“We’re all about finding the next big thing. Those hewing to the benchmarks, which are backwards looking, are not about the future. They are about what has worked. We’re all about what is going to work.”
— Catherine Wood, CEO & CIO of ARK Invest
หากพูดถึงหนึ่งใน ETF ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น “ARK” อย่างแน่นอน ใครที่กำลังสนใจใน ARK และอยากรู้จัก ARK ให้มากขึ้นกว่าเดิมว่าทำไม ARK ถึงเป็นผู้นำ ETF แห่งทศวรรษ ในบทความนี้เราจะพาไปสำรวจจักรวาล ARK พร้อมหาคำตอบไปพร้อมกันว่าทำไมถึงต้องลงทุนใน ARK และ ARK มีกองทุนอะไรบ้าง แต่ละกองทุนลงทุนในนวัตกรรมอะไร
สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 19 บลจ. สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan
รูปที่ 1 ผลกระทบของนวัตกรรม
ที่มา: ark-invest.com
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้เกิด 3 แพลตฟอร์มที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมนุษย์โลกในเวลาไล่เลี่ยกัน สิ่งเหล่านั้นคือ โทรศัพท์ รถยนต์ และระบบไฟฟ้า ซึ่ง ARK เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเกิดการพัฒนาแพลตฟอร์มทางนวัตกรรมพร้อมกันถึง 5 แพลตฟอร์ม
แล้วทำไมถึงต้องเป็นนวัตกรรมด้วยละ? ทาง ARK ได้นิยามการลงทุนในนวัตกรรมเอาไว้ว่าเป็น “หัวใจสำคัญในการเติบโต” และเป็น “การลงทุนในปัจจุบันสำหรับอนาคต” โดยนวัตกรรมนั้นควรที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิม สามารถลดต้นทุนพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และได้รับส่วนแบ่งการตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ARK เชื่อว่าในระยะยาวแล้วนวัตกรรมเหล่านี้จะสามารถสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนได้อย่างมหาศาล
การวิเคราะห์การลงทุนของ ARK จะใช้ทั้งแบบ Top-down และ Bottom-up ในการตรวจหานวัตกรรม โดย ARK มีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุหานวัตกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ รวมถึงใช้ประโยชน์จากโอกาสเพื่อให้คุณค่าการลงทุนในระยะยาวแก่นักลงทุน
รูปที่ 2 ขั้นตอนการลงทุนของ ARK
ที่มา: ark-invest.com
เริ่มจากการวิเคราะห์แบบ Top-down ในการตรวจสอบว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรและกำลังมุ่งหน้าไปในที่ใดเพื่อทำความเข้าใจกับนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดย ARK จะใช้ Open Research Ecosystem เพื่อทำการรวมรวบข้อมูล รวมถึงช่วยในการกำหนดและปรับแต่งกระบวนการวิจัยต่าง ๆ พร้อมปรับขนาด “โอกาส” หาจุดที่ดีที่สุดที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุน
รูปที่ 3 Open Research Ecosystem ของ ARK
ที่มา: ark-invest.com
ส่วนการวิเคราะห์แบบ Bottom-up จะเริ่มจากปรับแต่งกลุ่มการลงทุนที่มีศักยภาพ โดย ARK จะประเมินการลงทุนที่มีศักยภาพตามเมตริกหลักเพื่อค้นหาบริษัทสำหรับการลงทุนในบริบทของ “โอกาส” ซึ่งรวมไปถึงการสร้างรูปแบบการประเมินมูลค่าและรายได้ของแต่ละบริษัทในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อจัดพอร์ตการลงทุนและบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน
เริ่มจากกองทุนแรกในจักรวาล ARK ที่ทาง ARK ได้กล่าวไว้ว่าเป็น “ธีมรากฐานสำคัญของ Disruptive Innovation” นั่นคือกองทุน ARK INNOVATION ETF หรือ ARKK โดยกองทุน ARKK จะเน้นลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นและได้รับประโยชน์จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ รวมไปถึงการปรับปรุงทางเทคโนโลยีและความก้าวหน้าในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ธีมหลัก ได้แก่ Genomic Revolution, Industrial Innovation, Next Generation Internet และ Fintech Innovation ซึ่ง ARKK จะมีการกระจายการลงทุนในองค์ประกอบของ Disruptive Innovation ทั้ง 4 ธีมหลัก ตามสัดส่วนในรูปที่ 4
รูปที่ 4 สัดส่วนประเภทธุรกิจที่กองทุน ARKK ลงทุน
ที่มา: ARK Innovation ETF (ARKK) Fact Sheet (ข้อมูล ณ วันที่ 31/12/2020)
จากที่ได้กล่าวไปว่ากองทุน ARKK จะเน้นลงทุนใน 4 ธีมนวัตกรรมหลักที่ทาง ARK เชื่อว่านวัตกรรมทั้ง 4 ธีมนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์โลกและสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
รูปที่ 5 Investment Focus ของ Industrial Innovation
ที่มา: ark-invest.com/
3D Printing เป็นกระบวนการสร้างวัตถุสามมิติที่สามารถจับต้องและนำไปใช้งานได้จริง ๆ
แม้ว่านวัตกรรม 3D Printing จะยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีความใหม่ในตลาด แต่ก็มีการพัฒนาที่สำคัญหลายอย่างเกิดขึ้นในทุกปี โดยมีแนวโน้มที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ เช่น การสร้างอวัยะเทียมสำหรับผู้ป่วยที่ต้องปลูกถ่ายอวัยวะ ใช้ในการทำขาเทียมต้นทุนต่ำกว่า $100 ไปจนถึงการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ในการสร้างต้นแบบได้อย่างรวดเร็ว
รูปที่ 6 การประยุกต์ใช้นวัตกรรม 3D Printing ในอุตสาหกรรม Health Care
ที่มา: idtechex.com/
รูปที่ 7 ยอดขายของบริษัทในอุตสาหกรรม 3D Printing
ที่มา: ARK Research
แม้ว่ารายได้จากการพิมพ์ 3D ในปี 2020 จะลดลง แต่ก็มีผู้ใช้รายใหม่จำนวนไม่น้อยที่นำประโยชน์จากเทคโนโลยี 3D Printing มาประยุกต์ใช้ในการผลิตสำหรับช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น Face Shield, Face Masks, เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น โดย ARK เชื่อว่าอุตสาหกรรม 3D Printing ทั่วโลกจะขยายตัวในอัตรา 60% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้าจาก 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นประมาณ 120 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025
รูปที่ 8 Investment Focus ของ Next Generation Internet
ที่มา: ark-invest.com/
Digital Media เป็นสื่อโสตทัศน์และแอปพลิเคชันที่เผยแพร่โดยตรงผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งรวมถึง Digital Video เช่น ภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการทีวี Digital Music ที่ให้ดาวน์โหลดหรือสตรีมมิง ตลอดจน Digital Game สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีเนื้อที่เผยแพร่ทางอิเล็กทรอนิกส์อย่าง ePublishing เช่น eBooks, eMagazines หรือ ePapers โดยการคาดการณ์อัตราการใช้จ่ายของผู้ใช้บริการ Digital Media ประเภทต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเภท Video Games และ VoD
รูปที่ 9 รายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคน (ARPU) ของ Digital Media ประเภทต่าง ๆ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2564)
ที่มา: statista.com/
รูปที่ 10 Investment Focus ของ Genomic Revolution
ที่มา: ark-invest.com/
Gene Therapy เป็นวิทยาการทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาโรค หรือ ความผิดปกติทางพันธุกรรม โดยการผ่าตัดเปลี่ยนยีนที่ผิดปกติและถ่ายยีนที่ปกติเข้าไปแทนที่ หรือใส่ยีนที่ปกติเข้าไปโดยไม่ต้องตัดเอายีนที่ผิดปกติออก เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากการผิดปกติของสารพันธุกรรม เช่น โรคมะเร็ง โรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น โดยคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้การรักษาแบบ Gene Therapy นี้จะเป็นการรักษามาตรฐานในโรคหลายชนิดได้ โดยเฉพาะในโรคที่รักษาไม่ได้ผลในปัจจุบัน รวมถึงจะถูกนำมาใช้ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของมนุษย์ ให้มนุษย์มีอายุยืนยาวขึ้น
รูปที่ 11 ภาพรวมกระบวนการทำงานของ Gene Therapy
ที่มา: ib.bioninja.com.au/
รูปที่ 12 Investment Focus ของ Fintech Innovation
ที่มา: ark-invest.com/
Digital Wallet หรือ e-wallet เป็นระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์จัดเก็บข้อมูลการชำระเงินและรหัสผ่านของผู้ใช้อย่างปลอดภัย ด้วยการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล ผู้ใช้สามารถดำเนินการชำระค่าสินค้าหรือบริการได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถใช้ร่วมกับระบบชำระเงินผ่านมือถือ (Mobile Payment) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินสำหรับการซื้อสินค้าด้วยสมาร์ทโฟนของตนเองได้ พร้อมสร้างรหัสผ่านที่รัดกุมขึ้นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะจำได้ในภายหลังหรือไม่ด้วยระบบ Face ID หรือ Touch ID นอกจากนี้ยังสามารถใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อเก็บข้อมูลบัตรสะสมคะแนนและคูปองดิจิทัล โดยในปัจจุบันกระเป๋าเงินดิจิทัลมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้บริการและตอบรับกับโลกสังคมไร้เงินสดในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปที่ 13 มูลค่าการชำระเงินผ่านมือถือในจีน เปรียบเทียบกับ GDP จีน
ที่มา: ARK Research
ในประเทศจีนปริมาณการชำระเงินผ่านมือถือเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 เท่าในระยะเวลาเพียง 5 ปี จากประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2015 เป็นประมาณ 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า GDP ของจีนในปี 2020 เกือบ 3 เท่า
กระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังเข้าสู่ตลาดการให้กู้ยืมที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการให้กู้ยืมของธนาคารแบบเดิมไม่น่าจะฟื้นตัวถึงจุดสูงสุดในปี 2019 ตามประมาณการของ ARK รายได้ด้านดอกเบี้ยของธนาคารจากบัตรเครดิตลดลงมากกว่า 10% หรือประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 และมีแนวโน้มที่จะลดลงมากกว่า 25% จาก 130 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 เป็น 95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 นอกจากนี้การลงมาเล่นในตลาดการให้กู้ยืมของผู้ให้กู้ดิจิทัลเช่น Square, PayPal, Affirm, Klarna และ LendingClub ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับส่วนแบ่งจากธนาคารแบบดั้งเดิมมากขึ้น
รูปที่ 14 กราฟแสดงการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ Digital Wallet ในสหรัฐฯ (รูปซ้าย)
รูปที่ 15 กราฟแสดงการประเมินมูลค่าที่เป็นไปได้ต่อผู้ใช้งาน Digital Wallet (รูปขวา)
ที่มา: ARK Research
ซึ่งในสหรัฐอเมริกาผู้ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลมีจำนวนมากกว่าผู้ถือบัญชีเงินฝากในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด โดยจากการวิจัยของ ARK ได้ระบุไว้ว่าหากผู้ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลประมาณ 230 ล้านคนในสหรัฐฯ มีมูลค่า 19,900 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 จะเป็นโอกาสที่กระเป๋าเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ จะมีมูลค่าถึง 4.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการคาดการณ์การเติบโตของธุรกรรมไร้เงินสดทั่วโลก World Payments Report ได้รายงานว่าธุรกรรมไร้เงินสดทั่วโลกในปี 2019-2023 จะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 12% ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 14% ตั้งแต่ปี 2018-2019 ถึง 708.5 พันล้านธุรกรรม ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดที่บันทึกไว้ในทศวรรษที่ผ่านมา
รูปที่ 16 การเติบโตของธุรกรรมไร้เงินสดที่ขับเคลื่อนโดย Mobile Payment ในปี 2019-2023
ที่มา: paymentscardsandmobile.com/
รูปที่ 17 Top 10 Holdings กองทุน ARKK
ที่มา: ark-funds.com/ (ข้อมูล ณ วันที่ 28/01/2021)
หากดูจากสัดส่วน Top 10 Holdings ตามรูปที่ 16 จะเห็นได้ว่ากองทุน ARKK มีการกระจายการลงทุนตามองค์ประกอบของ Disruptive Innovation ทั้ง 4 ธีมหลักได้อย่างหลากหลาย ในที่นี้จึงจะนำ Top 10 Holdings ของกองทุน ARKK บางบริษัทมาจัดหมวดหมู่ตามธีมการลงทุน 4 ธีมหลัก เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น พร้อมเจาะลึกกันว่าบริษัทแต่ละบริษัทประกอบธุรกิจอะไรกันบ้าง
รูปที่ 18 Top 10 Largest Companies by Market Cap (ข้อมูล ณ วันที่ 29/01/2021)
ที่มา: companiesmarketcap.com
Tesla ได้ก้าวขึ้นมาอยู่หนึ่งใน 10 อันดับของบริษัทที่ Market Cap สูงที่สุดในโลก หลังจากราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2020 ที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์และตลาดหุ้นทั่วโลก โดยในปี 2021 นี้ Tesla จะเริ่มผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้เซลล์แบตเตอรี่ใหม่ซึ่งทาง Tesla เป็นผู้ออกแบบผลิตเอง พร้อมคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 50% ต่อปี
รูปที่ 19 เครื่อง Square Stand สำหรับ iPad
ที่มา: squareup.com/shop/
โดยรายงานการศึกษาตลาด POS ของ Mordor Intelligence คาดว่าตลาด POS จะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 20% สำหรับปี 2021-2026 ซึ่งตลาด POS มีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากความสามารถในการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่
กองทุนที่สองของจักรวาล ARK คือ ARK Next Generation Internet ETF หรือ ARKW ที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นและคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี เช่น บริษัทที่พึ่งพาหรือได้รับประโยชน์จากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีของระบบร่วมกัน โครงสร้างพื้นฐานและการบริการ ผลิตภัณฑ์และบริการบนอินเตอร์เน็ต วิธีการชำระเงินแบบใหม่ สื่อดิจิตัล เป็นต้น
รูปที่ 20 สัดส่วนประเภทธุรกิจที่กองทุน ARKW ลงทุน
ที่มา: ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) Fact Sheet (ข้อมูล ณ วันที่ 31/12/2020)
รูปที่ 21 Top 10 Holdings กองทุน ARKW
ที่มา: ark-funds.com/ (ข้อมูล ณ วันที่ 28/01/2021)
รูปที่ 22 ส่วนแบ่งการตลาดของ Music Streaming Platform แบบชำระเงิน ไตรมาสที่ 2 ปี 2020
ที่มา: counterpointresearch.com/
โดยมีข้อมูลจาก Statista ที่คาดการณ์ว่ารายได้ในกลุ่ม Digital Music จะพุ่งขึ้นสูงถึง 24,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 นี้ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR 2021-2025) ที่ 8.8% ส่งผลให้คาดการณ์ปริมาณตลาด 34,808 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ส่วนอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 17.8% ภายในปี 2025 เช่นกัน
กองทุน ARK AUTONOMOUS TECHNOLOGY & ROBOTICS ETF หรือ ARKQ มากับแนวคิด “การปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่” บริษัทต่าง ๆ ที่มีสัดส่วนการลงทุนภายใต้ ARKQ จึงเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นและคาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ รวมไปถึงการปรับปรุงเทคโนโลยีและความก้าวหน้าในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ระบบอัตโนมัติในการผลิต วัสดุอุปกรณ์ ไปจนถึงการขนส่ง
รูปที่ 23 สัดส่วนประเภทธุรกิจที่กองทุน ARKQ ลงทุน
ที่มา: ARK AUTONOMOUS TECHNOLOGY & ROBOTICS ETF (ARKQ) Fact Sheet (ข้อมูล ณ วันที่ 31/12/2020)
รูปที่ 24 Top 10 Holdings กองทุน ARKQ
ที่มา: ark-funds.com/ (ข้อมูล ณ วันที่ 28/01/2021)
รูปที่ 25 สัดส่วนประเภทธุรกิจที่กองทุน ARKF ลงทุน
ที่มา: ARK FINTECH INNOVATION ETF (ARKF) Fact Sheet (ข้อมูล ณ วันที่ 31/12/2020)
รูปที่ 26 Top 10 Holdings กองทุน ARKF
ที่มา: ark-funds.com/ (ข้อมูล ณ วันที่ 28/01/2021)
รูปที่ 27 กราฟแท่งแสดงการเติบโต Total Payment Volume และ Net Revenues ของ Paypal
ที่มา: Paypal Third Quarter 2020 Results
ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2020 PayPal มีอัตราการเติบโตสูงสุดในฐานะบริษัทมหาชน โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากบัญชีใหม่สุทธิที่ใช้งานอยู่ 15.2 ล้านบัญชีในช่วงเวลานั้น (รวมบัญชีทั้งหมด 361 ล้านบัญชี) และปริมาณการทำธุรกรรมชำระเงินรวมเพิ่มขึ้นถึง 36% โดยในเดือนมกราคม 2021 PayPal มี Market Cap มูลค่า 278.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ PayPal กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดอันดับที่ 28 ของโลก
สำหรับกองทุนสุดท้ายในจักรวาล ARK จะเป็นการผสมผสานประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับอุตสาหกรรม Healthcare นั่นคือกองทุน ARK GENOMIC REVOLUTION ETF หรือ ARKG ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นและคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการยืดอายุขัย และการยกระดับ คุณภาพชีวิตของมนุษย์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่น โดยการผสมผสานการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เข้ากับด้านจีโนมิกส์ในธุรกิจ
รูปที่ 28 สัดส่วนประเภทธุรกิจที่กองทุน ARKG ลงทุน
ที่มา: ARK GENOMIC REVOLUTION ETF (ARKG) Fact Sheet (ข้อมูล ณ วันที่ 31/12/2020)
รูปที่ 29 Top 10 Holdings กองทุน ARKG
ที่มา: ark-funds.com/ (ข้อมูล ณ วันที่ 28/01/2021)
รูปที่ 30 การแพทย์แบบ Telemedicine
ที่มา: vohrawoundcare.com/
โดยคาดว่าการแพทย์แบบ Telemedicine จะเติบโตจาก 25.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 เป็น 55.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ต่อปีอยู่ที่ 16.9% ซึ่งการเติบโตที่รวดเร็วนี้มาจากปัจจัยการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและความจำเป็นในการขยายการเข้าถึงการรักษาพยาบาล การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงความก้าวหน้าในการสื่อสารโทรคมนาคม
หากใครที่เริ่มสนใจในจักรวาลแห่งนวัตกรรมอย่าง ARK แล้วแต่ยังมีคำถามอยู่ว่า “กองทุนไทยกองทุนไหนที่มีสัดส่วนการลงทุนใน ARK ?” ก็ไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนไกล เพราะเราได้รวบรวมกองทุนไทยที่มีสัดส่วนลงทุนใน ARK มาไว้ที่นี่แล้ว
รูปที่ 31 รวมกองทุนไทยที่ลงทุนในจักรวาล ARK
หากผู้ใดสนใจกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในจักรวาล ARK ทั้ง 5 กองทุนนี้สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในหนังสือชี้ชวนกองทุน หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.finnomena.com/fund/ ส่วนผู้ที่ศึกษาข้อมูลของกองทุนโดยละเอียดแล้วและพร้อมที่จะเติบโตไปกับผู้นำ ETF แห่งทศวรรษอย่าง ARK แล้ว ก็สามารถเปิดบัญชีกับ FINNOMENA เพื่อเริ่มลงทุนได้เลย
— planet 46.
สร้างแผนและเปิดบัญชีกองทุนรวมกับ FINNOMENA สะดวก รวดเร็ว เปิดออนไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก พร้อมเลือกซื้อกองทุนกว่า 1,000 กอง จาก 19 บลจ. สร้างแผนและเปิดบัญชี คลิก: https://finno.me/open-plan
อ้างอิง:
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”
Advance, ARK, ARK Investment, ARKF, ARKG, ARKK, ARKQ, ARKW, Article, Knowledge, Long Content