ความต้องการด้าน Semiconductor และ AI ยังคงเพิ่มสู้ต่อเนื่อง ใช้จังหวะที่ตลาดปรับฐานสะสมเพิ่ม 5%
Global semiconductor industry sales for February 2024 jumped 16.3% year-over-year to $46.2 billion, according to data from The Semiconductor Industry Association
“Sell in May and go away” เป็นหนึ่งในแนวคิดการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งหมายถึงการขายหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงเดือนพฤษภาคม แล้วรอจนถึงเดือนตุลาคมก่อนจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง
เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าข้อมูลทางสถิติที่ผ่านมา ตลาดหุ้นมักจะผันผวนและให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหลังเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ซึ่งก็มาจากหลากหลายเหตุผลแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม Sell in May ถือเป็นเพียงแนวคิดการลงทุนแบบหนึ่งเท่านั้น และไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ
Stockholm International Peace Research Institute ประเมินว่าค่าใช้จ่ายทางกรทหารทั่วโลกจะเติบโตราว 4% ต่อปีในทศวรรษนี้ หรือแค่ใกล้เคียงกับ World Nominal GDP
ไม่ว่าจะเป็น เรดาร์ คอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไปจนถึง Internet และ GPS ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันก็มีการพัฒนาขึ้นช่วงสงครามเย็น
สงครามครั้งนี้เทคโนโลยีที่มีบทบาทมากที่สุดมีทั้ง Orbital Aerospace อย่างจรวด และ Suborbital Aerospace อย่าง Drones มีโอกาสนำไปสู่ธีมลงทุนแห่งอนาคตหลายประเภท
ตัวอย่างเช่น Electric Vertical Take-off and Landing หรือ eVTOL จากการพัฒนา Drone ที่บรรทุกนำหนักได้มากขึ้น ระบบนำทางที่แม่นยำ Bank of America มองว่า แค่เปลี่ยนจากขนระเบิดไปเป็นขนสินค้า ขนาดตลาด 4พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน อาจขยายไปได้ถึง 2.4 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2035
หากใครสนใจการลงทุนในพอร์ตที่มีนโยบายแบบ Multi Asset วันนี้ FINNOMENA FUNDS ขอแนะนำ Global Perspective Portfolio by KAsset ช่วยสร้างผลตอบแทนระยะยาวผ่านพอร์ตการลงทุนที่มีการกระจายลงทุนเป็นอย่างดี
Global Perspective Portfolio by KAsset ใช้แนวคิด Core-Satellite portfolio คือ
กองทุนหุ้น Asia ex Japan (ความเสี่ยงระดับ 6) แนะนำ “ทยอยสะสม” พร้อมรับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคที่ฟื้นตัว และมีอัพไซด์จากดอลลาร์ใกล้อ่อนค่า เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียชัดเจนมากขึ้น
กองทุนหุ้น Asia ex Japan (ความเสี่ยงระดับ 6) แนะนำ “ทยอยสะสม” พร้อมรับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคที่ฟื้นตัว และมีอัพไซด์จากดอลลาร์ใกล้อ่อนค่า เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียชัดเจนมากขึ้น