ถ้าหากได้ยินชื่อ ‘TIPCO’ เราต้องคิดว่าชื่อนี้ทำธุรกิจน้ำผลไม้แน่นอน เพราะน้ำผลไม้ตรา Tipco มีเต็มตลาด เต็มร้านสะดวกซื้อ เต็มร้านโชว์ห่วย เต็มร้าน Super Store จนถึงวันนี้ เราต้องยอมรับว่า สินค้าตรา Tipco เป็นที่รู้จักมาอย่างช้านานในฐานะผู้ผลิตน้ำผลไม้อันดับต้นๆ ของประเทศไทย

ทว่า Tipco ไม่ได้ทำเพียงน้ำผลไม้อย่างเดียว แต่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรดเข้มข้น น้ำผลไม้รวมและเครื่องดื่มบรรจุพร้อมดื่มด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างคือ น้ำสมุนไพรและน้ำแร่ธรรมชาติพร้อมดื่มตรา Aura

นอกจากนี้ Tipco ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ผู้ผลิตยางมะตอยแนวหน้าของประเทศไทยอีกด้วย

รายได้และกำไรของ Tipco มีดังนี้

ปี รายได้ (ล้านบาท) กำไร (ล้านบาท)
2558 6,807 1,188
2559 6,108 (ลดลง 10.2%) 814 (ลดลง 31.5%)
2560 5,552 (ลดลง 9.1%) 703 (ลดลง 13.6%)

สังเกตได้เลยว่า Tipco มีรายได้และกำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเป็นเพราะว่าราคาของสัปปะรดมีการลดลงอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจาก Tipco เองก็มีธุรกิจผลไม้กระป๋องด้วย เวลาราคาวัตถุดิบลง ทำให้ราคาที่ Tipco ขายได้ลดลงด้วยเช่นกัน ส่งผลให้รายได้ของ Tipco ลดลงโดยปริยาย

ตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้ แยกตามระดับ (ที่มา: SET Opp-Day)

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รายได้ของ Tipco ลดลง คือ ตลาดน้ำผลไม้ของไทย ไม่ได้มีการเติบโตเลย แต่กลับลดลงแทน รวมทั้งยังมีคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งอย่าง MALEE, ดอยคำ และ Cocomax ที่มีการบุกตลาดกันอย่างหนัก

อย่าง MALEE มีการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้ดูดีมีราคามากขึ้น ดอยคำมีการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องพร้อมยิงโฆษณาผ่านสื่อหลัก (Above The Line) ส่วน Cocomax เองก็ไม่น้อยหน้า ทำเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวตามเทรนด์ได้เป็นอย่างดี

ตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้ไทยระดับพรีเมี่ยม ปี 2016 และ 2017 แยกตามยี่ห้อ (ที่มา: SET Opp-Day)

ทั้งนี้ทั้งนั้น Tipco ยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำในตลาดน้ำผลไม้ของไทย

นอกเหนือจากนั้น Tipco เองก็มีธุรกิจน้ำแร่ที่เป็นตัวเด่น นั่นก็คือ น้ำแร่ตรา Aura นั่นเอง

เราคงยังไม่รู้ว่า Tipco ในขณะที่เป็นมีส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้อันดับ 1 ของประเทศไทย ยังมีธุรกิจน้ำแร่ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 26% เป็นอันดับ 1 ของตลาดน้ำแร่เช่นกัน

ตลาดน้ำแร่เองก็มีการเติบโต แต่ที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดของ Aura ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก เป็นเพราะว่ากำลังการผลิตน้ำแร่ Aura เต็มแล้ว และตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเพิ่มให้สูงกว่านี้ได้

โดยสรุปแล้ว TIPCO มี 3 ธุรกิจที่คอยสร้างรายได้และผลกำไรให้ ซึ่งแต่ละธุรกิจก็มีปัจจัยกระทบที่แตกต่างกันออกไป ธุรกิจสับปะรดกระป๋องมีปัจจัยคือราคาของสับปะรดที่มีความผันผวน ธุรกิจน้ำผลไม้มีปัจจัยคือคู่แข่งที่ตีตลาดหนักขึ้นและแย่งส่วนแบ่งตลาดในตลาดที่ไม่ได้โตมากนัก ธุรกิจน้ำแร่มีปัจจัยเรื่องโรงงานที่กำลังเพิ่มมา

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่น่าติดตาม ดังนั้น นักลงทุนควรทำการบ้านให้รอบคอบ ศึกษาลักษณะของแต่ละธุรกิจให้ดี พิจารณาหลายๆ ปัจจัยควบคู่กันไปก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.finnomena.com/stock/TIPCO

https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=TIPCO&ssoPageId=5&language=th&country=TH

https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=TIPCO&ssoPageId=3&language=th&country=TH

https://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=TIPCO&ssoPageId=4&language=th&country=TH

https://www.set.or.th/set/oppdaybycompany.do?language=th&country=TH&searchBy=company&namePart=&symbol=malee&submit=

—————————-

Vithan Minaphinant

Securities Investment Analyst (IA)

ตรวจทานบทความ


คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

ผู้เขียนบทความนี้มิได้รับค่าตอบแทนหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่กล่าวถึงในบทความนี้แต่อย่างใด

ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้

SaveSave