Finnomena (ฟินโนมีนา) บริษัทที่ให้บริการด้านการลงทุนแบบครบวงจร ประกาศปรับภาพลักษณ์ใหม่ (Rebranding) ครั้งใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคำแนะนำการลงทุนที่เป็นกลางให้นักลงทุน ภายใต้กลยุทธ์ “Ahead of the Game มองขาดทุกโอกาสการลงทุน” มาดูกันว่า Finnomenaโฉมใหม่มีอะไรน่าสนใจบ้าง
กองทุน Term Fund: นักลงทุนสามารถทำรายการซื้อกองทุน Term Fund ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิชัน Finnomena โดยกดเพิ่มรายการคำสั่งซื้อที่พอร์ต DIY ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยสูงกว่าเงินฝากประจำ
แหล่งความรู้ด้านการลงทุน (Knowledge Hub): ส่งต่อความรู้และข้อมูลด้านการลงทุนที่ทันเหตุการณ์ให้กับนักลงทุนไทยในรูปแบบของบทความและวิดีโอผ่านเว็บไซต์และ Social Media ช่องทางต่าง ๆ ของ Finnomena
Franklin Templeton: ยกระดับกลยุทธ์การลงทุนของคุณให้เป็นระดับโลก Finnomena ร่วมกับ Franklin Templeton ออกแบบพอร์ตการลงทุนที่เหมาะกับคนไทย พร้อมส่งต่อบทวิเคราะห์การลงทุนจากศูนย์วิจัยด้านการลงทุนระดับโลกให้คุณได้รู้ก่อนใคร
Guru Port: Finnomena จับมือร่วมกับกูรูนักลงทุนชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทย พัฒนาแนวคิดออกมาเป็นพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน
หนึ่งในสาเหตุที่ตลาดยัง Positive น่าจะมาจากการที่ BOJ ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป และค่อนข้างจะชัดมานานแล้ว
ขณะเดียวกันหุ้นญี่ปุ่นยังคงมีความมั่นคงในแง่คุณภาพกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโต ทำให้แม้่ตลาดที่พุ่งทำ All Time High แต่ในส่วนของ Valuation ยังไม่ได้แพงมากนัก PE เฉลี่ยอยู่ที่ 15.8 เท่า
นามของชายผู้นั้นคือ Harry Markowitz ผู้ให้กำเนิดแนวคิด Modern Portfolio Theory ที่มีใจความสำคัญว่าวิธีการกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท จะช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และลดความผันผวนระหว่างทางได้ ซึ่งเป็นรากฐานของการจัดการกระจายความเสี่ยงสินทรัพย์ (Asset Allocation)
แนวคิดดังกล่าว ได้เปลี่ยนการวิเคราะห์สินทรัพย์แบบดั้งเดิมที่เป็นการวิเคราะห์รายตัวว่า A หรือ B อะไรดีกว่ากันแล้วซื้อตัวนั้น มาเป็นการจัดสินทรัพย์แบบพอร์ตโฟลิโอที่ซื้อมากกว่า 1 สินทรัพย์ในพอร์ต แล้วจึงให้น้ำหนักแต่ละสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน เพื่อเป้าหมายการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
“การเปลี่ยนผ่านนี้หมายความว่าจีนจะสามารถหลีกเลี่ยงการติดกับดักรายได้ปานกลาง (middle income trap) และสามารถสานต่อรูปแบบการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไปได้”นายเอลเฮเดอรีกล่าว
กองทุนรวมหุ้นยุโรปที่ บริหารจัดการโดย ELEVA Capital ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญในการลงทุนในหุ้นยุโรป มีกระบวนวิเคราะห์หุ้นลักษณะ Bottom up โดยลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตระยะยาวและมีความสามารถในการแข่งขัน
ONE-EUROEQ Top HoldingSource: Fund Fact Sheet ของกองทุน ONE-EUROEQ as of 31/1/2024
นโยบายกองทุน: กองทุนเปิดฟิลลิป ไชน่า กรีน เอ็นเนอร์จี แอนด์ เอ็นไวรอนเมนท์ มีนโยบายการลงทุนใน KraneShares MSCI China Environment Index ETF (กองทุนหลัก) ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยมุ่งเน้นไปที่ การลงทุนในบริษัทจีนที่ดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 ประการ ได้แก่ พลังงานทางเลือก การพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การออกแบบอาคารและอาคารสีเขียว การป้องกันมลพิษและการใช้ พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ กองทุนหลักมุ่งสร้างผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามดัชนี MSCI China IMI Environment 10/40 โดยมีความเสี่ยงของกองทุนอยู่ที่ระดับ 6
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: กองทุนไทยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก ส่วนกองทุนหลัก KraneShares MSCI China Environment Index ETF มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด
นโยบายกองทุน: กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล คลีน เอ็นเนอร์จี ชนิดสะสมมูลค่า มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ iShares Global Clean Energy UCITS ETF (กองทุนหลัก) ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P Global Clean Energy ที่จะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: กองทุนไทยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามกองทุนหลัก ส่วนกองทุนหลัก iShares Global Clean Energy UCITS ETF มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด
FundTalk มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อราคาพลังงาน จึงแนะนำลงทุนในกองทุน KT-ENERGY ซึ่งลงทุนใน BGF World Energy Fund บริหารกองทุนโดย BlackRock
กองทุนดังกล่าวลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก โดยหุ้นที่กองทุนลงทุนจะต้องดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจและผลิต ธุรกิจโรงกลั่น หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยปกติแล้วหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานมักได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยหน่วยลงทุนของกองทุน BGF World Energy Fund มีราคาเคลื่อนไหวไปตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบเช่นกัน นักลงทุนจึงสามารถลงทุนผ่านกองทุนดังกล่าว เพื่อให้ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นได้
หุ้น 10 ตัวแรกในพอร์ตการลงทุน BGF World Energy Fund
Source: BlackRock as of 29/02/2024
หุ้น 10 ตัวแรกในกองทุน BGF World Energy Fund ประกอบไปด้วยหุ้นพลังงานขนาดใหญ่จากหลากหลายภูมิภาค เช่น อังกฤษ (Shell PLC และ BP PLC) สหรัฐอเมริกา (Exxon Mobil Corp และ Chevron Corp) และยุโรป (TotalEnergies SE)
กองทุนหุ้นกลุ่ม Health Care ที่มีปัจจัยหนุนของการเกิด Sector Rotation หลังกำไรหุ้นกลุ่มนี้พลิก Turnaround และมีการโยกเงินลงทุนออกจากหุ้นเทคโนโลยีเติบโต
อย่างที่เคยบอก อย่ามองหาสุดยอดกองทุน Active Fund มองหากลยุทธ์ในการจัดพอร์ต ที่สำคัญ ผลตอบแทนคาดหวังในการลงทุนของคุณพอใจหรือไม่ ถ้าพอใจ อาจจะไม่จำเป็นต้องเพิ่มความเสี่ยง