แจ้งเตือน

กลับสู่หน้าหลัก

แชร์ประสบการณ์และแหล่งข้อมูล "ช้อนซื้อทองแท่ง" ช่วงตลาดหุ้นกังวลเชื้อไวรัส

เขียนโดย CrisisMan

บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 และเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

นี่เป็นประสบการณ์สดๆร้อนๆ ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคม ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจเริ่มปรากฏ ตลาดหุ้นเริ่มร่วงท่ามกลางความกังวล ราคาของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตราสารหนี้และทองคำเพิ่มขึ้น และในบทความนี้จะมาบอกเล่าเหตุการณ์ แนวคิด และเครื่องมือที่ใช้เพื่อ(ช้อน)ซื้อทองแท่ง

ต้องย้อนกลับไปสักหน่อย ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดการเงินเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส นักลงทุนต่างกังวลจนตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนทองคำก็ปรับตัวมาอยู่ในช่วง 1,560-1,580 ดอลลาร์ จากนั้นความกังวลก็ดันราคาทองคำทะลุแนวต้าน 1,600 ดอลลาร์ อย่างง่ายดาย

buy-gold-paranoid-1

รูปที่ 1 แถลงการณ์จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020
Source : https://www.federalreserve.gov/ As of 12/3/2020


แล้วคืนวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ท่ามกลางความกังวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกแถลงการณ์โดยสรุปว่าจะใช้ทุกเครื่องมือตามความเหมาะสมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ คืนนั้นราคาทองร่วงหลุดราคา 1,600 ดอลลาร์ ทันที หยุดที่แนวรับแถว 1,585 ดอลลาร์

buy-gold-paranoid-2

รูปที่ 2 กราฟราคาทองคำ
Source : Investing.com As of 13/3/2020


ต่อมาเช้าวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนตัวเลยมองว่าแนวรับนี้เอาอยู่ และรีบซื้อทองแท่งที่เยาวราชทันที ซึ่งนอกจากความกังวลของตลาดแล้ว ก็เพราะหวังได้กำไรจากค่าเงินบาทที่มีโอกาสอ่อนค่าด้วย

buy-gold-paranoid-3

รูปที่ 3 แหล่งที่มาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลก
Source : Investing.com As of 13/3/2020


อีกสิ่งที่พอจะใช้บอกความกังวลของตลาดก็จะเป็นพันธบัตรรัฐบาลของประเทศใหญ่ทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีความกังวลในตลาดหุ้น เงินก็จะไหลออกมาและเข้าในพันธบัตรที่มีความมั่นคงทำให้อัตราผลตอบแทนลดลง ส่วนนี้ติดตามได้จากเว็บไซต์ Investing.com

buy-gold-paranoid-4

รูปที่ 4 หน้าเว็บไซต์ World Gold Council
Source : gold.org As of 13/3/2020


พอซื้อแล้วก็มองว่าเมื่อแนวรับเอาอยู่ ราคาต้องเด้งสวนขึ้นไปบ้างแต่ไม่คิดว่าจะเด้งขึ้นไกลและไวเลยตั้งเป้าไว้ 1-2% ในเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่แล้ววันที่ 3 มีนาคม ก็มีข่าวว่าไวรัสระบาดเข้าทั้งอิตาลีและเกาหลีใต้อย่างรุนแรง ผลักราคาขึ้นมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ไปที่ประมาณ 1,640 ดอลลาร์

ซึ่งจากที่ติดตามดูพฤติกรรมราคาจะเห็นว่าราคามักจะเลี้ยงตัวในกรอบแล้วพุ่งขึ้นแรงจากความกังวล จากนั้นจะย่อลงนิดหน่อยตามมาด้วยเลี้ยงตัวในกรอบใหม่เช่นเดิม เลยตัดสินใจว่าเมื่อราคาพุ่งขนาดนี้ ได้กำไรมากกว่าเป้าในเวลาสั้นกว่า

อีกทั้งในช่วงเวลาที่ตลาดกังวล เมื่อมีปัจจัยลบใหม่เข้ามา ตลาดมักจะตอบรับอย่างรุนแรงและจากนั้นก็รับข่าวและคลายกังวลไป ทั้งเป้าราคาที่ตั้งไว้ พฤติกรรมราคา และปัจจัยความกังวล จึงส่งให้ตัดสินใจขายออกในอีก 2 วัน หลังเพิ่งซื้อไป

สิ่งที่ได้มากกว่ากำไร นั่นคือ บทเรียน ที่สอนว่าการลงทุนต้องศึกษาตลอดเวลา แต่ไม่จำเป็นต้องทุกนาที เพียงแต่ใช้เวลาว่างในทุกวันอัปเดตข่าวและความรู้ไปเรื่อยๆ และที่สำคัญที่สุดหนีไม่พ้นเป้าหมายและแผนของการลงทุนในทุกเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ รวมทั้งการจัดการกับอารมณ์ระหว่างที่ลงทุน ซึ่งจัดการได้ด้วยการยึดมั่นกับแผนการที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก นับได้ว่าการลงทุนครั้งนี้ไม่ว่าจะออกหน้าไหน ก็ให้บทเรียนที่ดีมากทั้งหมด!!!

ส่งต่อเรื่องราวการเงินการลงทุนของคุณ

อ่่านเรื่องราวอื่นๆ

iran-israel-war