แจ้งเตือน

พิชิตเป้าหมายการลงทุนกับ 3 กองทุนเด่น BBLAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
พิชิตเป้าหมายการลงทุนกับ 3 กองทุนเด่น BBLAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน B-INNOTECH, B-ASEAN และ B-SENIOR จาก BBLAM ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ด้วยความโดดเด่นในสไตล์การลงทุนที่หลากหลาย พร้อมกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เป้าหมายของนักลงทุน

ปัจจุบันลงทุนในหลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์จุดมุ่งหมายของนักลงทุนที่แตกต่างกันไป ซึ่ง BBLAM ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีสไตล์ครอบคลุม หลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนให้ได้มากที่สุด และนี่ก็คือ 3 ธีมการลงทุนเด่นที่คว้ารางวัลประเภทต่างๆ ได้แก่

  1. กองทุนหุ้นเทคโนโลยี B-INNOTECH ได้รับรางวัล Best Technology Equity Fund
  2. กองทุนหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน B-ASEAN ได้รับรางวัล Best ASEAN Equity Fund
  3. กองทุนผสมเพื่อเป้าหมายเกษียณ B-SENIOR ได้รับรางวัล Best Conservative Allocation Fund

รู้จักกองทุน B-INNOTECH

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี หรือ B-INNOTECH มีนโยบายการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund ซึ่งบริหารกองทุนแบบ Active Management เน้นการเสาะหาหุ้นเติบโต (Growth) สูง ภายใต้ Valuation ที่เหมาะสม รวมทั้งยังสามารถลงทุนในหุ้นวัฏจักร และหุ้นที่มีสถานการณ์พิเศษ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

Finnomena 3D Diagram B-INNOTECH


Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่นๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 7 (กองทุนรวมอุตสาหกรรม)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.0700% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.3727% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-INNOTECH

1. เน้นลงทุนในหุ้นนวัตกรรมและหุ้นที่ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งนี้ ต้องเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและมีแนวโน้มเติบโตสูง

2. มีนโยบายบริหารแบบ Active ที่ผู้จัดการกองทุนมีความตื่นตัว เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ทิ้งผู้ลงทุนไว้กลางทางหรือปล่อยวางให้เป็นตามกระแส

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน B-INNOTECH โดย BBLAM ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Technology Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน B-ASEAN

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน หรือ B-ASEAN มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) Bloomberg ASEAN Large & Mid Net Return Index USD

Finnomena 3D Diagram B-ASEAN

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่นๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2.0312% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-ASEAN

1. ผู้จัดการกองทุนเลือกใช้วิธีลงทุนตรงในหุ้นรายตัวของตลาดหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศอื่นในอาเซียนที่เห็นว่าเหมาะสม

2. ทีมนักวิเคราะห์เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน เพื่อทำความเข้าใจธุรกิจ วัฒนธรรม และพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนอาเซียนเป็นระยะเวลานาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลเชิงลึกในการคัดเลือกหุ้นรายตัว โดยใช้วิธีเลือกหุ้นแบบผสมผสานทั้ง Top-down และ Bottom-up

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน B-ASEAN โดย BBLAM ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best ASEAN Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน B-SENIOR

กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ หรือ B-SENIOR มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV และลงทุนในตราสารทุน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV เพื่อเป้าหมายการลงทุนที่ต้องการบริหารเงินในวัยเกษียณ และโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม

Finnomena 3D Diagram B-SENIOR

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่นๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 5 (กองทุนรวมผสม)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.5350% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.6387% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-SENIOR

1 เป็นกองทุนแรกๆ ในอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย ที่ออกแบบมาเพื่อเป้าหมายของนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม (Customer Orient) ได้แก่ กลุ่มวัยเกษียณ ที่ต้องการหาที่เก็บเงินหลังเกษียณที่ไม่เสี่ยงมากจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินเฟ้อ

2. เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพเพื่อความสม่ำเสมอของผลตอบแทน และเพิ่มศักยภาพการเติบโตของผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น กองทุนรวมทองคำ Prop Fund IFF REITs และ ETF พร้อมทั้งปรับสัดส่วนการลงทุนที่ยืดหยุ่น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

3. กองทุนไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และสามารถเลือกทำการขายคืนอัตโนมัติ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนวัยเกษียณที่ต้องการเงินไว้ใช้จ่ายรายเดือน เป็นการอำนวยความสะดวกไม่ต้องคอยขายคืนเป็นครั้งๆ

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน B-SENIOR โดย BBLAM ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Conservative Allocation Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

กองทุนผลตอบแทนเด่นจาก TALISAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
TALISAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน MEGA10-A จาก บลจ. ทาลิส ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Best Performing Mutual Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena สะท้อนความสำเร็จของการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เฟ้นหาศักยภาพโอกาสเติบโตสู่อนาคต 

ว่าด้วยคอนเซปต์ของกองทุนรวมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงปีที่ผ่านมา* เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงกองทุน MEGA10 Series ที่คัดสรรหุ้นเพียง 10 ตัว ภายใต้ธีมการลงทุนที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลก และหุ้นที่นักลงทุนรู้จัก

จุดเริ่มต้นของ Series นี้ ก็มาจากกองทุน MEGA10-A จาก บลจ. ทาลิส โดยจะลงทุนใน 10 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ เป็น Global Brands ที่ทรงอิทธิพลสูง ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ผลการดำเนินงานของกองทุนมีการเติบโตก้าวกระโดดนับตั้งแต่วัน IPO*

*นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในวันที่ 21 ธันวาคม 2022 จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024 MEGA10-A มีมูลค่าทรัพย์สินของ เติบโตขึ้น 1,623.32% และให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 96.10%

ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

รู้จักกองทุน MEGA10-A

กองทุนเปิด MEGA 10 ชนิดสะสมมูลค่า หรือ MEGA10-A มีนโยบายการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาทั้ง NYSE และ NASDAQ โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทผู้นำด้านตราสินค้า (Brand Value) คัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และมีสภาพคล่องสูงสุด 10 อันดับแรก

Finnomena 3D Diagram MEGA10-A

Finnomena 3D Diagram MEGA10-A

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.7120% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/09/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน MEGA10-A

1. มุ่งเน้นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการคัดเลือกหุ้นเพียง 10 ตัวที่สะท้อนเมกะเทรนด์ระดับโลก ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Rule-based Approach ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัดในระยะยาว

2. เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโฟกัสและติดตามหุ้นขนาดใหญ่ได้ง่าย คอนเซปต์สำคัญคือการเลือกหุ้นที่คุณรู้จัก

3. กองทุนใน MEGA10 Series เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับปรับพอร์ตการลงทุนตามเป้าหมายและความชอบเฉพาะตัว และเป็นเครื่องมือในการทำ Asset Allocation สร้างโอกาสเติบโตในทุกธีมการลงทุน

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน MEGA10-A โดย บลจ. ทาลิส ผู้คว้ารางวัล Special Awards ประเภท Best Performing Mutual Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

สร้างกระแสเงินสดที่ยั่งยืนกับกองทุนอสังหาฯ จาก LHFUND คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
LHFUND คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน LHPROPINFRA-D จาก บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Fund of Property Fund (Thai) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ตอกย้ำความเป็นตัวจริงด้านกองทุนอสังหาฯ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)

เมื่อดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง นักลงทุนต่างมองหาสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ถูกลง หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีแนวโน้มสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง และมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามภาวะตลาด

บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้รับการยอมรับในด้านการบริหารกองทุน Fund of Property Fund ด้วยกองทุน LHPROPINFRA-D ที่โดดเด่นในการคัดเลือกสินทรัพย์คุณภาพสูง รายได้มั่นคง และได้รับแรงสนับสนุนจากผู้พัฒนาโครงการที่แข็งแกร่ง

รู้จักกองทุน LHPROPINFRA-D

กองทุนเปิด แอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล ชนิดจ่ายเงินปันผล หรือ LHPROPINFRA-D มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้ และเงินฝากธนาคาร โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram LHPROPINFRA-D

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 8 (กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก)
  • นโยบายปันผล จ่ายปีละไม่เกิน 12 ครั้ง
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป ไม่กำหนด
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.50%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.07000% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.58059% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน LHPROPINFRA-D

1. เน้นการลงทุนใน REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ โดยคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี รายได้มั่นคง สนับสนุนให้กองทุนได้รับกระแสเงินสดสม่ำเสมอ พร้อมทั้งได้รับแรงหนุนจากผู้สนับสนุนโครงการที่มีความแข็งแกร่ง ช่วยเสริมโอกาสเติบโตในระยะยาว

2. ปัจจุบันเน้นลงทุนในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่เชิงพาณิชย์ และการท่องเที่ยว ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตไทย และหนุนให้อัตราเช่าและค่าเช่าได้รับอานิสงส์เชิงบวก

3. ระดับผลตอบแทนจากเงินปันผล (Yield Spread) อยู่ในจุดที่ได้เปรียบ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ

4. ได้แรงสนับสนุนจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อ REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน LHPROPINFRA-D โดย บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Fund of Property Fund (Thai) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

บลจ.บัวหลวง : Promotion กองทุนลดหย่อนภาษี 2568

Finnomena Editor

บลจ.บัวหลวงประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น สำหรับนักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี (RMF/ThaiESG) ระหว่างวันที่ ก.พ. – 30 เม.ย. 2568 ทุกๆ 50,000 บาท รับ E-Voucher 100 บาท
เงื่อนไขโปรโมชั่นฯ ตามรายละเอียดด้านล่าง

 

 

 


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 : DeepSeek จุดไฟการแข่งขัน

บลจ.กรุงศรี
Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 DeepSeek จุดไฟการแข่งขัน

มุมมองการลงทุน

ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาด และการประกาศนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เน้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐและสนับสนุนการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี  นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้มีท่าทีใช้นโยบายที่แข็งกร้าวอย่างที่ได้หาเสียงไว้ เช่น มีท่าทีประนีประนอมทางการค้ากับจีนมากขึ้น เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆมีการเจรจาต่อรองทางการค้ามากขึ้น เป็นต้น  ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเติบโตได้ดี และอาจมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ  อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อของสหรัฐอาจเร่งตัวขึ้นจากการที่เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น และเฟดอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด แต่ก็ไม่น่าส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก เพราะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และสถานการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถเติบโตได้แข็งแกร่งภายใต้ภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง

สำหรับตลาดหุ้นอินเดียในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลงมาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอินเดียอาจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ

ในช่วงปลายเดือนมกราคม ตลาดหุ้นสหรัฐและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงแรง หลังบริษัท DeepSeek ของจีนเผยโปรแกรม AI ใหม่ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโปรแกรม AI ชั้นนำของสหรัฐ แต่มีต้นทุนต่ำกว่าและสามารถใช้ชิปที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าได้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐ โดยเฉพาะในแง่ของต้นทุนการดำเนินงานและความจำเป็นในการใช้ชิปที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง  อย่างไรก็ดี ตลาดฟื้นตัวในวันถัดไป หลังนักวิเคราะห์ประเมินว่าผลกระทบมีจำกัด และน่าจะส่งผลดีต่อการแข่งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีในระยะยาว

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็น 1 ในตลาดที่ปรับตัวลดลงสวนทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากยังคงขาดปัจจัยหนุนตลาด ความกังวลเกี่ยวกับแรงขาย LTF ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี ทิศทางดอกเบี้ยในระยะยาวยังคงเป็นขาลง การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาวที่บริหารแบบเชิงรุก (active management) จึงน่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

พอร์ตการลงทุนสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2568

บลจ. กรุงศรีฯ แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนไว้ดังเดิม โดยลงทุนในตลาดหุ้นไทย 5% เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงต่ำกว่าหลายประเทศ และคาดการณ์การเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯยังคงอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นสหรัฐที่คาดว่าจะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง และคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียหลังจากราคาปรับลงมามากและเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มทีมีการเติบโตสูง ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ในส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ แนะนำคงสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ไทย ( KFAFIX-A) และตราสารหนี้ต่างประเทศ (KF-CSINCOM) เนื่องจากการชะลอการลดดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอาจให้ผลตอบแทนน้อยลง ในขณะที่ความผันผวนยังคงสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ไทย


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

บลจ.อีสท์สปริง : Promotion กองทุนลดหย่อนภาษี 2568

Finnomena Editor


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

ตอบโจทย์ทั้งสายเติบโตและปลอดภัย กับ 2 กองทุน 2 สไตล์ จาก Eastspring คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
Eastspring คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน ES-EG และ ES-CASH จาก บลจ. อีสท์สปริง ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best European Equity Fund และ Best Money Market General Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ชูศักยภาพการบริหารการลงทุนใน 2 แนวทางที่แตกต่าง ทั้งมองหาโอกาสเติบโตในหุ้นยุโรป และการบริหารสภาพคล่องผ่านกองทุนตลาดเงิน

ในขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกาและเอเชียอยู่ในความสนใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นยุโรปก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับกระจายความเสี่ยง ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมองหาที่พักเงินที่ให้ทั้งความมั่นคง สภาพคล่องสูง และผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์

บลจ. อีสท์สปริง โดดเด่นด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 มิติของการลงทุน โดยกองทุน ES-EG มอบโอกาสเติบโตในระยะยาวผ่านการลงทุนหุ้นยุโรป ขณะที่กองทุน ES-CASH ตอบโจทย์สภาพคล่องและความปลอดภัยของเงินลงทุน

รู้จักกองทุน ES-EG

กองทุนเปิดอีสท์สปริง European Growth หรือ ES-EG มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในกลุ่มประเทศยุโรป ผ่านกองทุนหลัก Wellington Strategic European Equity Fund ซึ่งมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด MSCI Europe Net Total Return EUR Index

Finnomena 3D Diagram ES-EG

Finnomena 3D Diagram ES-EG

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.0700% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.2548% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน ES-EG

1. เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปที่มีคุณภาพและมีการเติบโตในระยะยาว

2. เน้นการคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom-up ในบริษัทของภูมิภาคยุโรปทุกขนาด (All Cap) ที่มีความสามารถในการเติบโตเชิงโครงสร้างในระยะยาว

3. ผู้จัดการกองทุนหลักมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการมากกว่า 26 ปี

4. กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานโดดเด่นโดยได้รับ Morningstar Overall Rating 5 ดาว (ณ เดือน ธ.ค. 2024) และมี Track Record ยาวนานกว่า 13 ปี*

*ที่มา: Wellington Strategic European Equity as of 31/05/2024

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน ES-EG โดย บลจ. อีสท์สปริง ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best European Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน ES-CASH

กองทุนเปิดอีสท์สปริง บริหารเงิน หรือ ES-CASH มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ ธุรกรรมทางการเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นใดที่สามารถทวงถามได้ทันที หรือภายใน 397 วัน นับจากวันที่ลงทุน โดยมุ่งหวังให้ได้รับผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram ES-CASH

Finnomena 3D Diagram ES-CASH

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 1 (กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.214% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.343% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน ES-CASH

1. เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องดีและมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป

2. ไม่มีความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกองทุนลงทุนแค่ในตราสารภายในประเทศเท่านั้น

3. เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับเงินฝาก

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน ES-CASH  โดย บลจ. อีสท์สปริง ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Money Market General Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

เปิดปี 2025 หุ้นไทยยังไม่ฟื้น และแทบจะแย่ที่สุดในโลก แม้มีสัญญาญรีบาวด์ระยะสั้น แต่ต้อง Very Selective

Finnomena Editor
กลยุทธ์หุ้นไทย 2025

เปิดฉากปี 2025 ตลาดหุ้นไทยยังคงไม่ฟื้นสักที และเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ผลคอบแทนแย่ที่สุดในโลก เป็นรองแค่ฟิลิปปินส์ที่ลดลง -10.2% ส่วนไทยติดลบ -6.2% ด้วยปัจจัยลบแวดล้อมมากมาย

Source: Definit, data as of 31/01/2025

แต่ใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะแย่เหมือนกันหมด หากเราเจาะลึกในรายละเอียดจะเห็นมีหุ้นที่สร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้อยู่ และมี Impact ที่ช่วยแบกตลาดไม่ให้แย่ไปมากกว่านี้ อาทิ

  • PTTEP +7.59% มีผลกระทบต่อตลาด 3.29%
  • SCB +6.84% มีผลกระทบต่อตลาด 2.48%
  • KTB +8.53% มีผลกระทบต่อตลาด 2.31%
  • TRUE +6.38 มีผลกระทบต่อตลาด 2.23%
  • TTB +7.36% มีผลกระทบต่อตลาด 1.25%

มุมมองตลาดหุ้นไทย Finnomena Funds

  1. เครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก มีทิศทางฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเน้นการฟื้นฟูภาคการบริโภค
  2. ท่าทีนโยบายการเงินของธปท. ยังเป็นกลาง และเน้นย้ำเรื่อง policy space เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
  3. ประมาณการกำไรตลาดหุ้นปรับลงต่อเนื่อง ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับถูกมาก
  4. Fund Flow ยังไหลออกต่อเนื่องตามทิศทางหุ้น EM แต่เริ่มมีสัญญาณจาก market breadth บ่งชี้ถึงการรีบาวด์ระยะสั้น
  5. แนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective Buy

 

Definit Set Select

 Definit SET Select พลิกกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว พิจารณา 3 ปัจจัย

 Earnings หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น
Valuation หุ้นที่มูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม
Technical หุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกของราคาในระยะสั้น

‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍‍‍‍‍ ‍‍สนใจรับบริการ คลิกเลย www.definitinvestment.com/contact-form


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้

เริ่มต้นกระจายลงทุนทั่วโลกกับกองทุน BCAP คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
BACP คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน BCAP-GW90 จาก บลจ. บางกอกแคปปิตอล ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Best Aggressive Allocation Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena กองทุน BCAP-GW90 เน้นการลงทุนครอบคลุมสินทรัพย์ทั่วโลก ด้วยนโยบายการลงทุนที่ผสมผสานทั้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและสินทรัพย์ที่มั่นคง เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนหลากหลายประเภทในที่เดียว พร้อมการบริหารจัดการจากมืออาชีพ

การกระจายความเสี่ยง คือหัวใจสำคัญของการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุน

สำหรับผู้ที่มองหาจุดเริ่มต้นในการลงทุนในรูปแบบนี้ กองทุน BCAP-GW90 จาก บลจ. บางกอกแคปปิตอล เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยกองทุนนี้เน้นการลงทุนทั้งในสินทรัพย์มั่นคงและสินทรัพย์เสี่ยง ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

รู้จักกองทุน BCAP-GW90

กองทุนเปิด บีแคป โกลบอล เวลท์ 90 (BCAP-GW90) มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ได้แก่ ตราสารหนี้, ตราสารทุน, กองทุนสินทรัพย์ทางเลือก, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในสินทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ โดยจะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 90% ของ NAV

Finnomena 3D Diagram BCAP-GW90

Finnomena 3D Diagram BCAP-GW90

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมผสม Aggressive Allocation)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.535%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.284% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.52565% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/09/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน BCAP-GW90

1. เหมาะสำหรับเป็นกองทุนแรกของผู้ที่เริ่มต้นลงทุน 

กองทุน BCAP-GW90 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับกองทุนแรก ด้วยนโยบายการลงทุนแบบผสมที่ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลก ทั้งในไทยและต่างประเทศ เสมือนพอร์ตการลงทุนที่รวมโอกาสการลงทุนไว้ในกองทุนเดียว

2. ตอบโจทย์การเป็นกองทุนหลักของพอร์ตการลงทุน (Core Port)

กองทุน BCAP-GW90 ตอบโจทย์การเป็นกองทุนหลัก (Core Port) ที่สามารถรวมทุกโอกาสการลงทุนไว้ในที่เดียว ทั้งสินทรัพย์มั่นคงและสินทรัพย์เสี่ยง

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน BCAP-GW90 โดย บลจ. บางกอกแคปปิตอล ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Aggressive Allocation Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

จังหวะลงทุนยุคดอกเบี้ยขาลงใน 2 กองทุนเด่นจาก บลจ.กรุงศรี คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
KSAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน KF-SINCOME และ KFGPROP-A จาก บลจ.กรุงศรี ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Global Bond Fully F/X Hedge Fund และ Best Fund of Property Fund (Foreign) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ชูโอกาสทองของการลงทุนรับทิศทางดอกเบี้ยขาลง

หนึ่งในธีมการลงทุนหลักของปีนี้ คือการเฟ้นหาโอกาสลงทุนในทิศทางดอกเบี้ยขาลงทั่วโลก ดังนั้น จะเห็นว่าการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีอายุกลาง-ยาว และกองทุนรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์-โครงสร้างพื้นฐาน กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง

โดยวันนี้เราจะพามารู้จักกับ 2 กองทุนของ บลจ.กรุงศรี ที่สร้างความโดดเด่นจากการลงทุนในตราสารหนี้โลกอย่าง KF-SINCOME และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์-โครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกอย่าง KFGPROP-A

รู้จักกองทุน KF-SINCOME

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัม หรือ KF-SINCOME มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund (Class I-Acc) ซึ่งมีการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก

Finnomena 3D Diagram KF-SINCOME

Finnomena 3D Diagram KF-SINCOME

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 5 – เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee)  0.8560% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.0578% ต่อปี
  • ข้อมูลจากสรุปสาระสำคัญของกองทุน ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KF-SINCOME

1. ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่ได้รับ Morningstar 5 ดาว* พิสูจน์ด้วยประวัติผลการดำเนินงานที่โดดเด่นตลอดช่วงที่ภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลง จากกลยุทธ์การปรับพอร์ตเชิงรุกอย่างยืดหยุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและอัตราดอกเบี้ย

2. มุ่งเน้นรายได้ที่สม่ำเสมอจากการลงทุน โดยมีแหล่งรายได้หลากหลายจากการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลก ผสมผสานระหว่างตราสารคุณภาพสูงกับตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้เอกชน Investment Grade และ High yield รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอสังหาค้ำประกัน (MBS) /สินทรัพย์ค้ำประกัน (ABS) 

ที่มา: PIMCO ณ 30 พ.ย. 2024 | *การจัดอันดับจาก Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด

3. เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มการกระจายการลงทุนให้กับพอร์ตตราสารหนี้ และผู้ที่มองหาศักยภาพในการเพิ่มระดับผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนโดยรวม

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KF-SINCOME โดย บลจ.กรุงศรี ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Global Bond Fully F/X Hedge Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน KFGPROP-A

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ ชนิดสะสมมูลค่า หรือ KFGPROP-A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง REITs ผ่านกองทุนหลัก Janus Henderson-Global Real Estate Equity Income Fund, Class I1q USD

Finnomena 3D Diagram KFGPROP-A

Finnomena 3D Diagram KFGPROP-A

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 5 – เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee)  0.8560% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.0578% ต่อปี
  • ข้อมูลจากสรุปสาระสำคัญของกองทุน ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KFGPROP-A

1. ลงทุนผ่าน Janus Henderson – Global Real Estate Equity Income ซึ่งมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดี อยู่ในระดับ Percentile Rank ต้น ๆ โดยตลอด พร้อมได้รับ Morningstar 5 ดาว*

2. มีกลยุทธ์ปรับพอร์ตที่รวดเร็ว เช่น การเพิ่มน้ำหนักกลุ่ม Office จาก 6% เมื่อสิ้นปี 2023 ขึ้นมาเป็น 11% (ในเดือนกันยายน 2024) หลังเห็นสัญญาณ Bottom out ในกลุ่ม Office

3. Universe การลงทุนกว้าง โดยลงทุนใน New economy เช่น Cell Tower, Data Center, Life Science และ Healthcare Housing รวมทั้งไม่ยึดติดเฉพาะกลุ่ม Big Cap เท่านั้น แต่มีการลงทุนในภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ด้วย

ที่มา: Janus Henderson ณ 31 ธ.ค. 67 | *การจัดอันดับจาก Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KFGPROP-A โดย บลจ.กรุงศรี ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Fund of Property Fund (Foreign) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุน KFGPROP-A ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน และกองทุนป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

โอกาสทองหุ้นอินเดีย พร้อมขุดศักยภาพลงทุนหุ้นไทย จาก TISCOAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
TISCOAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน TISCOINA-A และ TISCOHD-A จาก บลจ. ทิสโก้ ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Best India Equity Fund และ Best Thai Equity General Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena คัดสรรหุ้นชั้นนำโดยทีมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ปรับกลยุทธ์ให้ทันทุกโอกาสการลงทุน

ประเทศในกลุ่ม Emerging Markets โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย มีปัจจัยหนุนที่น่าสนใจหลายด้านที่ส่งเสริมการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยเฉพาะตัวของแต่ละประเทศ รวมถึงปัจจัยร่วมอย่างเรื่อง China+1 Strategy ซึ่งทำให้ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียได้รับประโยชน์ร่วมกันจากการย้านฐานการผลิต

เราเลยจะพาไปเจาะลึกกับ 2 กองทุนที่น่าสนใจของ บลจ. ทิสโก้ ได้แก่ TISCOINA-A ที่มีการลงทุนในหุ้นประเทศอินเดีย และ TISCOHD-A ที่มีการลงทุนในหุ้นประเทศไทย ซึ่งทั้งสองมีกลยุทธ์การบริหารแบบ Active Management โดดเด่นด้วยการคัดเลือกหุ้นคุณภาพ

รู้จักกองทุน TISCOINA-A

กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย แอคทีฟ อิควิตี้ ชนิดสะสมผลตอบแทน หรือ TISCOINA-A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศอินเดีย บริษัทที่ดําเนินธุรกิจในประเทศอินเดีย หรือมีรายได้หลักจากการประกอบกิจการในประเทศอินเดีย ซึ่งมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram TISCOINA-A

Finnomena 3D Diagram TISCOINA-A

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ปัจจุบันไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.2300% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน TISCOINA-A

1. คัดสรรหุ้นอินเดียชั้นนำโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ พร้อมปรับกลยุทธ์ให้ทันทุกโอกาสการลงทุน ครอบคลุมทั้งหุ้นเล็ก กลาง ใหญ่ โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

2. ลงทุนในประเทศอินเดียที่มีแนวโน้มการเติบทางเศรษฐกิจของอินเดียสูงกว่ากลุ่มประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เนื่องจากภาครัฐที่ใช้งบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน TISCOINA-A  โดย บลจ. ทิสโก้ ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best India Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน TISCOHD-A

กองทุนเปิด ทิสโก้ ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป หรือ TISCOHD-A มีนโยบายการลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET High Dividend 30 Total Return Index

Finnomena 3D Diagram TISCOHD-A

Finnomena 3D Diagram TISCOHD-A

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป ไม่กำหนด
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.9500% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 16/01/2025

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน TISCOHD-A

1. ลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลดี เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทย และลดความผันผวน

2. เป็นกองทุนหุ้นไทยที่มีประวัติผลการดำเนินงานย้อนหลังยอดเยี่ยม และทีมผู้บริหารได้รับรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม (Best Asset Manager) จาก Morningstar Awards 2024*

(*ที่มา: tiscoasset as of Mar 2024)

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน TISCOHD-A โดย บลจ. ทิสโก้ ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Thai Equity General Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินต้นคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Finnomena ชี้โอกาสปรับกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย เมื่อการถือยาวไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป

Finnomena

Finnomena ชี้โอกาสปรับกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย เมื่อการถือยาวไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป

Definit ในเครือ Finnomena จัดสัมมนาออนไลน์ “ปรับกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย เมื่อการถือยาวไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป” ด้วยกลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทยสไตล์ Definit SET Select ครอบคลุมปัจจัยทั้งพื้นฐาน มูลค่า และ สัญญาณเทคนิค พร้อมเปิดตัวบริการ Stock Health Check ตรวจสุขภาพการลงทุนฟรี

นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Finnomena กล่าวในงานสัมมนาออนไลน์ “ปรับกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย เมื่อการถือยาวไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนอยู่ในภาวะท้อแท้ สิ้นหวัง ราคาหุ้นปรับตัวลดลง มีข่าวผู้บริหารถูกบังคับขายหุ้น อย่างไรก็ตาม หากดูเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ พบว่ามีบางส่วนมีแนวโน้มดีขึ้น อาทิ ภาคการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น และภาคการท่องเที่ยว โดยปีที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกขยายตัวทะลุเป้า 5.4% มูลค่าทะลุ 3 แสนดอลลาร์ หรือ 10.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีที่แล้วสูงถึง 35.5 ล้านคน ใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ประเมินว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องในปีนี้ รวมทั้ง valuation หุ้นไทยอยู่ในโซนที่ถูก แต่โอกาสการลงทุนอยู่ที่การคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มเพิ่มประมาณการกำไร โดยไม่พึ่งพิงภาพตลาดโดยรวม   

นายเจษฎา บอกด้วยว่า Definit เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการลงทุน “Definit SET Select” และบริการ Stock Health Check ตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นไทย ด้วย DSS Rating ซึ่งอ้างอิงแนวคิดและกระบวนการคัดเลือกของ Definit SET Select (DSS) ซึ่งพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย

1) Earnings การปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์

2) Valuation มูลค่าความถูกแพงของหุ้นเทียบกับอุตสาหกรรม

3) Technical แนวโน้มของราคาหุ้นในระยะสั้น

ผู้ที่สนใจ รับบริการ Health Check และ Definit SET Select ผ่านผู้แนะนำการลงทุนฟรี คลิกเลย https://finno.me/healthcheck


สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการลงทุน “Definit SET Select” ทำร่วมกับ บล.หยวนต้า ในการให้บริการลงทุนพอร์ตหุ้นแก่นักลงทุน ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นไม่เกิน 20 ตัวจาก Definit โดยจากการเปิดให้บริการแนะนำและจัดพอร์ตหุ้นรายตัวครบรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 หากลงทุนตามคำแนะนำ จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 13% เทียบกับดัชนีผลตอบแทนรวม SET (Total Return Index: SET TRI) ที่บวกแค่ 1% และจากการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) 10 ปี (2013-2022) และผลจากการ Live Test 2 ปี (2023-2024) จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 17.1% ต่อปี 1

1ผลตอบแทนรายปีคิดจากข้อมูล ณ วันทำการแรกของปีนั้นเทียบกับข้อมูล ณ วันทำการแรกของปีถัดไปเนื่องจาก Definit ได้ออกคำแนะนำช่วงต้นเดือน ผลตอบแทนของ SETTRI ในปี 2024 จึงเท่ากับ +1% | หากนับตามปีปฏิทิน SETTRI +2% ในปี 2024

ทั้งนี้ บริการ Definit SET Select เป็นบริการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด (เลขใบอนุญาต 0105565129248) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฟินโนมีนา (“Finnomena”) ดูแลด้านโมเดลและคำแนะนำพอร์ต กับบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลด้านบัญชีหุ้นและการบริหารพอร์ต

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.definitinvestment.com

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | การลงทุนอาจมีการกระจุกตัวสูงทั้งในรายหุ้นและรายอุตสาหกรรม | ผลตอบแทนในอดีตปี 2013-2022 เป็นการ Back test ไม่สามารถเป็นการันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต |

*ผลตอบแทนในปี 2013-2023 คำนวณโดยใช้ราคาปิดวันที่ 1 | Live test เริ่มตั้งแต่ปี 2023 ผลตอบแทนเดือนม.ค. – ก.ค. ปี 2024 คำนวณโดยราคาซื้อใช้ราคาปิดของวันที่ออกบทความ และราคาขายใช้ราคาเปิดของวันที่ออกบทความ ณ เดือนถัดไป เนื่องจากช่วงดังกล่าว Definit ให้คำแนะนำแบบ Subscription | ผลตอบแทนตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย. ปี 2024 คำนวนโดยราคาซื้อใช้ราคาปิดของวันที่ 2 ของเดือน และราคาขายใช้ราคาเปิดของวันที่ 2 ของเดือนถัดไป (หากตรงกับวันหยุดจะใช้วันทำการถัดไป) | ผลตอบแทนตั้งแต่เดือน ต.ค. 2024 จะคำนวณผลตอบแทนตามเดือนนั้นๆ โดยใช้ราคาปิดของสิ้นเดือนนั้น | ผลตอบแทนรวมเงินปันผล | ผลตอบแทนสุทธิ (net return) ของโมเดลพอร์ตหักค่า commission ที่ 0.25%+VAT โดยคิด turnover ที่ 80%, ค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) คิด 0.75% ต่อปีโดยคิดบนสมมติฐานข้อมูลเฉลี่ยระหว่างเงินลงทุนต้นปีและปลายปี, ค่าธรรมเนียมตามกำไร (performance fee) | ผลตอบแทนที่แสดงอาจไม่ตรงกับผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับจริงเนื่องจากผลของค่าธรรมเนียม ราคาซื้อขายหุ้นที่เกิดขึ้นจริง และปัจจัยอื่น ๆ

จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยง ด้วย 4 กองทุนคุณภาพจาก KAsset คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
KAsset คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน K-GLOBE, K-SEMQ, K-PROPI-A(D) และ K-AHY จาก บลจ. กสิกรไทย ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena สะท้อนความเป็นผู้นำของกลยุทธ์การกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อรับมือสภาพตลาดที่ผันผวน

โลกการลงทุนปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความผันผวนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้กลยุทธ์กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ตามหลัก Core & Satellite Portfolio นั้นมีความสำคัญมากทีเดียว เพราะช่วยให้ภาพรวมของพอร์ตลงทุนไม่ผันผวนเกินไป ทั้งนี้ บลจ. กสิกรไทย สร้างความโดดเด่นอย่างมากในการนำเสนอกลยุทธ์ลงทุนดังกล่าว พร้อมพา 4 กองทุนรวมคว้ารางวัลประเภทต่าง ๆ ได้แก่

  1. กองทุนหุ้นทั่วโลก K-GLOBE ได้รับรางวัล Best Global Equity Fund
  2. กองทุนหุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่ K-SEMQ ได้รับรางวัล Best Emerging Market Fund
  3. กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ K-AHY ได้รับรางวัล Best Emerging Market Bond
  4. กองทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์-โครงสร้างพื้นฐาน K-PROPI-A(D) ได้รับรางวัล Best Fund of Property Fund (Thai and Foreign)

รู้จักกองทุน K-GLOBE

กองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ หรือ K-GLOBE มีนโยบายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ผ่านกองทุนหุ้นต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป  โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ACWI Net Total Return USD

Finnomena 3D Diagram K-GLOBE

Finnomena 3D Diagram K-GLOBE

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล จ่ายปีละไม่เกิน 2 ครั้ง
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.8426% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.9704% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน K-GLOBE

1. กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยทีมผู้จัดการกองทุนของ KAsset เน้นการวิเคราะห์จากปัจจัยด้านมหภาค (Top Down) เพื่อจัดสรรเงินลงทุนในหุ้นภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

2. สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ยืดหยุ่นตลอดเวลาเพื่อให้สอดรับกับสภาวะตลาดในแต่ช่วง

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน K-GLOBE โดย บลจ. กสิกรไทย ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Global Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน K-SEMQ

กองทุนเปิดเค ซีเล็คทีฟ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ หุ้นทุน หรือ K-SEMQ มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ผ่านกองทุนหลัก Templeton Emerging Markets Fund, Class I (acc) USD พร้อมด้วยนโยบายการปรับพอร์ตแบบ Active Management เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด MSCI  Emerging Net Total Return USD

Finnomena 3D Diagram K-SEMQ

Finnomena 3D Diagram K-SEMQ

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.2840% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.4137% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน K-SEMQ

1. เปิดโอกาสลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) ทั่วโลก เช่น อินเดีย, จีน, เกาหลีใต้, ไตหวัน, บราซิล เป็นต้น หรือลงทุนในบริษัทที่มีสัดส่วนของรายได้หรือการผลิตที่มาจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่

2. บริหารด้วยกลยุทธ์ Active โดยผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนหลัก Templeton Emerging Market Fund ซึ่งใช้กระบวนการลงทุนแบบวิเคราะห์รายบริษัท (Bottom Up) และเน้นบริษัทที่เติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างควบคู่กับมีรายได้สม่ำเสมอ

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน K-SEMQ โดย บลจ. กสิกรไทย ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Emerging Market Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน K-AHY

กองทุนเปิดเค เอเชีย ไฮยีลด์ บอนด์ หรือ K-AHY มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้กลุ่ม Emerging Market Bond Discretionary F/X Hedge or Unhedge ในกองทุนหลัก ​LO Funds – Asia Diversified High Yield Bond, X1, (USD), IA​​​ จะลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ กลุ่ม Emerging Market ที่ออกตราสารโดยหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

Finnomena 3D Diagram K-AHY

Finnomena 3D Diagram K-AHY

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.8025% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.8767% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน K-AHY

1. มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่ผู้ออกตราสารคือโดยหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงองค์กรที่จัดตั้งหรือดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย บริหารโดย Lombard Odier สถาบันการเงินระดับโลก จากสวิตเซอร์แลนด์

2. ปรับพอร์ตการลงทุนแบบ Active Value Investing เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนรวม (Total Return) ในระยะยาว รวมถึงมีกลยุทธ์ Active Bottom-Up Approach เพื่อหาตราสารหนี้ที่ Fundamental ดี งบการเงินแข็งแกร่ง

3. ตราสารหนี้ที่เข้าลงทุนสร้างรายได้สม่ำเสมอให้กองทุนแม้ว่าตลาดผันผวนบวกกับบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามกำหนด

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน K-AHY โดย บลจ. กสิกรไทย ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Emerging Market Bond จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน K-PROPI-A(D)

กองทุนเปิดเค Property Infra Flexible-A ชนิดจ่ายเงินปันผล หรือ K-PROPI-A(D) มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือกลุ่มกิจการโครงสร้างพื้นฐาน

Finnomena 3D Diagram K-AHY

Finnomena 3D Diagram

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 8 (กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก)
  • นโยบายปันผล จ่ายปีละไม่เกิน 4 ครั้ง
  • ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.0700% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.1971% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน K-PROPI-A(D)

1. กองทุนเน้นกลยุทธ์การลงทุนในทรัพย์สินที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตในระยะยาว รวมถึงหาโอกาสการลงทุนในทรัพย์สินที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และให้ผลตอบแทนที่สูงในจังหวะที่เหมาะสม

2. มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมแสวงหาโอกาสลงทุนใหม่ ๆ ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ไทย หรือสิงคโปร์ แต่มีการลงทุนเช่นในสหรัฐฯ และออสเตรเลีย

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน K-PROPI-A(D) โดย บลจ. กสิกรไทย ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Fund of Property Fund (Thai and Foreign) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ครบจบหุ้นจีน พร้อมตราสารหนี้ High Yield รู้จัก 2 กองทุนเด่นจาก UOBAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
UOBAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน UOBSGC และ UOBSHY จาก บลจ. ยูโอบี ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Greater China Equity Fund และ Best High Yield Bond Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับสากล

บลจ. ยูโอบี ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่สร้างความแตกต่างให้กับอุตสาหกรรมการลงทุนในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนที่เฉพาะเจาะจง และตอบโจทย์การลงทุนในแต่ละสภาวะตลาดได้อย่างเหมาะสม

และนี่คือ 2 ธีมการลงทุนที่สร้างความโดดเด่นอย่างมาก ได้แก่ หุุ้นจีน Greater China ผ่านกองทุน UOBSGC และตราสารหนี้ประเภท High Yield ผ่านกองทุน UOBSHY โดยเราจะพาไปทำความรู้จักกับทั้ง 2 กองทุนว่ามีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

รู้จักกองทุน UOBSGC

กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า หรือกองทุน UOBSGC มีนโยบายการลงทุนในหุ้นจีน Greater China ผ่านกองทุนหลัก United Greater China Fund Class T SGD Acc ซึ่งมีกลยุทธ์บริหารแบบเชิงรุก (Active Management) คัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จีน และไต้หวัน โดยมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี MSCI Golden Dragon

Finnomena 3D Diagram UOBSGC

Finnomena 3D Diagram UOBSGC

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.7879% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน UOBSGC

1. เน้นลงทุนกองทุนหลักที่ลงทุนในตราสารทุนที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน (Greater China) เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าดัชนีชี้วัด

2. กองทุนหลัก United Greater China Fund Class T SGD Acc จัดตั้งและบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของ UOB Asset Management (Singapore) ที่มีประสบการณ์และความชำนาญโดยเฉพาะ

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน UOBSGC โดย บลจ. ยูโอบี ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Greater China Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน UOBSHY

กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ ชนิดรับซื้อคืนแบบปกติ หรือกองทุน UOBSHY มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้กลุ่ม High Yield Bond ผ่านกองทุนหลัก AXA World Funds US High Yield Bonds USD Fund โดยใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก (Active Management)

Finnomena 3D Diagram UOBSHY

Finnomena 3D Diagram UOBSHY

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารหนี้)
  • ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
  • ไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.8025% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.9773% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน UOBSHY

1. เน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือบริษัทเอกชน ในประเทศสหรัฐอเมริกา

2. เน้นลงทุนตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment grade) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ผ่านกองทุนหลัก AXA World Funds US High Yield Bonds USD Fund ที่บริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของ AXA Investment Managers Paris S.A.

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน UOBSHY  โดย บลจ. ยูโอบี ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best High Yield Bond Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | การลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก | กองทุน UOBSGC มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุน UOBSHY มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ตอบโจทย์เป้าหมายระยะสั้นกับตราสารหนี้ต่างประเทศ จาก SCBAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
SCBAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน SCBFST โดย บลจ. ไทยพาณิชย์ ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Global Bond Discretionary F/X Hedged or Unhedged Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ที่เฟ้นผลตอบแทนการลงทุนระยะสั้น สภาพคล่องสูง 

สำหรับใครที่ชื่นชอบการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง โดยมีเป้าหมายเพิ่มพูนโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในช่วงสั้น ๆ กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศระยะสั้น นับเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้ดีเลยทีเดียว  

วันนี้ขอพาทุกคนไปรู้จักกับกองทุน SCBFST ของ บลจ. ไทยพาณิชย์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์บริหารจัดการกองทุนและค่าเงินแบบ Active Management ว่ามีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

รู้จักกองทุน SCBFST

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ หรือ SCBFST มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีอายุระยะสั้น โดยถือครองสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ด้วยกลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก (Active Management)

Finnomena 3D Diagram SCBFST

Finnomena 3D Diagram SCBFST

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 4 (กองทุนรวมตราสารหนี้)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.54%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.54% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.66% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน SCBFST

1. เป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สภาพคล่องสูง ที่มีกลยุทธ์การบริหารการลงทุนค่าเงินแบบ Active และถือครองสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

2. กองทุนได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Global Bond ณ 31 ธันวาคม 2024

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน SCBFST โดย บลจ. ไทยพาณิชย์ ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Global Bond Discretionary F/X Hedged or Unhedged Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ผลงานเด่นสู่เกียรติยศกองทุนหุ้นเวียดนามจาก PRINCIPAL คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
PRINCIPAL คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ PRINCIPAL VNEQ-A โดย บลจ. พรินซิเพิล ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Vietnam Equity Fund Award จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ด้วยผลตอบแทนที่โดดเด่น กลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นเวียดนามศักยภาพสูง โดยทีมบริหารกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ

หากจะพูดถึงประเทศเศรษฐกิจดาวรุ่งแห่งเอเชียที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น ตลาดหุ้นมีศักยภาพที่จะไปต่อได้สูง แน่นอนว่า “เวียดนาม” ต้องเป็นหนึ่งในนั้น และกลายเป็นตลาดหุ้นยอดนิยมของนักลงทุนชาวไทยที่แสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ 

วันนี้เราจะพามารู้จักกับกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A จาก บลจ. พรินซิเพิล ผู้บุกเบิกการลงทุนในเวียดนาม และเปิดประตูให้คนไทยได้ลงทุนหุ้นเวียดนาม มาตั้งแต่ปี 2017 นับเป็นกองทุนแรกของไทย และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นสม่ำเสมอตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

รู้จักกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A

กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า หรือ PRINCIPAL VNEQ-A มีนโยบายการลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพการเติบโตในอนาคต บริหารกองทุนแบบ Active Management โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในประเทศเวียดนาม

Finnomena 3D Diagram PRINCIPAL VNEQ-A

Finnomena 3D Diagram PRINCIPAL VNEQ-A

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6062% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2.3153% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A

1. เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่จนถึงใหญ่มาก มีศักยภาพการเติบโตสูง และมีธรรมาภิบาล

2. กลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ Active Management ลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นเวียดนาม บริหารจัดการโดยทีมบริหารกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญทั้งไทยและเวียดนาม Company Visit ลงสนามพื้นที่จริงทุกไตรมาส เพื่อคัดเลือกธุรกิจและบริษัทที่มีศักยภาพ พื้นฐานดี และมีการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

3. โอกาสเติบโตตามเศรษฐกิจเวียดนาม ที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนจาก 4 เครื่องยนต์หลัก ได้แก่ การลงทุนภาครัฐ-ภาคเอกชน การบริโภค การท่องเที่ยว รวมถึงภาคการส่งออก 

4. เวียดนามมีแผนการเข้ายกระดับตลาดหุ้น Emerging Market จาก Frontier Market ทำให้มีโอกาสเพิ่มฐานนักลงทุนสถาบันทั่วโลก สนับสนุนให้ตลาดหุ้นเวียดนามเติบโต

5. กองทุน PRINCIPAL VNEQ-A สามารถสร้างผลตอบแทนสูงที่สุด 2 ปีต่อเนื่องในปี 2023 และ 2024 ในกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามในประเทศไทย และได้รับ Morningstar Rating ระดับ 5 ดาว (31 ธ.ค 2024)

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A โดย บลจ. พรินซิเพิล ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Vietnam Equity Fund Award จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL VNEQ ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย / บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจได้รับกำไร หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาผลการดำเนินงานของหน่วยลงทุนแต่ละชนิดของกองทุน PRINCIPAL VNEQ ใน https://www.principal.th/th/mutual-fundth ก่อนตัดสินใจลงทุน/Copyright @ 2025 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

สรุปกองทุนหุ้นจีนทั้งหมดในตอนนี้! ใครจะแก้พอร์ต ถัวเพิ่ม หรือเริ่มลงทุน อ่านก่อนเลย

Finnomena Editor
กองทุนจีน

รวมกองทุนหุ้นจีนทุกกองที่มีในตลาด จัดกลุ่มให้เห็นชัด ๆ ตามประเภท ทั้ง A-Shares, H-Shares, All China, Greater China และกองทุนจีนที่มีธีมเฉพาะต่าง ๆ พร้อมสรุปคำแนะนำการลงทุน สำหรับคนที่ติดดอยจีนมานาน และคนที่อยากจะเริ่มต้นลงทุนหุ้นจีน

– กองจีนมีเยอะมาก ถ้าไม่รู้จะเลือกยังไงดี คลิกอ่านตรงนี้ก็พอ! 

กองทุนจีนกลุ่ม A-Shares

A-Shares คือ ดัชนีหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรวมเอาบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีโอกาสการเติบโตจากการบริโภค และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศจีน

  • SCBCHAA (FPICK), SCBCHA, SCBCHA-SSF, SCBRMCHA
  • TMBCHEQ
  • K-CHX
  • ASP-CHINA
  • KFCSI300-A
  • B-CHINAARMF
  • KT-Ashares-A, KT-Ashares-SSF, KT-Ashares RMF
  • T-ES-CHINA A, T-ES-ChinaA-SSF, T-ES-ChinaA-RMF
  • TMB-ES-CHINA-A
  • K-CCTV-A(A)
  • MCHINAGA, MCHINAGD, MCHINASSF
  • TISCOCHA-A, TISCOCHA-SSF, TCHARMF-A
  • ABCA-A
  • SCBASHARES(A), SCBASHARES(SSF), SCBRMASHARES(A)
  • UCI, UCI-SSF

กองทุนกลุ่ม H-Shares

H-Shares คือ ดัชนีหุ้นจีนฮ่องกง ซึ่งรวมเอาบริษัทที่มีฐานธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีมาตรฐานทางบัญชีและความเชื่อมั่นที่สูงกว่า

  • SCBCE, SCBCE(SSF), SCBCEH,
  • KF-CHINA
  • TISCOCH, TCHRMF
  • ASP-HSI

กองทุน All China

All China คือ กองทุนหุ้นจีนที่สามารถลงทุนได้ทั้ง A-Share และ H-Share รวมถึง ADRs ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทจีนที่ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเทคโนโลยี

  • MCHEVO
  • KWI DRAGONGC
  • K-CHINA-A(A), K-CHINA-A(D), K-CHINA-SSF, KCHINARMF (FPICK)
  • SCBMLCAA, SCBMLCA(SSF), SCBRMMLCA (FPICK)
  • ASP-EVOCHINA, ASP-EVOCHINA-SSF, ASP-EVOCHINARMF
  • KT-CHINA-A, KT-CHINA-SSF, KT-CHINA RMF
  • SCBCHINA
  • B-CHINE-EQ, B-CHINESSF (FPICK)
  • ABCG, ABCG-SSF
  • TCHSTARP
  • UCHINA, UCHINARMF, UCHINA-SSF
  • ONE-ALLCHINA-RA, ONE-ALLCHINA-ASSF
  • TMBCOF, TMBCORMF
  • KKP CHINA-H, KKP CHINA-H-SSF
  • PRINCIPAL CHEQ-A
  • SCBCHEQA
  • LHCHINA-A, LHCHINA-D, LHCHINA-ASSF, LHCHINA-DSSF, LHCHINARMF
  • KFACHINA-A, KFACHINSSF, KFACHINRMF
  • KFCMEGA-A, KFCMEGASSF, KFCMEGARMF
  • TCHSTRATEGY

กองทุน Greater China

Greater China คือ กองทุนหุ้นที่กระจายลงทุนในจีนได้ทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวัน

  • UOBSGC (FPICK)
  • GC
  • KF-HCHINAD, KFCHINARMF

กองทุนจีนที่มีธีมเฉพาะ

สาย Brand Value

สาย Technology

  • BCAP-CTECH
  • PRINCIPAL CHTECH-A
  • SCBCTECHA, SCBCTECH-SSF
  • TCHTECH-A, TCHTECHRMF-A. TCHTECH-SSF
  • TMB-ES-STARTECH, TMB-ES-STARTECH-RMF

 สาย Consumer

  • TCHCON

สาย Clean Energy

  • TCHCLEAN
  • P-CGREEN

สาย Mid-Small Cap.

  • DAOL-CHIG
  • ABCNEXT-SSF, ABCNEXT-SSF

 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/

สรุปคำแนะนำการลงทุนหุ้นจีน

  • โมเมนตัมตัวเลขอสังหาริมทรัพย์ เริ่มแผ่วในเดือนมกราคม 2025 แต่อาจเป็นปัจจัยฤดูกาลช่วงตรุษจีน รอดูการเปิดทำการหลังตรุษจีน
  • ความเชื่อผู้บริโภคที่อ่อนแอ จะยังไม่ช่วยไม่ภาคอสังหาฯ ฟื้นตัวได้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่าคาด (ECON surprised Index) เริ่ม tick up
  • การปรับประมาณการกำไรหุ้น A-shares ถูกปรับ แต่ H-shares มี Earnings Momentum ที่ดีกว่า ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 10 ปี
  • เม็ดเงินลงทุนไหลเข้า ETF ต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้

 

ปรับมุมมองเป็น Neutral จาก Slightly underweight แนะนำ Trading ระยะสั้น ตามคำแนะนำ FundTalk ในกองทุน MEGA10CHINA-A


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน |  ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ไม่พลาดทุกข่าวสารในวงการหุ้นกู้ กับรายการ “ชมรมหุ้นกู้” ทุกวันอังคาร เวลา 19.00 น.

Finnomena
ไม่พลาดทุกข่าวสารในวงการหุ้นกู้ กับรายการ "ชมรมหุ้นกู้" ทุกวันอังคาร เวลา 19.00 น.

ชมรมหุ้นกู้ – รายการที่จะพาผู้เชี่ยวชาญมาพูดคุยถึงข่าวในวงการหุ้นกู้ หุ้นกู้ออกใหม่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ พร้อมคลินิกหุ้นกู้ ให้นักลงทุนได้สอบถามความเห็นที่เป็นกลางตามหลักสากล และวิธีลงทุนในหุ้นกู้ได้อย่างถูกต้อง!

ติดตามรายการชมรมหุ้นกู้ได้ทุกวันอังคาร เวลา 19.00 น. ที่ Youtube & Facebook Finnomena

สรุปมาตรการจีนตอบโต้สหรัฐฯ พร้อมกองทุนแนะนำ รับมือ Trade War 2.0

Finnomena Editor
สรุปมาตรการจีนตอบโต้สหรัฐฯ

ในขณะที่สหรัฐฯ ตัดสินใจเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 30 วัน จีนกลับเลือกตอบโต้แบบตรงไปตรงมา ด้วยการประกาศขึ้นภาษี 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เครื่องจักร และพลังงาน สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงคุกรุ่นระหว่างสองมหาอำนาจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสำคัญของสหรัฐฯ

มาตรการตอบโต้ของจีนต่อสหรัฐฯ มีอะไรบ้าง

1. ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 10%

จีนประกาศขึ้นภาษี 10% สำหรับสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากสหรัฐฯ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ มาตรการนี้เป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ และส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจเพื่อตอบโต้การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ

2. เพิ่มภาษีเฉพาะกลุ่มสินค้าสำคัญ

นอกจากภาษีโดยรวมแล้ว จีนยังกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับสินค้าบางประเภท โดยเพิ่มภาษี 15% สำหรับสินค้าเกษตร เครื่องจักร และรถยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์สูง ขณะที่ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และน้ำมันดิบจะถูกเก็บภาษีเพิ่ม 10% มาตรการนี้อาจกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ที่พึ่งพาการส่งออกไปยังจีน

3. เปิดการสอบสวนการผูกขาดของ Google

จีนประกาศการสอบสวนพฤติกรรมการผูกขาดของ Google ภายใต้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การจำกัดหรือกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศจีน มาตรการนี้ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ในด้านเทคโนโลยีและการแข่งขันทางการค้าดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในสมรภูมิหลักระหว่างสองมหาอำนาจ

4. ควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก

จีนประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และอาวุธทางทหาร 

ทั้งนี้สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาแร่ธาตุเหล่านี้จากจีนสูงสุด การจำกัดการส่งออกอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและกลาโหมของสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ

5. ควบคุมการส่งออกวัสดุสำหรับแผงโซลาร์เซลล์

จีนกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกวัสดุที่ใช้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของพลังงานสะอาดทั่วโลก เนื่องจากจีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกวัสดุสำคัญเหล่านี้รายใหญ่ที่สุด การจำกัดการส่งออกอาจกระทบต่อแผนพลังงานทดแทนของสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีน

6. เพิ่มแรงกดดันต่อการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ

มาตรการตอบโต้ของจีนเพิ่มความตึงเครียดในการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งดำเนินมาอย่างยืดเยื้อตั้งแต่ปี 2018 การตอบโต้ด้วยภาษีและมาตรการกีดกันการค้าอาจทำให้การเจรจาในอนาคตซับซ้อนขึ้น และเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก

ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงกดดันตลาดโลก
กองทุนแนะนำ Trade War 2.0 คลิกเลย


อ้างอิง: Reuters

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Finnomena Funds Market Alert: ตลาดหุ้นจีนพุ่ง หลังจีนตอบโต้ขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ กลับ

Finnomena Funds
จีนโต้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีกลับ

วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2025 ดัชนี HSCEI หรือ หุ้นจีน H-Share ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2% หลังจากกระทรวงการคลังของจีนมีแผนที่จะเรียกเก็บภาษี 15% สำหรับถ่านหินและ LNG จากสหรัฐฯ รวมถึง 10% สำหรับน้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร และรถยนต์บางประเภท โดยมาตรการเหล่านี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นไป โดยการตอบโต้ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯได้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% ได้เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ ทั้งนี้โฆษกทำเนียบขาวได้เปิดเผยว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้เลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือน โดยนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และ คลอเดีย ไชน์บาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ได้มีการสนทนาโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 ก่อนที่คำสั่งขึ้นภาษีนั้นจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะเสริมกำลังตามแนวชายแดนที่ติดกับสหรัฐฯ เพื่อควบคุมการนำเข้ายาเฟนทานิลและการเข้ามาของผู้อพยพที่เข้าสู่สหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย การเจรจาข้อตกลงกับทั้งสองประเทศเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25%

Finnomena Funds มองว่าทั้ง 3 ประเทศเป็นประเทศที่เกินดุลการค้าสูงสุดกับสหรัฐฯ โดยทั้งสองประเทศได้มีการเจรจาเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาทรัมป์ได้ใช้กำแพงภาษีเพื่อการเจรจาต่อรอง และข้อตกลงการค้าใหม่ที่ทรัมป์ได้ลงนามในปี 2020 คือ USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) จะถึงกำหนดการทบทวนในเดือนกรกฎาคม 2026 ซึ่งทรัมป์อาจใช้กลยุทธ์การขึ้นภาษีในรอบนี้เพื่อให้เป็นข้อได้เปรียบในการทบทวนรอบใหม่ อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นจีนได้ตอบรับเชิงบวกระยะสั้นจากการตอบโต้การขึ้นภาษีของจีนในครั้งนี้ ทั้งนี้ต้องติดตามการเจรจาของสหรัฐฯและจีนต่อไป

โดยเรามองว่าเป็นโอกาสลงทุนในระยะสั้น ตามคำแนะนำ FundTalk Contrarian แนะนำลงทุนระยะสั้นในกองทุน MEGA10CHINA-A เน้นลงทุนใน 10 หุ้นจีนขนาดใหญ่ H-Share โดยคาดว่าตลาดหุ้นจีนมีโอกาสรีบาวด์หลังปรับฐานไปกว่า ~20% รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงก่อนตรุษจีน

อย่างไรก็ดีในระยะยาวยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มเห็นปริมาณธุรกรรมที่ฟื้นตัวบ้าง แต่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นจีนในอนาคตระยะยาว ขณะที่มูลค่า (Valuation) ตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299