มาจะกล่าวบทไป ตอนที่แล้วผมเล่าเรื่องว่ากองทุนคืออะไรในบทความ “คัมภีร์มหากาพย์ กองทุนรวม คืออะไร? มือใหม่อ่านที่นี่ ครบจบที่เดียว“
ทีนี้ก็เริ่มมีคนสงสัยครับว่าถ้าจะลงทุนกองทุนเนี่ย ต้องไปลงที่ไหน อะไรยังไง เริ่มเปิดบัญชีอย่างไรดี ก็เลยจะมาสรุปคร่าวๆให้ฟังว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง แล้วจะลองพาไปเปิดกันออนไลน์เลย
1. เปรียบเทียบทุกแง่มุม เปิดบัญชีกองทุนที่ไหนดี ?
2. ลองพาไปเปิดบัญชีกับ FINNOMENA PORT ดู กรอกเต็มที่ไม่เกิน 5 นาที
ตัวเลือกแรกๆ ที่คนมักจะนึกถึง ปัจจุบันเกือบทุกธนาคารก็มักจะมีบริการให้นักลงทุนทุกท่านเข้าไปเปิดบัญชีกองทุนรวมได้ง่ายๆ เพียงแค่เดินเข้าไปที่สาขาธนาคารและแจ้งความประสงค์กับพนักงานสาวสวยที่รอต้อนรับทุกท่านอยู่
อย่างไรก็ตามการเปิดบัญชีกับธนาคารนั้นบางแห่งยังสามารถซื้อขายได้เฉพาะกับกองทุนของ บลจ. (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) ในสังกัดเท่านั้น (ในสังกัดเช่น Kbank กับ KAsset)
SCBS Easy Invest Application
TISCO Wealth Advisory
อย่างไรก็ตามบางธนาคารก็เริ่มที่จะเปิดตัว Platform ที่สามารถซื้อได้ต่างธนาคารมากขึ้น เช่น TISCO Wealth , หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS), และอื่นๆ ซึ่งในที่นี้ถ้าใครยังคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร มีการเข้าออกธนาคารบ่อยๆ ก็อาจจะเลือกทางเลือกนี้ได้ทันที
KBank Private Banking
TMB Smart Port
นอกเหนือไปจากนั้นบางธนาคารก็เริ่มจะมีการให้คำแนะนำในการลงทุนด้วยทั้งสำหรับลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง (High Net Worth) ระดับหลายล้านขึ้นไปอย่างของ Kbank Private Banking , KTB Precious หรือบางเจ้าอย่าง TMB Smart Port ก็เริ่มลงมาให้คำแนะนำสำหรับลูกค้าทั่วไป เงินลงทุนขั้นต้น 100,000 บาทเป็นต้น อย่างเจ้าหลังมีการงดเว้นค่าธรรมเนียมการซื้อเข้า ออก (Front/Backend Fees) ให้ลูกค้าด้วยนะครับ เรียกได้ว่าแข่งขันกันดุเดือดเลย แต่ผลประโยชน์ก็มาตกที่นักลงทุนอย่างพวกเรานี่แหละ 🙂
เปิดบัญชีที่เดียว มั่นใจได้ว่าซื้อได้ครบ จบทุกบลจ. (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) อันนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ โดยมีผู้เล่นรายใหญ่ๆ ที่ผู้เขียนรู้จักอย่าง Nomura iFund, Phillip Fund Supermart และอื่นๆ รวมไปถึง FINNOMENA ที่ผู้อ่านกำลังอ่านอยู่นี่ด้วยครับ
ข้อดีของการเปิดบัญชีลงทุนกับบริษัทเหล่านี้ ที่แน่ๆ นอกเหนือจากซื้อได้หลายบลจ. (ยังไงเช็กแต่ละเจ้าอีกที อาจจะมีแตกต่างกันบ้าง 2-3 บลจ.) แบบไม่มีข้อกังขาแล้ว ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นก็เท่ากับที่เราซื้อกับธนาคารหรือบลจ. เป๊ะๆ เลย เพราะบริษัทเหล่านี้ทำรายได้จากการขอแบ่งค่าธรรมเนียมด้านหลังกับ บลจ. อีกที ตัวอย่างแบบจำลองตัวเลขขึ้นมา ดังนี้ครับ
ปกติซื้อกอง A ผ่านบลจ. A ค่าธรรมเนียม 1 บาท บลจ. A ได้ค่าธรรมเนียมเต็มๆ
พอเรามาซื้อที่บล.เหล่านี้กอง A ค่าธรรมเนียม 1 บาทเหมือนกัน แต่ 50 สตางค์ไปอยู่ที่บล. และ อีก 50 สตางค์แบ่งเข้าบลจ.ไป
เรื่องความปลอดภัยหลายคนอาจจะมองว่าไม่มั่นคงเท่าธนาคาร แต่ความจริงคือ บริษัท บล. เหล่านี้มีหน้าที่รับคำสั่งจากลูกค้าและสิ้นวันส่งเงินไปให้ธนาคารพาณิชย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์กองทุนต่างๆ ที่นักลงทุนได้เลือกลงทุนไป ไม่ได้เก็บที่บล.เหล่านี้แต่อย่างใด
ถ้า บล. พวกนี้มีอันเป็นไป ต้องปิดกิจการ เงินเราก็ไม่หายไปไหน อยู่ที่ บลจ. ปลายทางครับ ไม่ต้องห่วง
ระบบคัดเลือกกองทุนและให้คำแนะนำของ Nomura, Phillip, FINNOMENA
สำคัญที่สุดทุกที่ก็ดูเหมือนจะมีคำแนะนำแถมให้ทุกที่เลย และผู้เขียนก็คิดว่าดีกรีความเป็นกลางของแต่ละแห่งนั้นน่าจะสูงพอตัว กองไหนดีบอกดี กองไหนไม่ดีบอกไม่ดี เพราะธรรมชาติของธุรกิจ ไม่ว่าเขาแนะนำไปลงกองทุนที่ไหนก็ได้ค่าธรรมเนียมเหมือนกัน หลายๆแห่งจึงสร้างระบบให้คำแนะนำในการลงทุนขึ้นมาเป็นส่วนเสริม เพิ่มเติมช่วยเหลือนักลงทุนด้วยว่า ควรลงกองทุนใดดี ควรจัดพอร์ตอย่างไร ของ Nomura จะชื่อ NOMURA IWEALTH ส่วนของ FINNOMENA ชื่อ FINNOMENA PORT นั่นเองครับ
กลับมาที่คำถามหลักของเรา แล้วเราจะรู้ว่าแบบไหนจะเหมาะกับเรา? ส่วนตัวผมคิดว่าตรงนี้อาจจะต้องลองเข้าไปศึกษาในเว็บไซต์/ขอข้อมูลจากพนักงานของแต่ละที่ดูได้ครับ แต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป มีคุณภาพคำแนะนำที่แตกต่างกันออกไป หรือบางท่านลองใช้วิธีเปิดบัญชีแล้วลองโหลดแอพมาเล่นดูเลยก็ได้ครับ เพราะหลายๆที่สามารถเปิดบัญชีได้โดยไม่ต้องเสียเงิน หรือลงทุนก่อนแต่อย่างใด ผมรวบรวมลิ้งค์มาให้แล้วข้างล่างครับ
Nomura iFUND | Phillip Fund SuperMart | FINNOMENA |
|
![]() |
![]() |
ก็ไหนๆ มาเขียนที่ FINNOMENA เลยอยากจะพาลองใช้ FINNOMENA PORT ดูครับ โดยเบื้องต้นเนี่ย
ใครกดผ่านเว็บเข้าไปที่ finnomena.com/port แล้วกด “ลองใช้งาน PORT” ได้เลยครับ
ส่วนใครกดผ่านแอพ โหลดมา แล้วเลือก Tab ที่ 2 “Port” แล้วกด “ลองใช้ FINNOMENA PORT” ได้เลยครับ
ตรงนี้แนะนำถ้าเป็นไปได้โหลดแอพมาตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่าครับ เพราะว่าปัจจุบันการเปิดบัญชีแบบไม่ต้องส่งเอกสารเนี่ย ทำได้เฉพาะในแอพพลิเคชันอยู่ เพราะต้องมีการให้เซ็นชื่อลงในแอพด้วยครับ
แต่ถ้าใครไม่สะดวก ยังอยากใช้ผ่านเว็บก็ยังทำได้อยู่ แต่ต้องส่งเอกสารเข้ามาทางไปรษณีย์นะครับ 🙂
โดยแผนพวกนี้จะปรับตามเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุน และคอยบอกว่าควรซื้อ ขาย กองทุนในเวลาใดด้วย แต่ ณ ตอนนี้ เราข้ามไปก่อน เราเน้นซื้อขาย บลจ. ตามใจเราต้องการ เลื่อนมาล่างสุดจะเจอแผนที่ชื่อว่า DIY ครับ กดเข้าไปเลย
เข้ามาจะมีให้ใส่ เงินที่พร้อมลงทุน ก็ใส่คร่าวๆ ที่ประมาณไว้ก็ได้ครับ ตรงนี้แก้ไขทีหลังได้ ไม่ซีเรียส
โดยระบบจะพาท่านไปสมัครสมาชิกกับทางเราก่อนครับ ตรงนี้ใครยังไม่เคยสมัครก็สมัครได้เลยครับ
สามารถใส่ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์และอีเมลได้เลยครับ
ผมจะขออนุญาตอธิบายการเปิดบัญชีผ่านแอพพลิเคชันก่อน สำหรับใครที่เปิดบัญชีผ่านเว็บ หรือ เปิดแบบต้องส่งเอกสารอยู่สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อข้ามส่วนนี้ไปได้เลยครับ
ตรงนี้จะเป็นการยืนยันว่าโทรศัพท์มือถือเป็นของคุณจริงๆนะครับ กรอกเบอร์มือถือเสร็จ จะมี SMS ส่งรหัสเข้าไป เพียงแต่นำมากรอกลงในแอพเป็นอัพเรียบร้อย
หากคุณคิดจะลงทุนเพิ่มในกองทุนรวม นี้คือสิ่งที่คุณไม่อยากพลาด! สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับโพยกองทุนเด็ดที่แนะนำ อัพเดททุกเดือนจาก FINNOMENA
กดที่นี่เพื่อรับโพยกองทุนตรงนี้เป็นเลขรหัสที่จำเป็นต้องจำไว้นะครับ ใช้สำหรับการทำรายการซื้อ/ขายกองทุนที่จะเกิดขึ้น
ตอนนี้ FINNOMENA มีการเปิดบัญชีแบบไม่ต้องส่งเอกสาร (Paperless) ที่ให้คุณนั่งกรอกง่ายๆจากบ้านเป็นอันเรียบร้อยครับ ใครอยากลองกดที่ปุ่มสีส้มในรูปได้เลย
ส่วนใครที่ยังสะดวกเซ็นเอกสารในกระดาษแล้วส่งมาทางไปรษณีย์ก็ยังสามารถทำได้ครับผม โดยการกดปุ่ม “เปิดบัญชีแบบส่งเอกสาร” ข้างล่างได้เลย สามารถข้ามไปดูขั้นตอนได้ คลิกที่นี่
หลังจากกดปุ่มสีส้มเข้ามา เราจะมี 4 ขั้นตอนให้กรอกนะครับ โดย 3 ขั้นตอนแรก “ข้อมูลเปิดบัญชี”, “แบบประเมินความเสี่ยง”, “ภาพถ่ายบัตรประชาชน” เนี่ยต้องกรอกตั้งแต่แรกเลย แต่ข้อมูลบางอย่างเช่น ข้อมูลคู่สมรสและบุตร / สถานที่ทำงาน เอาไว้กรอกทีหลังได้ครับ เรารู้ว่าหลายๆคนไม่มีเอกสารเหล่านี้อยู่กับตัว เราเลยหยวนๆให้กรอกภายหลังได้ครับ
ส่วนนี้ก็จะเป็นพวกชื่อ นามสกุล ความรู้การลงทุน ธนาคารที่ต้องการใช้เพื่อซื้อขายกองทุนครับ
ตรงนี้ก็จะเป็นคำถามเพื่อวัดระดับความเสี่ยงด้านการลงทุนครับ นักลงทุนควรจะกรอกให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุดครับ เพื่อให้ได้รับคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสม
ตรงนี้ก็แนะนำว่าควรวางบัตรประชาชนไว้บนกระดาษขาวแล้วค่อยถ่ายนะครับ เพื่อให้เห็นข้อมูลบัตรประชาชนชัดๆ ระวังเรื่องแสงด้วยนะครับ บางทีแสงจ้าๆ ทำให้อ่านข้อความบนรูปยาก และสุดท้ายก็จะเป็นการเซลฟี่กับบัตรประชาชน ข้อควรระวังคือควรถือบัตรประชาชน ไม่ให้บังหน้าตัวเองนะครับ
จนถึงตรงนี้ที่จริงก็สามารถส่งไปเปิดบัญชีก่อนได้แล้วครับ แต่เผื่อไว้สำหรับใครพร้อมก็สามารถกรอกไว้ก่อนได้เลย
ข้อดีคือสามารถเซ็นลายเซ็นผ่านแอพพลิเคชันได้เลยครับผม ไม่ต้องปริ้นออกมาให้ยุ่งยาก
มาถึงตอนนี้ก็เรียกได้ว่าส่งข้อมูลเปิดบัญชีซื้อขายเรียบร้อยแล้วครับ รอประมาณ 1-2 วันทำการ ทางทีมงานก็จะตรวจเช็คข้อมูลและแจ้งเตือนไปทาง Email และ Notification ว่าทุกอย่างเรียบร้อย แต่ทว่าอีก 1 ขั้นตอนครับ ที่จำเป็นคือต้องทำการแจ้งธนาคารว่ายินยอมอนุมัติหักเงินค่าซื้อกองทุนเสียก่อน เพื่อเวลาเราซื้อ ระบบจะได้หักเงินจากบัญชีได้เลย
ข่าวดีครับ ไม่ต้องไปธนาคาร ไม่ส่งเอกสาร ทำบนแอพเดิมนี่หล่ะ กดเข้าไปที่ “อนุมัติหักบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (ATS)” ได้เลย
ตัวอย่างข้างล่างก็จะเป็นการกดอนุมัติสำหรับบัญชีของธนาคารกสิกรไทยครับ สามารถกดเลือกแอปมือถือแล้วเชื่อมบัญชี ระบบก็จะส่งข้อความมายืนยันให้คุณกดผ่านแอพ K-PLUS ง่ายๆ สบายๆ ไปเลย
ตรงนี้ถ้าเป็นธนาคารอื่นอาจจะต้องเข้าไปกดใน Mobile Banking, Internet Banking, ATM แต่ไม่ต้องห่วง เราเขียนขั้นตอนไว้ให้หมดแล้วครับ
โดยระยะเวลาที่ใช้เพื่อรอให้ทีมงานเราเข้าไปอนุมัติจะขึ้นอยู่กับช่องทางที่นักลงทุนทำเข้ามานะครับ แต่บอกได้เลยถ้าเปิดบัญชีมา ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน กดอนุมัติบัญชีต่อทันที เต็มที่ อย่างช้าสุด ไม่เกิน 2-3 วันทำการ พร้อมซื้อกองทุนที่คุณชื่นชอบได้แน่นอน
ยังไงในขั้นตอนต่างๆถ้ามีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ทาง 02-026-5100 หรือ LINE ที่ @FINNOMENAPORT ได้เลยครับ มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ
ไม่เกิน 15 นาที ฟันธง จับเวลามาแล้ว
ตรงนี้มีข้อควรระวังนิดนึงครับในส่วนหน้าที่ 3/5 จะมีให้กรอก “เลขรหัส PIN 6 หลักสำหรับทำรายการ” ตรงนี้เป็นเลขรหัสที่จำเป็นต้องจำไว้นะครับ ใช้สำหรับการทำรายการซื้อ/ขายกองทุนที่จะเกิดขึ้น
ทำให้ในหน้า 4/5 จะมีการถามว่า นักลงทุน ต้องการรับเอกสารทางใด เพื่อไปเซ็นให้เรียบร้อย สามารถทำได้ทั้ง 3 ทาง
ตรงนี้สามารถเลือกได้ตามความสะดวกเลยครับ ในบทความนี้ขอเลือกเป็นรับทาง Email แล้วกัน(แต่ทีมงานบอกไม่เกินรอ เดี๋ยวจะสามารถเซ็นเอกสารผ่านแอพได้เลยไม่ต้องใช้เอกสารแล้ว)
นักลงทุนสามารถ ดาวน์โหลดเอกสารและปริ๊นท์ออกมา เซ็นตามจุดต่างๆ และส่งไปรษณีย์กลับมาทาง FINNOMENA ตามขั้นตอนในอีเมลได้เลย
ไม่เกิน 1 อาทิตย์สามารถเปิดบัญชีได้สำเร็จ จะมีการแจ้งเตือนไปทางอีเมล์และเริ่มลงทุนได้เลยครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เดี๋ยวไว้ครั้งหน้ามาคุยกันเรื่องการให้คำแนะนำ ในการลงทุนดีกว่า ว่าแต่ละที่จะให้คำแนะนำอย่างไร บางเจ้าเป็น Robo-advisor, Smart Port, Private Wealth เอย น่าสนุกครับ ว่าที่ไหนจะมีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกันไปอย่างไร สำหรับวันนี้ลาไปก่อนครับผม
เดฟเรนเจอร์
หากคุณคิดจะลงทุนเพิ่มในกองทุนรวม นี้คือสิ่งที่คุณไม่อยากพลาด! สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับโพยกองทุนเด็ดที่แนะนำ อัพเดททุกเดือนจาก FINNOMENA
กดที่นี่เพื่อรับโพยกองทุนArticle, Basic, FINNOMENA PORT, Long Content, Product Info