการเติบโต: มุ่งหวังการเติบโตระยะยาว ด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่ากลยุทธ์การเติบโตทั่ว ๆ ไป และสวนทางกับกลยุทธ์ที่เน้นมูลค่า (Value Strategies)

3. กระจายความเสี่ยง: เพราะกองทุนเป็น Active ETF จึงไม่ได้ถือหุ้นที่ทับซ้อนกับดัชนีทั่ว ๆ ไปเท่าไรนัก หากถือกองนี้ร่วมกับกองอื่น ๆ ที่เป็นหุ้นตามดัชนีทั่วไป ก็ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี

4. วิจัยมาอย่างละเอียด: มีการทำวิจัยทั้งแบบ Top-Down และ Bottom-Up เพื่อค้นหาธุรกิจที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลาย ๆ อุตสาหกรรมได้

ขั้นตอนการเลือกหุ้นของ ARKG

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

Source: We Asset Management, ARK

1. Ideation: เป็นการค้นหานวัตกรรมที่จะมา Disrupt ของเดิม ผ่าน ARK Open Research System ซึ่งไม่ได้พึ่งพิงแค่ข้อมูลทางการเงินทั่วไป แต่ยังมีการควบรวมข้อมูลจาก Social Media และ Crowdsourcing ด้วย สมกับเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการหาข้อมูล

2. Sizing The Opportunity: ประเมินว่าโอกาสนั้น ๆ โตได้ขนาดไหน ผ่านการดูว่ามีความสามารถในการลดต้นทุนไหม หรือมีโอกาส Disrupt ธุรกิจเก่า ๆ ขนาดไหน

3. Stock Selection & Valuation: คัดเลือกบริษัทดาวเด่น แต่ก็ไม่ลืมที่จะดู Valuation ด้วยว่าถูกแพงแค่ไหน

4. Portfolio & Risk Management: ปรับกลยุทธ์ตามสภาพตลาด หาจังหวะในช่วงตลาดผันผวน ติดตามพอร์ตอย่างใกล้ชิดและจัดตั้งการประชุม

ARKW ลงทุนในหุ้นอะไรบ้าง? (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020)

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

หุ้น 10 อันดับใน ARKW
ที่มา: ARKW Factsheet ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020

Tesla (10.1%): บริษัทเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี โดยล่าสุดนั้นมียอดขายปี 2020 ทะลุ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้ว และยังเป็นปีแรกที่ทำกำไรตลอดปีอีกด้วย โดย Tesla นั้นดูแลตั้งแต่การออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงขายส่วนประกอบระบบส่งกำลังไฟฟ้าให้รถยนต์เจ้าอื่น ๆ นอกจากนั้นขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับโซลาร์เซลล์อีกด้วย

ข้อได้เปรียบของ Tesla เมื่อเทียบกับคู่แข่ง (เช่น Waymo) คือข้อมูลการขับขี่ที่เหนือกว่าหลายเท่าตัว ซึ่งสามารถนำไปใช้สร้างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ดียิ่งกว่า

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

เปรียบเทียบระยะทางและจำนวนรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติระหว่าง Tesla และ Waymo
Source:
wheelsjoint.com

Roku (6.2%): บริษัทเจ้าของฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อกับระบบ Digital Media เช่น ทีวี รีโมท ลำโพงไร้สาย ซึ่งช่วยให้เราสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ในระบบสตรีมมิ่งจากเจ้าต่าง ๆ ผ่านทีวีได้เลย หากนับเป็นชั่วโมงของสตรีมมิ่งนั้น Roku ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งผ่านทีวีอันดับ 1 ในสหรัฐฯ

Square (4.3%): บริษัทที่จะช่วยให้ทั้งบริษัทและผู้คนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้น มี CEO ก็คือ Jack Dorsey ผู้เป็น CEO ของ Twitter ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Square ก็มีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับระบบ Point-of-Sale ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงมี Cash App ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถส่งเงินหากันได้ง่าย ๆ ซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 นั้นจำนวนการทำธุรกรรมผ่าน Cash App เพิ่มขึ้นแบบคูณสอง หากนับจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้านั้น

Grayscale Bitcoin Trust (3.7%): กองทุนจากบริษัท Grayscale ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล มี AUM อยู่ที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในส่วนของกองนี้นั้นจะลงทุนใน Bitcoin ล้วน ๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่สนใจอยากลงทุนใน Bitcoin แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงถือ Bitcoin ในมือจริง ๆ เหมือนกองทุนทองที่ให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในทองได้ โดยที่ไม่ต้องถือทองจริง ๆ

Teladoc Health (3.5%): บริษัทด้านโทรเวชกรรม ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการพบแพทย์และขอคำปรึกษาด้านสุขภาพ ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ได้แบบ Real-Time ซึ่ง Teladoc ก็ให้บริการกันแบบ 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ล่าสุดก็ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทและสถาบันเจ้าใหญ่ ๆ ในตลาดสุขภาพอย่าง GuideWell, Johns Hopkins และ Telefonica

Spotify (3.2%): แอปฯ สตรีมมิ่งเพลงกว่า 60 ล้านเพลงที่หลายคนรู้จักกันดี ผู้ฟังสามารถจ่ายค่าบริการรายเดือนได้หากต้องการตัดโฆษณาออก หรือเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษอื่น ๆ ซึ่ง Spotify นี้ก็เป็นอีกแอปฯ ที่นำ AI เข้ามาช่วยเรื่องการแนะนำเพลงแบบ Personalized ให้กับเราด้วย โดย ณ กันยายน 2020 Spotify มีสมาชิกที่จ่ายค่าบริการอยู่ที่ 144 ล้านคน มี Monthly Active Users อยู่ที่ 320 ล้านคน

Pure Storage (2.9%) บริษัทที่ให้บริการเก็บข้อมูล (Data Storage) อำนวยความสะดวกทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่กว่า 8,000 รายทั่วโลก ซึ่งก็เป็นบริษัทดัง ๆ ทั้งนั้นอย่าง ServiceNow, T-Mobile, Domino’s Pizza เป็นต้น

Tencent (2.6%) บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ของจีน ให้บริการครอบคลุมหลายอย่าง ทั้งแอปฯ สายโซเชียล อย่าง WeChat หรือ Weixin ที่เรียกได้ว่าเป็น SuperApp ของจีน โดยเมื่อไตรมาส 3 ปี 2020 นั้นมี Monthly Active User อยู่ที่ 1.2 พันล้านคนแล้ว แต่สิ่งที่สร้างรายได้อันดับ 1 ให้บริษัท (สัดส่วนถึง 33%) คือเกมออนไลน์ต่างหาก ตัวอย่างเกมที่มาจาก Tencent ก็เช่น RoV, PubG Mobile, League of Legends (LoL) เป็นต้น

Facebook (2.5%) บริษัท Social Media เจ้าใหญ่ของโลก ล่าสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมามีผู้ใช้งานกว่า 2.8 พันล้านคน แต่ถ้ารวมผู้ใช้แอปฯ ในเครืออย่าง Instagram, Whatsapp และ Messenger เข้าไปด้วยก็จะมีถึง 3.3 พันล้านคนเลยทีเดียว ในฝั่งกำไรใน Q4 2020 ก็เติบโต 53% จากปีก่อน ซึ่งบริษัทได้รับอานิสงส์จากคนที่เข้ามาใช้งานในช่วงโควิดมากขึ้น มีการทำ E-Commerce และโฆษณาบน Facebook มากขึ้นเช่นกัน

Snap (2.2%) เจ้าของแอปฯ Snapchat ที่ฮิตกันในหมู่วัยรุ่นต่างชาติ และ Snap Camera ที่หลายคนชอบเปิดเวลาประชุมทางไกล มีฟีเจอร์เด็ดคือ Filter แบบต่าง ๆ ที่ให้เลือกกันแบบไม่หวาดไม่ไหว โดยในไตรมาส 3 ปี 2020 Snap มี Daily Active User (DAU) อยู่ที่ 249 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่มอายุ 13-24 ปี

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

สัดส่วนเทคโนโลยีที่กองทุนไปลงทุน ค่อนข้างกระจายในน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน โดยมี E-Commerce และ Cloud Computing เป็นตัวนำ
ที่มา: ARKW Factsheet ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

สัดส่วนอุตสาหกรรมที่กองทุนไปลงทุน หลัก ๆ แล้วลงทุนใน Information Technology, Communication Services, Consumer Discretionary
ที่มา: ARKW Factsheet ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของ ARKW

เนื่องจากกองทุน WE-CYBER เป็นกองน้องใหม่แกะกล่อง เราจึงยังไม่มีผลตอบแทนย้อนหลังมาให้ดูกัน เลยต้องดูของ ARKW ไปพลาง ๆ ก่อนนะ

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

ผลการดำเนินงานย้อนหลังแบบปักหมุด
ที่มา: ARKW Factsheet ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

กองทุนทำผลงานได้สวยงามเมื่อเทียบกับดัชนีเปรียบเทียบกับ S&P 500 และ MSCI World พิสูจน์ได้ว่าสามารถเอาชนะดัชนีได้จริง และสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยงออกจากการลงทุนตามดัชนีได้ โดยผลตอบตอบแทนในช่วงปี 2020 นั้นสูงถึง 157% เลยทีเดียว สอดคล้องกับกระแสออนไลน์ที่มาแรงในช่วงโควิด-19 พอดี

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

การเติบโตของเงินลงทุน 10,000 ดอลลาร์ หากลงทุนใน ARKW ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
ที่มา: ARKW Factsheet ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

กองทุน ARKW จัดตั้งมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2014 นับเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งถ้าลงทุนตั้งแต่วันแรกนั้น ณ สิ้นปี 2020 เงินจำนวน 10,000 (ประมาณ 300,000 บาท) ดอลลาร์จะเติบโตสูงเกินกว่า 80,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่า 8 เท่าเลยทีเดียว

ความเสี่ยงของกองทุน ARKW

ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากกองทุนลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ซึ่งจะป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

ความเสี่ยงในด้านนวัตกรรม เนื่องจากกองทุนเน้นลงทุนในบริษัทที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะมา Disrupt หรือทดแทนสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทว่านี่เป็นเพียงการคาดการณ์ของ ARK เท่านั้น ความเสี่ยงจึงเป็นการที่นวัตกรรมเหล่านั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงของเดิมได้ นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงด้านอื่น ๆ อีกเช่นความผันผวนของตลาด ความไวในการ Disrupt ของนวัตกรรม กฏระเบียบข้อบังคับจากหน่วยงานหรือรัฐบาล รวมถึงความเสี่ยงเฉพาะของนวัตกรรมนั้น ๆ ด้วย

นอกจากกองทุน WE-CYBER แล้ว มีกองไหนในไทยที่ลงทุนใน ARKW บ้าง?

TNEXTGEN: กองทุนจาก บลจ.ทิสโก้ ที่มีมาอยู่ก่อนแล้ว จัดตั้งตั้งแต่ 12 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมานี้เอง โดยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2021 คำนวณ ถึง วันที่ 26 ม.ค. 2021 อยู่ที่ 18.25% ถือว่าน่าประทับใจ และถ้านับตั้งแต่จัดตั้งละก็ผลตอบแทนอยู่ที่ 38.85% เลยทีเดียว

ดูผลตอบแทนปัจจุบันของ TNEXTGEN ได้ที่: https://www.finnomena.com/fund/TNEXTGEN

ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อกอง TNEXTGEN แทนก็ได้หากไม่สะดวกซื้อ WE-CYBER เพราะอย่างไรสิ่งที่ลงทุนก็เหมือนกัน จะมีต่างกันก็ตรงค่าธรรมเนียม ซึ่ง TNEXTGEN เก็บค่าธรรมเนียมขาเข้า (ขาย) อยู่ที่ 1% ขาออก (รับซื้อคืน) อยู่ที่ 0.15% ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนเข้าและออก ยกเว้นการเรียกเก็บ มีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 1.07% และมีค่าใช้จ่ายรวมกองทุนอยู่ที่ 1.43719% มีมูลค่าการซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาท

สรุปความน่าสนใจของการลงทุนในนวัตกรรมแห่งอนาคต ผ่านกองทุน WE-CYBER และ ARKW

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับกองทุน WE-CYBER และ ARKW คือเทรนด์การลงทุนที่อยู่ใกล้ตัวเรา เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะเป็นสิ่งที่เราค่อนข้างคุ้นเคยกับมันในระดับหนึ่งแล้วผ่านชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อิน      เทอร์เน็ต ใช้คลาวด์ ใช้ระบบสตรีมมิ่งเพื่อดูหนังฟังเพลง ซื้อของผ่าน E-Commerce รวมถึงใช้อุปกรณ์ที่มีคำนำหน้าด้วย Smart ต่าง ๆ เพื่อการดำรงชีวิตที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กองทุน WE-CYBER ที่ลงทุนใน ARKW จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับใครที่สนใจจะเกาะกระแสเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลกนี้ไปในทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เราจึงขอย้ำอีกครั้งให้ทุกคนศึกษารายละเอียดกองทุนและสิ่งที่ลงทุนให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนนะ

ข้อมูลอื่น ๆ ของกองทุน WE-CYBER

มูลค่าขั้นต่ำการซื้อ (ช่วง IPO) = 5,000 บาท
มูลค่าขั้นต่ำการซื้อ (หลัง IPO) = 1 บาท
ค่าธรรมเนียมขาเข้า (ขายและสับเปลี่ยนเข้า) = สูงสุดไม่เกิน 2.14% เก็บจริง 1.07%
ค่าธรรมเนียมขาออก (รับซื้อคืน) = สูงสุดไม่เกิน 2.14% ตอนนี้ยกเว้นการเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมการจัดการ = 1.07% ต่อปี
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด = 1.420425% ต่อปี

เพื่อนผู้ใจดี

Appendix: รายได้ และกำไรต่อหุ้น ของบริษัท 3 อันดับแรก พร้อมคาดการณ์ 2 ไตรมาสหน้า (ข้อมูลจาก Bloomberg)

Tesla

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

Roku

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

Square

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

รีวิวกองทุน WE-CYBER และ ARKW: ลงทุนใน Next Generation Internet ที่จะเติบโตในโลกยุคใหม่

เพื่อนผู้ใจดี


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต |  ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน |  กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดเทคโนโลยี  ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย |  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299