แจ้งเตือน

สไตล์การหารายได้หลังเกษียณของคุณด้วย Retirement Income Style Awareness (RISA) : ตอนที่ 3 Retirement Income Style Solution กลยุทธ์การสร้างรายได้หลังเกษียณ

WealthGuru
สไตล์การหารายได้หลังเกษียณของคุณด้วย Retirement Income Style Awareness (RISA) : ตอนที่ 3 Retirement Income Style Solution กลยุทธ์การสร้างรายได้หลังเกษียณ

จากบทความที่ 1 : สไตล์การหารายได้หลังเกษียณของคุณด้วย Retirement Income Style Awareness (RISA) ตอนที่ 1 : เข้าใจปัจจัยที่กำหนดสไตล์ของแผนเกษียณ

และ บทความที่ 2 : สไตล์การหารายได้หลังเกษียณของคุณด้วย Retirement Income Style Awareness (RISA) : ตอนที่ 2 เจาะลึก 4 กลุ่มรองปัจจัยกำหนดสไตล์เกษียณ

กลยุทธ์มี 4 กลุ่มตาม Style ของผู้เกษียณแต่ละคนดังนี้

กลุ่มที่ 1 : ความน่าจะเป็น (Probability) และ ความยืดหยุ่น (Optionality)

พวกนี้จะชอบเสี่ยงและพร้อมปรับเปลี่ยนแผนได้จะใช้กลยุทธ์แบบ Total Return โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

เน้นการเติบโตของพอร์ตการลงทุน

กลยุทธ์นี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มมูลค่าของพอร์ตการลงทุนของคุณในระยะยาว โดยเชื่อว่าการเติบโตของพอร์ตจะช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายในวัยเกษียณได้อย่างยั่งยืน

ยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

ผู้ที่เลือกแนวทาง Total Return จะต้องยอมรับได้ว่ามูลค่าของเงินลงทุนอาจมีการขึ้นลงตามสภาวะตลาด และพร้อมที่จะรับความเสี่ยงนี้เพื่อโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ยินดีรับรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอ

รายได้จากพอร์ตการลงทุนอาจไม่คงที่ เนื่องจากขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของตลาด ผู้ที่ใช้กลยุทธ์นี้จึงต้องยอมรับว่ารายได้อาจมีช่วงที่ขึ้นลงได้

ต้องการเก็บตัวเลือกไว้

ผู้ที่เลือก Total Return มักต้องการที่จะรักษาความยืดหยุ่น และเก็บทางเลือกต่าง ๆ ไว้ในกรณีที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลง

กลุ่มที่ 2 : ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety-First) และ ความยืดหยุ่น (Optionality)

พวกนี้จะไม่ชอบเสี่ยงปรับเปลี่ยนแผนได้จะใช้กลยุทธ์แบบ Time Segmentation โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

การผสมผสานความปลอดภัยและความยืดหยุ่น

กลยุทธ์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างการเน้นความปลอดภัยของเงินทุน (Safety-First) และการรักษาทางเลือกที่ยืดหยุ่น (Optionality-Oriented)

การแบ่งเงินเป็นส่วน ๆ ตามกรอบเวลา

โดยจะแบ่งเงินออกเป็นส่วน ๆ หรือ “buckets” ตามช่วงเวลาที่ต้องการใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้จ่ายในระยะสั้นถึงปานกลาง

ความสำคัญของการเลือกกรอบเวลา

ผู้ใช้กลยุทธ์นี้สามารถเลือกช่วงเวลาในการแบ่งเงินตามความสบายใจของตนเอง

การเติมเงินเข้า buckets

จะต้องมีการพิจารณาว่าจะเติมเงินเข้า buckets เมื่อใดและอย่างไร

เหมาะกับใคร: กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแน่นอนของเงินหลังเกษียณ แต่ก็ไม่อยากเสียความยืดหยุ่นในการจัดการเงิน

กลุ่มที่ 3 : ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety-First) และ ความมุ่งมั่น (Commitment)

พวกนี้จะไม่ชอบเสี่ยงไม่ชอบปรับเปลี่ยนแผนจะใช้กลยุทธ์ Income Protection โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

เน้นการสร้างรายได้ที่รับประกันตลอดชีพ

กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างแหล่งรายได้ที่แน่นอนและได้รับตามสัญญาตลอดช่วงชีวิต โดยเปรียบเสมือนการซื้อบำนาญส่วนตัว

ให้ความสำคัญกับการปกป้องการใช้จ่าย

Income Protection ช่วยให้ผู้เกษียณมั่นใจได้ว่าจะมีรายได้เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย แม้ในสภาวะที่ตลาดผันผวน

สร้างพื้นฐานรายได้เพื่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างพื้นฐานรายได้ที่มั่นคง เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

เพิ่มความสบายใจในการลงทุน

เมื่อมีรายได้ที่แน่นอนแล้ว ผู้เกษียณจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นในการลงทุนเงินส่วนที่เหลือในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น

เป็นการตัดสินใจที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

การเลือกใช้ Income Protection ถือเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (irrevocable)

เหมาะกับใคร: กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ที่มี ชอบสภาพคล่องทางการเงินที่แท้จริงและต้องการใช้จ่ายในช่วงหลังของวัยเกษียณมากกว่า เพื่อจัดการกับความกลัวที่จะมีเงินไม่พอใช้

กลุ่มที่ 4 : ความน่าจะเป็น (Probability) และ ความมุ่งมั่น (Commitment)

พวกนี้จะชอบเสี่ยงไม่ชอบปรับเปลี่ยนแผนจะใช้กลยุทธ์คือ กลยุทธ์แบบ Risk Wrap โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

ผสมผสานการเติบโตและการรับประกันรายได้

กลยุทธ์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างการพึ่งพาการเติบโตของตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะได้รับทั้งโอกาสในการเติบโตของเงินลงทุนควบคู่ไปกับการมีรายได้ที่มั่นคงตลอดชีพ

ความสบายใจในการใช้กลยุทธ์

ผู้ที่ใช้กลยุทธ์นี้จะรู้สึกสบายใจในการยึดมั่นในกลยุทธ์ที่เลือกไว้ และยอมรับได้กับการพึ่งพาตลาดในระดับหนึ่ง

ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโต

Risk Wrap ให้การรับประกันตามสัญญาเพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน แม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ลดลงก็ตาม

เหมาะกับใคร: Risk Wrap เหมาะกับผู้ที่มี คือต้องการใช้จ่ายในช่วงหลังของวัยเกษียณมากกว่า และยอมรับสภาพคล่องทางการเงินแบบที่ต้องถอนเงินพอร์ตการลงทุนจำนวนมาก

จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การบริหารเงินหลังเกษียณมี 4 แบบตาม Style ของแต่ละคน เมื่อคนไม่เหมือนกัน แผนแต่ละคนก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน

สนใจลงทุน Global Aggressive Hybrid Portfolio สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://port.finnomena.com/plan-select/plans/guruport-hyb

WealthGuru


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort” 

เปิดโผ 10 กองทุนปันผลสูง สร้าง Passive Income เสริมความมั่งคั่งให้พอร์ตระยะยาว

planet 46
เปิดโผ 10 กองทุนปันผลสูง สร้าง Passive Income เสริมความมั่งคั่งให้พอร์ตระยะยาว

“กองทุนปันผล” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักลงทุนหลาย ๆ ท่านชื่นชอบ เพราะนอกจากจะมีโอกาสสร้างกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) แล้ว ยังสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอจากเงินปันผลที่กองทุนจ่ายได้ด้วย

บทความนี้เราจึงรวม 10 กองทุนปันผลสูง สร้าง Passive Income เสริมความมั่งคั่งให้พอร์ตระยะยาว มาฝากทุกคนกัน จะมีกองไหนบ้าง ติดตามไปพร้อมกันได้เลย

เปิดโผ 10 กองทุนปันผลสูง สร้าง Passive Income เสริมความมั่งคั่งให้พอร์ตระยะยาว

1. MATECH-D

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หรือประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 7
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.2410%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท (ครั้งถัดไป 500 บาท)

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 12.74%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 26 พ.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 1.3241 บาท

 

ซื้อกองทุน MATECH-D คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

2. TISCOCID

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือประกอบธุรกิจในประเทศจีนและประเทศอินเดีย
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด (Passive Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.6610%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 12.51%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 26 พ.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.45 บาท

 

ซื้อกองทุน TISCOCID คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

3. KFGPROP-D

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจรวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์หรือบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง REITs
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 7
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.0110%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 11.06%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 19 พ.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.25 บาท

 

ซื้อกองทุน KFGPROP-D คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

4. ONE-FAS

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้น ตราสารแห่งหนี้ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือ เงินฝาก
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด (Passive Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.217125%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 10,000 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 10.99%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 8 พ.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.60 บาท

 

ซื้อกองทุน ONE-FAS คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

5. KFGBRAND-D

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก ซึ่งประสบผลสำเร็จหรือมีชื่อเสียงใน Brand โดยพิจารณาจาก Intangible Assets เช่น การมีเครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักทั่วโลก การเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สินค้า หรือกลวิธีการจัดจำหน่าย เป็นต้น
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 0.8892%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 10.27%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 16 ก.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.30 บาท

 

ซื้อกองทุน KFGBRAND-D คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

6. K-GOLD-A(D)

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ที่เน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งในตลาดโลก
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด (Passive Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 8
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 0.9884%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 9.72%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 14 ม.ค. 68
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.20 บาท

 

ซื้อกองทุน K-GOLD-A(D) คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

7. K-JP-A(D)

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น และอาจลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น (J-REITs)
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.7647%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 9.31%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 16 ม.ค. 68
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.20 บาท

 

ซื้อกองทุน K-JP-A(D) คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

8. SCBDV

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.35%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 1 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 7.63%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 21 พ.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.60 บาท

 

ซื้อกองทุน SCBDV คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

9. K-ASIA

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็ก (Small-cap) ที่ดำเนินธุรกิจหลักในภูมิภาคเอเชีย
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 1.7547%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 7.00%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 14 พ.ย. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.20 บาท

 

ซื้อกองทุน K-ASIA คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

10. K-USXNDQ-A(D)

  • นโยบายกองทุน: ลงทุนให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นสหรัฐฯ NASDAQ-100 ที่ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 100 หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ
  • กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด (Passive Management)
  • ระดับความเสี่ยง: 6
  • ค่าธรรมเนียมรวมกองทุน: 0.6974%
  • เงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป: 500 บาท

ข้อมูลการปันผล

  • อัตราเงินปันผลในรอบ 1 ปี: 6.63%
  • วันที่จ่ายปันผลล่าสุด: 13 ธ.ค. 67
  • จำนวนเงินปันผลล่าสุด: 0.40 บาท

 

ซื้อกองทุน K-USXNDQ-A(D) คลิก
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่นี่

ข้อมูลอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ วันที่ 3 ก.พ. 2568

อัปเดตตัวเลขผลตอบแทน ณ วันที่ 24 ม.ค. 2568: MATECH-D

อัปเดตตัวเลขผลตอบแทน ณ วันที่ 29 ม.ค. 2568: K-JP-A(D)

อัปเดตตัวเลขผลตอบแทน ณ วันที่ 30 ม.ค. 2568: TISCOCID, KFGPROP-D, KFGBRAND-A, K-GOLD-A(D), K-ASIA, K-USXNDQ-A(D)

อัปเดตตัวเลขผลตอบแทน ณ วันที่ 31 ม.ค. 2568: ONE-FAS

ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังจาก Finnomena Funds สามารถอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ที่ www.finnomena.com/fund

Finnomena Funds ให้คุณได้ลงทุนในกองทุนรวมชั้นนำของประเทศไทยจากหลากหลาย บลจ.
ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะลงกองเดี่ยว จัดพอร์ต วางแผนลงทุน หรือลดหย่อนภาษี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://finno.me/get-started-ws


คำเตือน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน  จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

วิเคราะห์หุ้นของกินทุกชนิดด้วยยีน

Dr.Niwes Hemvachiravarakorn
วิเคราะห์หุ้นของกินทุกชนิดด้วยยีน
เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 68 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้น 20 จุด และถือว่าเป็นการดีดตัวขึ้นแรงหลังจากที่ตกลงมาตั้งแต่ต้นปีถึงเกือบ 10% และเป็นตลาดหุ้นที่ “เลวร้ายที่สุดในโลก” อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น หุ้น “ขนาดกลาง” ขนาด Market Cap. ระดับประมาณ 10,000 ล้านบาทตัวหนึ่งซึ่งอยู่ในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเกิดอาการ “Corner แตก” คือราคาหุ้นตกลงมาถึงฟลอร์ 30% มูลค่าหายไปประมาณ 3,000 ล้านบาท หุ้นมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกว่า 100 ล้านหุ้น คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 17% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

Finnomena Monthly Investment Outlook กลยุทธ์การลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2025: หุ้นไทย-สหรัฐสั่นไหว สะท้อนอะไรกับตลาดโลก

Finnomena Funds
monthly feb finnomena

Executive Summary 

– ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังขยายตัวต่อไปได้ นำโดยสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ยุโรปและจีนอาจเจอแรงกดดันเรื่องสงครามการค้า และปัญหาภายใน เช่น อสังหาริมทรัพย์ ความมั่นใจของผู้บริโภค และความมั่นใจของนักลงทุน เงินเฟ้อทั่วโลกยังอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยเฉพาะในส่วนของประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายยังเป็นขาลง โดยยุโรปอาจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้แรง และเร็วกว่าสหรัฐฯ

– เราปรับมุมมองหุ้นสหรัฐฯ จากเป็นกลาง (Neutral) ขึ้นสู่เชิงบวกเล็กน้อย (Slightly Positive) จากภาพรวมเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งกว่าคาด โดยเฉพาะภาคแรงงานและภาคการบริโภค ในขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลงในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า จึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2025 อีก 2 รอบ ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มประกาศออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี Valuation ของตลาดหุ้นสหรัฐฯยังอยู่ในระดับตึงตัว เราจึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นไปที่หุ้นเล็ก หุ้นคุณภาพ หรืออุตสาหกรรมที่ยัง Laggard อย่างกองทุน ASP-USSMALL-A AFMOAT-HA 

เรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อย (Slightly Positive) ต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยแนะนำทยอยสะสมกองทุน B-INNOTECH และ TISCOAI การมาของ DeepSeek อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการใช้งาน AI และทำให้การใช้งานขยายตัวมากขึ้น แต่หุ้นกลุ่ม AI ต้นน้ำอย่าง Semiconductor อาจเผชิญแรงกดดัน เนื่องจาก DeepSeek ไม่ต้องใช้ GPU ระดับสูง และแนวโน้มที่ชะลอตัวของกลุ่มนี้ ด้านกลุ่ม AI Platform และเจ้าของ Large Language Model (LLM) สามารถต่อยอดพัฒนาโมเดลใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจ cloud และ AI เติบโต ขณะที่กลุ่ม AI Apps และผู้ใช้งาน LLM จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ถูกลง และอาจพัฒนาโมเดลของตัวเองได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจาก AI

เรายังคงมุมมองเชิงลบเล็กน้อย (Slightly Negative) ต่อหุ้นยุโรปโดยแนะนำทยอยลดสัดส่วน จากการที่เศรษฐกิจภายในยังอ่อนแอ โดยเฉพาะประเทศหลักอย่าง เยอรมันและฝรั่งเศส จึงอาจทำให้เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวช้าโดยเฉพาะภาคการผลิต ในขณะที่ผลประกอบการของบริษัทมีทิศทางทรงตัว สวนทางการดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ Valuation ของตลาดหุ้นปรับขึ้นมาอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี

เรายังคงมุมมองเชิงลบเล็กน้อย (Slightly Negative) ต่อหุ้นญี่ปุ่นแนะนำทยอยลดสัดส่วน จากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีโอกาสใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นในอนาคตจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีโอกาสแคบลงอาจทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นญุี่ปุ่น

เราปรับมุมมองหุ้นจีนจากเชิงลบเล็กน้อย (Slightly Negative) ขึ้นสู่ระดับเป็นกลาง (Neutral) โดยแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นผ่านกองทุน MEGA10CHINA-A แม้ภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะราคาบ้านยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน แต่ปริมาณการทำธุรกรรมอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้นภายช่วง Golden week นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่คาดหลังรายงาน GDP 4Q24 สูงกว่าคาด ด้านการปรับประมาณการกำไรตลาดหุ้นจีน H-shares มีทิศทางที่แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นจีน A-shares ขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับถูก นอกจากนี้ยังมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า ETF หุ้นจีนต่อเนื่อง 

– เราปรับคำแนะนำหุ้นอินเดียจากเชิงบวกเล็กน้อย (Slightly positive) ลงสู่ระดับเป็นกลาง (Neutral) โดยแนะนำถือหรือสัดส่วนกองทุน TISCOINA-A และ B-BHARATA หลังทิศทางเศรษฐกิจเริ่มสะดุดในช่วงสั้นๆ จากภาคการบริโภคและการเบิกจ่ายภาครัฐฯ ที่ชะลอลง แต่แนวโน้มระยะยาวเศรษฐกิจอินเดียยังมีศักยภาพเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค ขณะที่การปรับประมาณการกำไรของตลาดหุ้นถูกปรับลงเนื่องจากกลุ่มธนาคารปล่อยสินเชื่อชะลอลงเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน อย่างไรก็ดี Valuation  ของตลาดหุ้นอินเดียเริ่มน่าสนใจมากขึ้น หลัง Valuation กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี 

คงมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อหุ้นเกาหลี โดยแนะนำถือกองทุน SCBKEQTG และ DAOL-KOREAEQ โดยความกังวลจากการเมืองในประเทศที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่ภาคการส่งออกขยายตัวแต่ชะลอเพื่อเข้าสู๋ระดับปกติมากขึ้น นอกจากนี้มีรายงานระบุว่า Samsung ได้รับการอนุมัติจาก Nvidia ให้จัดหาชิป HBM3E แล้ว ในอนาคตผู้ผลิต memory chip จะได้อานิสงส์จากการประมวลผล Large Language Model (โมเดลภาษาขนาดใหญ่) ที่อาจมี memory requirement ที่เพิ่มสูงขึ้นไปอีก

คงมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้นไทย แนะนำกลยุทธ์แบบ Selective โดยเครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญอย่างภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเน้นการฟื้นฟูภาคการบริโภค ท่าทีนโยบายการเงินยังเป็นกลาง และเน้นย้ำเรื่อง policy space เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต ด้านประมาณการกำไรตลาดหุ้นถูกปรับลงต่อเนื่อง ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับถูกมาก Fund flow ยังไหลออกต่อเนื่องตามทิศทางหุ้น EM แต่เริ่มมีสัญญาณจาก market breadth บ่งชี้ถึงการรีบาวด์ระยะสั้น

คงมุมมองเชิงบวกเล็กน้อย (Slightly Positive) ต่อหุ้นเวียดนาม โดยแนะนำทยอยสะสม ผ่านกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A และ KKP VGF-UI* รัฐบาลมีเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวที่ชัดเจน รวมถึงมีแผนดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะสั้นทั้งการบริโภค การผลิต และการส่งออกมีโมเมนตัมที่ดีขึ้นต่อเนื่อง แต่เวียดนามยังมีความท้าทายเรื่องมาตรการกัดกันทางการค้า นอกจากนี้รัฐบาลยังเน้นย้ำเป้าหมายการ upgrade ตลาดหุ้นเป็น Emerging Market ภายในปี 2025  ประมาณการกำไรของตลาดหุ้นยังทรงตัว ขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับถูก Fund flow ของตลาดหุ้นเริ่มกลับมาในช่วงสั้นๆ หลังจากไหลต่อเนื่องตามตลาดหุ้น EM

 *ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย กองทุนรวมที่เสนอขายผู้ลงทุนสถานบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน


ดาวน์โหลดฟรี! 

“สไลด์มุมมองการลงทุนประจำปี 2025”

ดู Fund Fact Sheet กองทุนแนะนำ

 

จัดทำโดยบลป.เดฟินิท (Definit) สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่าง ๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน


คำเตือนผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

หุ้น CPALL วัดใจดีลใหญ่ ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งอันดับ 1 ของไทย

Starlit
วิเคราะห์ CPALL

Stock Health Check หุ้น CPALL เจ้าของธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของไทย วิเคราะห์ Earnings-Valuation-Technical แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ

CPALL: บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือที่เรารู้จักกันดีในนามเจ้าของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 14,000 สาขา มากที่สุดในอาเซียน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา CPALL ได้ขยายธุรกิจผ่านการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ เช่น

Makro

  • ปีที่ซื้อ: 2013
  • มูลค่าดีล: 188,880 ล้านบาท
  • ใช้เงินกู้และออกหุ้นกู้เพื่อซื้อหุ้น 64.35% ของ MAKRO

Lotus’s

  • ปีที่ซื้อ: 2020
  • มูลค่าดีล: 338,445 ล้านบาท
  • โครงสร้างการถือหุ้น: CPALL 40%, CP Group 40%, CPF 20%

 

วิเคราะห์ CPALL

ดีลใหม่ที่อาจเกิดขึ้น?

มีรายงานว่า ตระกูลผู้ก่อตั้ง Seven & i Holdings ของญี่ปุ่น ได้ทาบทามเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ให้ร่วมลงทุนในการซื้อหุ้นคืน (Management Buyout – MBO) ของบริษัท Seven & i Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ 7-Eleven ในญี่ปุ่น

อย่างไรก็ดี ล่าสุด (7/02/2025) CPALL แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าบริษัท ได้เข้าทาบทามธนาคารของประเทศสหรัฐฯ 2 แห่ง ให้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินในการเข้าร่วมลงทุนใน Seven & i Holdings ที่ถือครองแบรนด์ 7-Eleven ทั่วโลก

โดยบริษัทยืนยันว่า ณ ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยแจ้งไว้ หากบริษัทมีการดำเนินการใด ๆ จะทำการชี้แจงต่อสาธารณะผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

ภาระหนี้สินที่ต้องจับตา

รายงานจาก TRIS Rating เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2024 ได้จัดอันดับเครดิตของ CPALL ที่ AA- เนื่องจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น กำไรที่ปรับตัวดีขึ้น และอัตราส่วนหนี้สินที่ลดลง

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ TRIS เคยแสดงความกังวลว่าการเข้าซื้อโครงการ “The Happitat” ของ CP Axtra (CPAXT) อาจกระทบต่อโครงสร้างทางการเงินของทั้ง CPAXT และ CPALL

เพราะฉะนั้นหาก CPALL ต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อร่วมดีล Seven & i Holdings อาจทำให้ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

แต่ในทางกลับกัน แม้การลงทุนนี้อาจทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้น แต่ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและโอกาสในการขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล CPALL มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

แนวโน้ม D/E Ratio 10 ปี ย้อนหลังของ CPALL

วิเคราะห์ CPALL

จุดเริ่มต้นของ New S-Curve?

แม้จะเผชิญกับความท้าทาย เช่น ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและความจำเป็นในการบริหารจัดการกิจการใหม่ แต่ด้วยความเชี่ยวชาญที่ CPALL มี เชื่อว่าจะมีการผสานธุรกิจใหม่เข้ากับโครงสร้างเดิมอย่างมีประสิทธิภาพ

หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ CPALL อาจเข้าสู่ New S-Curve ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยอาศัยความแข็งแกร่งของเครือข่ายค้าปลีก และสามารถนำธุรกิจก้าวไปสู่ในระดับสากล

แนวโน้มผลประกอบการ CPALL

บทวิเคราะห์ บล. หยวนต้า ระบุว่า คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2024 ของ CPALL จะอยู่ที่ระดับ 6.6 พันล้านบาท เติบโต 7% และเติบโต 15%YoY จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของการบริโภคและหนุนด้วย SSSG ที่เติบโตในทุกธุรกิจ 

ส่วนแนวโน้มงวดไตรมาส 1/2025 คาดกำไรปกติชะลอตัวลง QoQ แต่ยังเติบโต YoY ได้ต่อเนื่อง เพราะมีแรงหนุนจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับจำนวนการขยายสาขาใหม่ และ GPM ที่ดีขึ้น โดยได้รับอานิสงส์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แจกเงินหมื่นเฟส 2 และ Easy E-Receipt เป็นต้น

Stock Health Check: CPALL

วิเคราะห์ CPALL

1. Earnings อยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากการถูกปรับเพิ่มขึ้นของประมาณการกำไร (Earnings) จากนักวิเคราะห์ โดย Earning Growth ในรอบ 12 เดือนย้อนหลังอยู่ที่ 44.7%

2. Valuation แพงกว่าอุตสาหกรรม Forward P/E 12 เดือนของ CPALL อยู่ที่ 16.3 เท่า ถือว่าไม่ได้ถูกเมื่อเทียบกับกลุ่ม Peer Group Average 

3. Technical โมเมนตัมราคาปรับตัวลงมา ณ ​วันที่ 5 กุมภาพันธ์ อยู่ที่ 50 บาทต่อหุ้น 

สรุป DSS Rating ของ CPALL อยู่ระดับ Moderate โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง

Disclaimer: เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด สำหรับที่ผู้แนะนำการลงทุนของ Finnomena เท่านั้น DSS Rating ไม่ใช่คำแนะนำซื้อขาย และอาจจะสัมพันธ์กับการคัดเลือกหุ้นเข้ามาในพอร์ตของ Definit SET Select (DSS) แต่ไม่ใช่การการันตี  ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ จัดทำโดยอาศัยข้อมูลที่จัดหามาจากแหล่งที่เชื่อหรือควรเชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือและ/หรือถูกต้อง อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ยืนยัน และไม่รับรองถึงความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว และไม่ได้ประกันราคา,ผลตอบแทนของหน่วยลงทุนหรือโอกาสผิดนัดชำระหนี้ที่ปรากฏข้างต้น แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏข้อความที่อาจเป็น หรืออาจตีความว่าเป็นเช่นนั้นได้ บริษัทจึงไม่รับผิดชอบต่อการนาเอาข้อมูล ข้อความ ความเห็น และหรือบทสรุปที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ บริษัทรวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้อง ลูกค้า ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทต่าง ๆ อาจจะทำการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ได้ทุกเวลา ข้อมูล และความเห็นที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ มิได้ประสงค์จะชี้ชวน เสนอแนะ หรือจูงใจให้ตัดสินใจลงทุน หรือซื้อ หรือขายหน่วยลงทุนที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และข้อมูลอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้ลงทุนควรใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ บริษัทสงวนลิขสิทธิ์ในข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ ทำซ้า ดัดแปลง นำออกแสดง ทำให้ปรากฏหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อมูลในเอกสารนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากบริษัท เป็นการล่วงหน้า การกล่าวคัด หรืออ้างอิงข้อมูลบางส่วนตามสมควรในเอกสารนี้ ไม่ว่าในบทความ บทวิเคราะห์ บทวิจัย หรือในเอกสาร หรือการสื่อสารอื่นใดจะต้องกระทำโดยถูกต้อง และไม่เป็นการก่อให้เกิดการเข้าใจผิดหรือความเสียหายแก่บริษัท ต้องรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในข้อมูลของบริษัท และต้องอ้างอิงถึงฉบับที่และวันที่ในเอกสารฉบับนี้ของบริษัทโดยชัดแจ้งการตัดสินใจลงทุน หรือซื้อ หรือขายหน่วยลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ท่านควรทาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อลักษณะของหน่วยลงทุนแต่ละประเภท และควรศึกษาข้อมูลของบริษัทที่ออกหน่วยลงทุนและข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อหรือขายหน่วยลงทุน

สนใจรับบริการ Stock Health Check ตรวจสุขภาพการลงทุนในหุ้นของคุณ
สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคำแนะนำจากผู้แนะนำการลงทุนส่วนตัว คลิกเลย


Definit Set Select

 Definit SET Select พลิกกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว พิจารณา 3 ปัจจัย

 Earnings หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น
Valuation หุ้นที่มูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม
Technical หุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกของราคาในระยะสั้น

‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍‍‍‍‍ ‍‍สนใจรับบริการ คลิกเลย www.definitinvestment.com/contact-form


ที่มา: kaohooninternational, settrade.com, set.or.th

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้

ปรับพอร์ต Dynamic Contrarian Model Portfolio: โอกาสลงทุนหุ้นจีนจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี

Jet - The Contrarian Investor
DCM Dynamic Contrarian Portfolio

Dynamic Contrarian Model Portfolio พอร์ตการลงทุนสายสวน ย่อซื้อ ขึ้นขาย แนะนำเพิ่มสัดส่วน MEGA10CHINA-A หลังเทคโนโลยีจีนเริ่มน่าสนใจ

มุมมองการลงทุน FundTalk The Contrarian Style Investment

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กองทุนที่ชื่อว่า High-Flyer ได้เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 ซึ่งเป็นโมเดลที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ LLM ในท้องตลาด แต่มีต้นทุนการเทรนโมเดลที่ต่ำกว่ามาก และในช่วงเวลาถัดมา Alibaba ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน ได้เปิดตัวโมเดล Qwen2.5-Max ซึ่งเป็น LLM ที่ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้น และมีประสิทธิภาพที่สูง นอกจากนี้ Alibaba ยังเริ่มนำโมเดล DeepSeek ขึ้นไปอยู่บน Alibaba Cloud เพื่อใช้ผู้ใช้งานสามารถใช้งาน DeepSeek ได้

ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนไปยังภาพความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัทจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ จะมาจากฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ FundTalk มีมุมมองว่าหุ้นเทคโนโลยีจีนในตอนนี้ เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น จากแนวโน้มความก้าวหน้าที่ได้กล่าวไปข้างต้น

Hang Seng Tech Index

Hang Seng Tech Index
Source: Finnomena Funds, TradingView as of 07/02/2025

ภาพดังกล่าวเริ่มสะท้อนไปยังราคาของดัชนี Hang Seng Tech ซึ่งเป็นดัชนีภาพรวมหุ้นเทคโนโลยีของจีน ซึ่งเริ่มปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากปัจจัยด้านความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และแรงหนุนเสริมจากการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ยอดการใช้จ่ายพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

valuation Hang Seng Tech

ประมาณการการเติบโตกำไรและ valuation ของดัชนี Hang Seng Tech
Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 07/02/2025

นอกจากนี้ valuation ของดัชนี Hang Seng Tech ยังอยู่ในระดับที่ถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต จากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา FundTalk มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีน และมีคำแนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุน MEGA10CHINA-A ซึ่งลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่ 10 ตัว


สรุปคำแนะนำปรับพอร์ต Dynamic Contrarian Model Portfolio วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025

DCM Dynamic Contrarian Portfolio

Dynamic Contrarian Model Portfolio

FundTalk มีคำแนะนำปรับสัดส่วนใน Dynamic Contrarian Model Portfolio โดยมีสัดส่วนใหม่ ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 ดังนี้

  • หุ้น AI ปลายน้ำ 10% TCLOUD
  • หุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก 15% ASP-USSMALL-A
  • หุ้นเวียดนาม 15% PRINCIPAL VNEQ-A
  • หุ้นเทคโนโลยี 10% SCBNEXT(A)
  • หุ้นอินเดีย 10% TISCOINA-A
  • หุ้นจีนขนาดใหญ่ 20% MEGA10CHINA-A
  • หุ้น AI และ Big Data 20% TISCOAI

Dynamic Contrarian Model Portfolio คืออะไร?

DCM (Dynamic Contrarian Model Portfolio) เป็นพอร์ตลงทุนสไตล์ Contrarian (สายสวน) ‘ย่อซื้อ ขึ้นขาย’ เน้นลงทุนในหุ้นรายประเทศ หรือ Sector ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ราคาปรับตัวลดลง หรือขึ้นน้อย รวมถึงใช้หลักการเดียวกันในการเข้าลงทุนสินทรัพย์ Multi Assets

Dynamic Contrarian Model Portfolio DCM

– ทำความรู้จักพอร์ต Dynamic Contrarian Model Portfolio เพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/finnomenafunds/dcm/

สนใจลงทุนในพอร์ต Dynamic Contrarian Model Portfolio
คลิก https://finnomena.onelink.me/10bl/dcm

จัดทำโดยบลป.เดฟินิท (Definit) สำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
สามารถเข้าถึงรายละเอียดกองทุนต่าง ๆ และ Fund Fact Sheet ได้จาก Link บนชื่อกองทุน


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

หนีตลาดผันผวน ชวนเซฟความมั่งคั่งด้วย “พันธบัตรรัฐบาล” ที่มั่นคง จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 2.89%

Finnomena
หนีตลาดผันผวน ชวนเซฟความมั่งคั่งด้วย “พันธบัตรรัฐบาล” ที่มั่นคง จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 2.89%

ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินในปัจจุบัน การมองหาแหล่งลงทุนที่มั่นคงและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจคือ “พันธบัตรรัฐบาล” ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

1. LB496A

  • ผู้ออกพันธบัตร: กระทรวงการคลัง
  • ชื่อพันธบัตร: พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ในปีงบประมาณ พ.. 2568 ครั้งที่ 8
  • อายุคงเหลือ: 24.36 ปี
  • อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว: 1.88%
  • ราคาต่อหน่วย: 862.81 บาท*
  • อัตราผลตอบแทน (Yield to Maturity): 2.66% ต่อปี*
  • เสนอขาย: นักลงทุนทั่วไป (PO)

2. LB436A

  • ผู้ออกพันธบัตร: กระทรวงการคลัง
  • ชื่อพันธบัตร: พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ครั้งที่ 6
  • อายุคงเหลือ: 18.36 ปี
  • อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว: 3.45%
  • ราคาต่อหน่วย: 1,144.34 บาท*
  • อัตราผลตอบแทน (Yield to Maturity): 2.50% ต่อปี*
  • เสนอขาย: นักลงทุนทั่วไป (PO)

3. LB726A

  • ผู้ออกพันธบัตร: กระทรวงการคลัง
  • ชื่อพันธบัตร: พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 2
  • อายุคงเหลือ: 47.38 ปี
  • อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว: 4.00%
  • ราคาต่อหน่วย: 1,291.41 บาท*
  • อัตราผลตอบแทน (Yield to Maturity): 2.89% ต่อปี*
  • เสนอขาย: นักลงทุนทั่วไป (PO)

 

หนีตลาดผันผวน ชวนเซฟความมั่งคั่งด้วย “พันธบัตรรัฐบาล” ที่มั่นคง จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 2.89%

📌 สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถติดต่อที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่านได้แล้ววันนี้ หรือหากยังไม่เคยเปิดบัญชีหุ้นกู้ผ่าน Definit สามารถกรอกแบบฟอร์มรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ที่ https://www.finnomena.com/bond/


ชมรมหุ้นกู้รายการที่จะพาผู้เชี่ยวชาญมาพูดคุยถึงข่าวในวงการหุ้นกู้ หุ้นกู้ออกใหม่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ พร้อมคลีนิกหุ้นกู้ ให้นักลงทุนได้สอบถามความเห็นที่เป็นกลางตามหลักสากล และวิธีลงทุนในหุ้นกู้ได้อย่างถูกต้อง!

🔔 พบกันทุกวันอังคาร เวลา 19.00 . ที่ Facebook และ Youtube ของ Finnomena

📌 Facebook Group ชมรมหุ้นกู้ https://www.facebook.com/groups/889975809457489/

🔴 รายการ ชมรมหุ้นกู้ ย้อนหลัง 👉 https://www.youtube.com/playlist?list=PLhZeb_wAvs-flbwxWxZGl0nY14jVSeDSG

พักเงินด้วย 3 กองทุนคุณภาพจาก KKPAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
KKPAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน KKP PLUS, KKP ACT FIXED และ KKP MP จาก บลจ. เกียรตินาคินภัทร ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Short-Term General Bond Fund, Best Mid-Term General Bond Fund และ Best Money Market Government Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena สะท้อนความเป็นผู้นำในการบริหารกองทุนตราสารหนี้อย่างมืออาชีพ

ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยกลายเป็นขาลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เริ่มปรับลดดอกเบี้ยเมื่อปีก่อน ทำให้ตลาดตราสารหนี้กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากมีโอกาสในการทำกำไรจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นตามการลดลงของอัตราผลตอบแทน (Yield)

บลจ. เกียรตินาคินภัทร ได้พิสูจน์ความเชี่ยวชาญในการบริหารการลงทุนโดยเฉพาะในตราสารหนี้ ผ่านการจัดการกองทุนอย่าง KKP PLUS, KKP ACT FIXEDและKKP MP ซึ่งไม่เพียงแต่เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มองหาแหล่งพักเงินจากการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงอีกด้วย

รู้จักกองทุน KKP PLUS

กองทุนเปิดเคเคพี ตราสารหนี้พลัส หรือ KKP PLUS มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่ดี โดยลงทุนในตราสารที่มี Credit Rating ตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป กองทุนสามารถลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะลงทุนต่างประเทศไม่เกิน 40% และป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของเงินลงทุนในต่างประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram KKP PLUS

Finnomena 3D Diagram KKP PLUS

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 4 (กองทุนรวมตราสารหนี้)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.2675% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.3570% ต่อปี (รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 66 – 31 ต.ค. 67)
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2567

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KKP PLUS

1. ลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีฐานะทางการเงินดี ทั้งสภาพคล่องระยะสั้น (Liquidity) และเสถียรภาพทางการเงินระยะยาว (Solvency)

2. เน้นการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มผลตอบแทนภายใต้กรอบความเสี่ยงที่เหมาะสม สามารถลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ เปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

3. การวิเคราะห์ตราสารหนี้แบบเข้มข้นบนหลักการวิเคราะห์แบบ Bottom-up โดยทีมนักวิเคราะห์ตราสาร in-house research เพื่อคัดเลือกผู้ออกตราสารที่มีคุณภาพและฐานะทางการเงินที่ดี

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KKP PLUS โดย บลจ. เกียรตินาคินภัทร ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Short-Term General Bond Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน KKP ACT FIXED

กองทุนเปิดเคเคพี แอ็กทิฟ ฟิกซ์ อินคัม หรือ KKP ACT FIXED มีนโยบายลงทุนในตราสารภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคเอกชน รวมทั้งเงินฝาก เป็นกองทุนกลุ่ม Mid Term General Bond โดยกองทุนมี Portfolio Duration อยู่ประมาณ 2 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2567) สามารถลงทุนได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% และป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของเงินลงทุนในต่างประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram KKP ACT FIXED

Finnomena 3D Diagram KKP ACT FIXED

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 4 (กองทุนรวมตราสารหนี้)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ปัจจุบันยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ปัจจุบันยกเว้น
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.3500% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.3880% ต่อปี (รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66 – 30 ก.ย. 67)
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2567

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KKP ACT FIXED

1. เน้นการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มผลตอบแทน (Yield Enhancement) ภายใต้กรอบความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีฐานะทางการเงินดี ทั้งสภาพคล่องระยะสั้น (Liquidity) และเสถียรภาพทางการเงินระยะยาว (Solvency)

2. วิเคราะห์ตราสารหนี้แบบเข้มข้นบนหลักการวิเคราะห์แบบ Bottom-up โดยทีมนักวิเคราะห์ตราสาร in-house research เพื่อคัดเลือกผู้ออกตราสารที่มีคุณภาพและฐานะทางการเงินที่ดี

3. การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนที่ยืดหยุ่น (Flexible Management) สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจทั้ง Credit Rating และ Duration Management เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KKP ACT FIXED  โดย บลจ. เกียรตินาคินภัทร ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Mid-Term General Bond Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน KKP MP

กองทุนเปิดเคเคพี มันนี่ โพสิทีฟ หรือ KKP MP เป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เงินฝาก บัตรเงินฝาก โดยมีอายุตราสารหนี้เฉลี่ยไม่เกิน 3 เดือน ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ เน้นการรักษาเงินต้นและหาผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ

กลยุทธ์การลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram KKP MP

Finnomena 3D Diagram KKP MP

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 1 (กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 100 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.1600% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.1910% ต่อปี (รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 66 – 30 เม.ย. 67)
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2567

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KKP MP

1. ความเสี่ยงเครดิตต่ำ เนื่องจากเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย

2. ความผันผวนต่ำ เนื่องจากกองทุนรักษาอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักของพอร์ตการลงทุน (Portfolio Duration) ไม่เกิน 92 วัน ส่งผลให้ความผันผวนของพอร์ตไม่สูง

3. สภาพคล่องสูง เพราะมุ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ซึ่งเป็นตราสารที่มีสภาพคล่องสูง

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KKP MP  โดย บลจ. เกียรตินาคินภัทร ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Money Market Government Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

จับตาแบงก์ชาติอินเดีย หั่นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี ลุ้นหุ้นอินเดียรีบาวด์ระยะสั้น

Finnomena Editor
อินเดียลดดอกเบี้ย

วันนี้ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เตรียมจะแถลงนโยบายทางการเงิน โดยนักเศรษฐศาสตร์จาก DBS Bank คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลง 0.25% สู่ระดับ 6.25%

เนื่องจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ช่วยเพิ่มโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว แม้สกุลเงินรูปียังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

หากธนาคารกลางอินเดีย ปรับลดดอกเบี้ยลงตามที่นักวิเคราะห์คาด จะถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคม 2020 เนื่องจากในเวลานั้นเศรษฐกิจอินเดียได้รับผลกระทบจากโควิด

Sanjay Malhotra ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียคนใหม่

อีกสิ่งที่นักลงทุนจับตาในการประชุมครั้งนี้ คือแถลงการณ์ของ ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียคนใหม่ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของอินเดีย

Sanjay Malhotra เพิ่งดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2024 ซึ่งการแต่งตั้งของเขาถูกมองว่าเป็นความพยายามในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน เพราะเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Nirmala Sitharaman

มุมมองตลาดหุ้นอินเดีย Finnomena Funds

ห

ในรอบ 3 เดือนมานี้ ดัชนี Nifty 50 ย่อตัวลงไปกว่า -10% จากเศรษฐกิจอินเดียที่ชะลอช่วงสั้นจากการบริโภค แต่ก็ทำให้ Valuation เริ่มกลับมาอยู่ในระดับน่าสนใจอีกครั้ง

ภาพรวมเศรษฐกิจในระยะยาวยังคงเติบโตโดดเด่นกว่ากว่าภูมิภาคอื่น ๆ ขณะที่รัฐบาลได้ประกาศงบประมาณปี FY2025-2026 แล้ว ซึ่งยังคงมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และมีมาตรการยกเว้นภาษีเพื่อกระตุ้นภาคการบริโภค

RBI มีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลงต่อหลังเศรษฐกิจชะลอตัว และเงินเฟ้อต่ำลง แต่ยังมีความท้าทายจากค่าเงิน INR ที่อ่อนค่ารวดเร็ว

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นอินเดีย แนะนำกองทุน B-BHARATA และ TISCOINA-A


ที่มา: CNBC

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

สร้างโอกาสลงทุนทั้งหุ้นไทยและหุ้นสหรัฐฯ กับ 2 กองทุนยอดเยี่ยมจาก KTAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
KTAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน KTMSEQ และ KT-US-A จาก บลจ. กรุงไทย
ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Thai Equity Small-Mid Cap Fund และ Best US Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ด้วยความโดดเด่นของกลยุทธ์ในการคัดเลือกหุ้นแบบลงลึก

หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการแสวงหาโอกาสจากการลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นไทยที่คุ้นเคย รวมถึงตลาดหุ้นต่างประเทศยักษ์ใหญ่อย่างหุ้นสหรัฐอเมริกา บทความนี้จะพามารู้จักกับ 2 กองทุนหุ้นยอดเยี่ยมจาก บลจ. กรุงไทย 

ประกอบไปด้วยกองทุนหุ้นไทย KTMSEQ และกองทุนหุ้นสหรัฐฯ KT-US-A ซึ่งมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่น ตลอดจนกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นรายตัวที่เจาะลึก โดยทีมนักวิเคราะห์มากประสบการณ์

รู้จักกองทุน KTMSEQ

กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap หรือ KTMSEQ มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย และ/หรือ ตลาดหลักทรัพย เอ็ม เอ ไอ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram KTMSEQ

Finnomena 3D Diagram KTMSEQ

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล 
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เก็บจริง 1.8682% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KTMSEQ

1. มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่น โดยได้รับ Overall Morningstar Rating ระดับ 4 ดาว ในกลุ่ม Equity Small/Mid-Cap (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2024)

2. ใช้การวิเคราะห์การลงทุนแบบลงลึกในรายบริษัท โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ที่มีปัจจัยเติบโตแบบเฉพาะตัว และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หรือได้รับประโยชน์จากธีมการลงทุนในปัจจุบัน ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

3. ศึกษาวิเคราะห์ติดตาม และคัดเลือกลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มอยู่ในช่วง Turnaround ของผลการดำเนินงาน

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KTMSEQ
โดย บลจ. กรุงไทย ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Thai Equity Small-Mid Cap Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน KT-US-A

กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ ฟันด์ หรือ KT-US-A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาที่มีขนาดใหญ่ คุณภาพสูง และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน AB American Growth Portfolio (Master Fund) Class I (USD) เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram KT-US-A

Finnomena 3D Diagram KT-US-A

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล 
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.8346% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เก็บจริง 1.1012% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KT-US-A

1. กองทุนรวมหลักเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มในการเติบโตได้ดี มีคุณภาพสูง และมีความสามารถที่จะนำผลกำไรที่ได้รับไปลงทุนต่อเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตต่อเนื่องไปในอนาคตได้

2. ใช้การวิเคราะห์การลงทุนแบบ Bottom-Up โดยจะให้ความสำคัญกับอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) เป็นพิเศษ และชื่นชอบบริษัทที่มีแนวโน้มของการเติบโตอย่างมั่นคงและสม่ำเสมอเป็นพิเศษ

3. กองทุนรวมหลักบริหารจัดการโดย AllianceBernstein (AB) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนรวมชั้นนำระดับโลกสัญชาติสหรัฐฯ อีกทั้งกองทุนรวม AB American Growth Portfolio ยังถือว่าเป็นกองทุน Flagship ของ AllianceBernstein

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KT-US-A
โดย บลจ. กรุงไทย ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best US Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: กองทุน KT-US-A มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต|  ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

พิชิตเป้าหมายการลงทุนกับ 3 กองทุนเด่น BBLAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
พิชิตเป้าหมายการลงทุนกับ 3 กองทุนเด่น BBLAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน B-INNOTECH, B-ASEAN และ B-SENIOR จาก BBLAM ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ด้วยความโดดเด่นในสไตล์การลงทุนที่หลากหลาย พร้อมกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เป้าหมายของนักลงทุน

ปัจจุบันลงทุนในหลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์จุดมุ่งหมายของนักลงทุนที่แตกต่างกันไป ซึ่ง BBLAM ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีสไตล์ครอบคลุม หลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนให้ได้มากที่สุด และนี่ก็คือ 3 ธีมการลงทุนเด่นที่คว้ารางวัลประเภทต่างๆ ได้แก่

  1. กองทุนหุ้นเทคโนโลยี B-INNOTECH ได้รับรางวัล Best Technology Equity Fund
  2. กองทุนหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน B-ASEAN ได้รับรางวัล Best ASEAN Equity Fund
  3. กองทุนผสมเพื่อเป้าหมายเกษียณ B-SENIOR ได้รับรางวัล Best Conservative Allocation Fund

รู้จักกองทุน B-INNOTECH

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี หรือ B-INNOTECH มีนโยบายการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology Fund ซึ่งบริหารกองทุนแบบ Active Management เน้นการเสาะหาหุ้นเติบโต (Growth) สูง ภายใต้ Valuation ที่เหมาะสม รวมทั้งยังสามารถลงทุนในหุ้นวัฏจักร และหุ้นที่มีสถานการณ์พิเศษ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

Finnomena 3D Diagram B-INNOTECH


Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่นๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 7 (กองทุนรวมอุตสาหกรรม)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.0700% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.3727% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-INNOTECH

1. เน้นลงทุนในหุ้นนวัตกรรมและหุ้นที่ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งนี้ ต้องเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและมีแนวโน้มเติบโตสูง

2. มีนโยบายบริหารแบบ Active ที่ผู้จัดการกองทุนมีความตื่นตัว เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ทิ้งผู้ลงทุนไว้กลางทางหรือปล่อยวางให้เป็นตามกระแส

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน B-INNOTECH โดย BBLAM ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Technology Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน B-ASEAN

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน หรือ B-ASEAN มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) Bloomberg ASEAN Large & Mid Net Return Index USD

Finnomena 3D Diagram B-ASEAN

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่นๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2.0312% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-ASEAN

1. ผู้จัดการกองทุนเลือกใช้วิธีลงทุนตรงในหุ้นรายตัวของตลาดหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศอื่นในอาเซียนที่เห็นว่าเหมาะสม

2. ทีมนักวิเคราะห์เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน เพื่อทำความเข้าใจธุรกิจ วัฒนธรรม และพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนอาเซียนเป็นระยะเวลานาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลเชิงลึกในการคัดเลือกหุ้นรายตัว โดยใช้วิธีเลือกหุ้นแบบผสมผสานทั้ง Top-down และ Bottom-up

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน B-ASEAN โดย BBLAM ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best ASEAN Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน B-SENIOR

กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ หรือ B-SENIOR มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV และลงทุนในตราสารทุน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV เพื่อเป้าหมายการลงทุนที่ต้องการบริหารเงินในวัยเกษียณ และโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม

Finnomena 3D Diagram B-SENIOR

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่นๆ

  • ความเสี่ยงระดับ 5 (กองทุนรวมผสม)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.5350% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.6387% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-SENIOR

1 เป็นกองทุนแรกๆ ในอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย ที่ออกแบบมาเพื่อเป้าหมายของนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม (Customer Orient) ได้แก่ กลุ่มวัยเกษียณ ที่ต้องการหาที่เก็บเงินหลังเกษียณที่ไม่เสี่ยงมากจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินเฟ้อ

2. เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพเพื่อความสม่ำเสมอของผลตอบแทน และเพิ่มศักยภาพการเติบโตของผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น กองทุนรวมทองคำ Prop Fund IFF REITs และ ETF พร้อมทั้งปรับสัดส่วนการลงทุนที่ยืดหยุ่น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

3. กองทุนไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และสามารถเลือกทำการขายคืนอัตโนมัติ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนวัยเกษียณที่ต้องการเงินไว้ใช้จ่ายรายเดือน เป็นการอำนวยความสะดวกไม่ต้องคอยขายคืนเป็นครั้งๆ

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน B-SENIOR โดย BBLAM ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Conservative Allocation Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

กองทุนผลตอบแทนเด่นจาก TALISAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
TALISAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน MEGA10-A จาก บลจ. ทาลิส ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Best Performing Mutual Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena สะท้อนความสำเร็จของการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เฟ้นหาศักยภาพโอกาสเติบโตสู่อนาคต 

ว่าด้วยคอนเซปต์ของกองทุนรวมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงปีที่ผ่านมา* เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงกองทุน MEGA10 Series ที่คัดสรรหุ้นเพียง 10 ตัว ภายใต้ธีมการลงทุนที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลก และหุ้นที่นักลงทุนรู้จัก

จุดเริ่มต้นของ Series นี้ ก็มาจากกองทุน MEGA10-A จาก บลจ. ทาลิส โดยจะลงทุนใน 10 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ เป็น Global Brands ที่ทรงอิทธิพลสูง ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ผลการดำเนินงานของกองทุนมีการเติบโตก้าวกระโดดนับตั้งแต่วัน IPO*

*นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในวันที่ 21 ธันวาคม 2022 จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024 MEGA10-A มีมูลค่าทรัพย์สินของ เติบโตขึ้น 1,623.32% และให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 96.10%

ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

รู้จักกองทุน MEGA10-A

กองทุนเปิด MEGA 10 ชนิดสะสมมูลค่า หรือ MEGA10-A มีนโยบายการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาทั้ง NYSE และ NASDAQ โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทผู้นำด้านตราสินค้า (Brand Value) คัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และมีสภาพคล่องสูงสุด 10 อันดับแรก

Finnomena 3D Diagram MEGA10-A

Finnomena 3D Diagram MEGA10-A

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.6050% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.7120% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/09/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน MEGA10-A

1. มุ่งเน้นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการคัดเลือกหุ้นเพียง 10 ตัวที่สะท้อนเมกะเทรนด์ระดับโลก ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Rule-based Approach ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัดในระยะยาว

2. เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโฟกัสและติดตามหุ้นขนาดใหญ่ได้ง่าย คอนเซปต์สำคัญคือการเลือกหุ้นที่คุณรู้จัก

3. กองทุนใน MEGA10 Series เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับปรับพอร์ตการลงทุนตามเป้าหมายและความชอบเฉพาะตัว และเป็นเครื่องมือในการทำ Asset Allocation สร้างโอกาสเติบโตในทุกธีมการลงทุน

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน MEGA10-A โดย บลจ. ทาลิส ผู้คว้ารางวัล Special Awards ประเภท Best Performing Mutual Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

สร้างกระแสเงินสดที่ยั่งยืนกับกองทุนอสังหาฯ จาก LHFUND คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
LHFUND คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน LHPROPINFRA-D จาก บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Fund of Property Fund (Thai) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ตอกย้ำความเป็นตัวจริงด้านกองทุนอสังหาฯ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)

เมื่อดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง นักลงทุนต่างมองหาสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ถูกลง หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีแนวโน้มสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง และมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามภาวะตลาด

บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้รับการยอมรับในด้านการบริหารกองทุน Fund of Property Fund ด้วยกองทุน LHPROPINFRA-D ที่โดดเด่นในการคัดเลือกสินทรัพย์คุณภาพสูง รายได้มั่นคง และได้รับแรงสนับสนุนจากผู้พัฒนาโครงการที่แข็งแกร่ง

รู้จักกองทุน LHPROPINFRA-D

กองทุนเปิด แอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล ชนิดจ่ายเงินปันผล หรือ LHPROPINFRA-D มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้ และเงินฝากธนาคาร โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram LHPROPINFRA-D

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 8 (กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก)
  • นโยบายปันผล จ่ายปีละไม่เกิน 12 ครั้ง
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป ไม่กำหนด
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.50%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.07000% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.58059% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน LHPROPINFRA-D

1. เน้นการลงทุนใน REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ โดยคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี รายได้มั่นคง สนับสนุนให้กองทุนได้รับกระแสเงินสดสม่ำเสมอ พร้อมทั้งได้รับแรงหนุนจากผู้สนับสนุนโครงการที่มีความแข็งแกร่ง ช่วยเสริมโอกาสเติบโตในระยะยาว

2. ปัจจุบันเน้นลงทุนในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่เชิงพาณิชย์ และการท่องเที่ยว ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตไทย และหนุนให้อัตราเช่าและค่าเช่าได้รับอานิสงส์เชิงบวก

3. ระดับผลตอบแทนจากเงินปันผล (Yield Spread) อยู่ในจุดที่ได้เปรียบ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ

4. ได้แรงสนับสนุนจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อ REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน LHPROPINFRA-D โดย บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Fund of Property Fund (Thai) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

บลจ.บัวหลวง : Promotion กองทุนลดหย่อนภาษี 2568

Finnomena Editor

บลจ.บัวหลวงประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น สำหรับนักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี (RMF/ThaiESG) ระหว่างวันที่ ก.พ. – 30 เม.ย. 2568 ทุกๆ 50,000 บาท รับ E-Voucher 100 บาท
เงื่อนไขโปรโมชั่นฯ ตามรายละเอียดด้านล่าง

 

 

 


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 : DeepSeek จุดไฟการแข่งขัน

บลจ.กรุงศรี
Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 DeepSeek จุดไฟการแข่งขัน

มุมมองการลงทุน

ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาด และการประกาศนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เน้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐและสนับสนุนการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี  นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้มีท่าทีใช้นโยบายที่แข็งกร้าวอย่างที่ได้หาเสียงไว้ เช่น มีท่าทีประนีประนอมทางการค้ากับจีนมากขึ้น เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆมีการเจรจาต่อรองทางการค้ามากขึ้น เป็นต้น  ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเติบโตได้ดี และอาจมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ  อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อของสหรัฐอาจเร่งตัวขึ้นจากการที่เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น และเฟดอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด แต่ก็ไม่น่าส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก เพราะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และสถานการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถเติบโตได้แข็งแกร่งภายใต้ภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง

สำหรับตลาดหุ้นอินเดียในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลงมาก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอินเดียอาจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ

ในช่วงปลายเดือนมกราคม ตลาดหุ้นสหรัฐและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงแรง หลังบริษัท DeepSeek ของจีนเผยโปรแกรม AI ใหม่ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโปรแกรม AI ชั้นนำของสหรัฐ แต่มีต้นทุนต่ำกว่าและสามารถใช้ชิปที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าได้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐ โดยเฉพาะในแง่ของต้นทุนการดำเนินงานและความจำเป็นในการใช้ชิปที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง  อย่างไรก็ดี ตลาดฟื้นตัวในวันถัดไป หลังนักวิเคราะห์ประเมินว่าผลกระทบมีจำกัด และน่าจะส่งผลดีต่อการแข่งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีในระยะยาว

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็น 1 ในตลาดที่ปรับตัวลดลงสวนทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากยังคงขาดปัจจัยหนุนตลาด ความกังวลเกี่ยวกับแรงขาย LTF ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด โดยคาดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ดี ทิศทางดอกเบี้ยในระยะยาวยังคงเป็นขาลง การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาวที่บริหารแบบเชิงรุก (active management) จึงน่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

พอร์ตการลงทุนสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2568

บลจ. กรุงศรีฯ แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนไว้ดังเดิม โดยลงทุนในตลาดหุ้นไทย 5% เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงต่ำกว่าหลายประเทศ และคาดการณ์การเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯยังคงอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นสหรัฐที่คาดว่าจะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง และคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียหลังจากราคาปรับลงมามากและเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มทีมีการเติบโตสูง ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

ในส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ แนะนำคงสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ไทย ( KFAFIX-A) และตราสารหนี้ต่างประเทศ (KF-CSINCOM) เนื่องจากการชะลอการลดดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอาจให้ผลตอบแทนน้อยลง ในขณะที่ความผันผวนยังคงสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ไทย


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

บลจ.อีสท์สปริง : Promotion กองทุนลดหย่อนภาษี 2568

Finnomena Editor


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

ตอบโจทย์ทั้งสายเติบโตและปลอดภัย กับ 2 กองทุน 2 สไตล์ จาก Eastspring คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
Eastspring คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน ES-EG และ ES-CASH จาก บลจ. อีสท์สปริง ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best European Equity Fund และ Best Money Market General Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ชูศักยภาพการบริหารการลงทุนใน 2 แนวทางที่แตกต่าง ทั้งมองหาโอกาสเติบโตในหุ้นยุโรป และการบริหารสภาพคล่องผ่านกองทุนตลาดเงิน

ในขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกาและเอเชียอยู่ในความสนใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นยุโรปก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับกระจายความเสี่ยง ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมองหาที่พักเงินที่ให้ทั้งความมั่นคง สภาพคล่องสูง และผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์

บลจ. อีสท์สปริง โดดเด่นด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 มิติของการลงทุน โดยกองทุน ES-EG มอบโอกาสเติบโตในระยะยาวผ่านการลงทุนหุ้นยุโรป ขณะที่กองทุน ES-CASH ตอบโจทย์สภาพคล่องและความปลอดภัยของเงินลงทุน

รู้จักกองทุน ES-EG

กองทุนเปิดอีสท์สปริง European Growth หรือ ES-EG มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในกลุ่มประเทศยุโรป ผ่านกองทุนหลัก Wellington Strategic European Equity Fund ซึ่งมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด MSCI Europe Net Total Return EUR Index

Finnomena 3D Diagram ES-EG

Finnomena 3D Diagram ES-EG

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.0700% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.2548% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน ES-EG

1. เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปที่มีคุณภาพและมีการเติบโตในระยะยาว

2. เน้นการคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom-up ในบริษัทของภูมิภาคยุโรปทุกขนาด (All Cap) ที่มีความสามารถในการเติบโตเชิงโครงสร้างในระยะยาว

3. ผู้จัดการกองทุนหลักมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการมากกว่า 26 ปี

4. กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานโดดเด่นโดยได้รับ Morningstar Overall Rating 5 ดาว (ณ เดือน ธ.ค. 2024) และมี Track Record ยาวนานกว่า 13 ปี*

*ที่มา: Wellington Strategic European Equity as of 31/05/2024

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน ES-EG โดย บลจ. อีสท์สปริง ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best European Equity Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน ES-CASH

กองทุนเปิดอีสท์สปริง บริหารเงิน หรือ ES-CASH มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ ธุรกรรมทางการเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นใดที่สามารถทวงถามได้ทันที หรือภายใน 397 วัน นับจากวันที่ลงทุน โดยมุ่งหวังให้ได้รับผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

Finnomena 3D Diagram ES-CASH

Finnomena 3D Diagram ES-CASH

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 1 (กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 0.214% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 0.343% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน ES-CASH

1. เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องดีและมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป

2. ไม่มีความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกองทุนลงทุนแค่ในตราสารภายในประเทศเท่านั้น

3. เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับเงินฝาก

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน ES-CASH  โดย บลจ. อีสท์สปริง ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Money Market General Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

เปิดปี 2025 หุ้นไทยยังไม่ฟื้น และแทบจะแย่ที่สุดในโลก แม้มีสัญญาญรีบาวด์ระยะสั้น แต่ต้อง Very Selective

Finnomena Editor
กลยุทธ์หุ้นไทย 2025

เปิดฉากปี 2025 ตลาดหุ้นไทยยังคงไม่ฟื้นสักที และเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ผลคอบแทนแย่ที่สุดในโลก เป็นรองแค่ฟิลิปปินส์ที่ลดลง -10.2% ส่วนไทยติดลบ -6.2% ด้วยปัจจัยลบแวดล้อมมากมาย

Source: Definit, data as of 31/01/2025

แต่ใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะแย่เหมือนกันหมด หากเราเจาะลึกในรายละเอียดจะเห็นมีหุ้นที่สร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้อยู่ และมี Impact ที่ช่วยแบกตลาดไม่ให้แย่ไปมากกว่านี้ อาทิ

  • PTTEP +7.59% มีผลกระทบต่อตลาด 3.29%
  • SCB +6.84% มีผลกระทบต่อตลาด 2.48%
  • KTB +8.53% มีผลกระทบต่อตลาด 2.31%
  • TRUE +6.38 มีผลกระทบต่อตลาด 2.23%
  • TTB +7.36% มีผลกระทบต่อตลาด 1.25%

มุมมองตลาดหุ้นไทย Finnomena Funds

  1. เครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก มีทิศทางฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเน้นการฟื้นฟูภาคการบริโภค
  2. ท่าทีนโยบายการเงินของธปท. ยังเป็นกลาง และเน้นย้ำเรื่อง policy space เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
  3. ประมาณการกำไรตลาดหุ้นปรับลงต่อเนื่อง ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับถูกมาก
  4. Fund Flow ยังไหลออกต่อเนื่องตามทิศทางหุ้น EM แต่เริ่มมีสัญญาณจาก market breadth บ่งชี้ถึงการรีบาวด์ระยะสั้น
  5. แนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective Buy

 

Definit Set Select

 Definit SET Select พลิกกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว พิจารณา 3 ปัจจัย

 Earnings หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น
Valuation หุ้นที่มูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม
Technical หุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกของราคาในระยะสั้น

‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍‍‍‍‍ ‍‍สนใจรับบริการ คลิกเลย www.definitinvestment.com/contact-form


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้

เริ่มต้นกระจายลงทุนทั่วโลกกับกองทุน BCAP คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
BACP คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน BCAP-GW90 จาก บลจ. บางกอกแคปปิตอล ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม Best Aggressive Allocation Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena กองทุน BCAP-GW90 เน้นการลงทุนครอบคลุมสินทรัพย์ทั่วโลก ด้วยนโยบายการลงทุนที่ผสมผสานทั้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและสินทรัพย์ที่มั่นคง เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนหลากหลายประเภทในที่เดียว พร้อมการบริหารจัดการจากมืออาชีพ

การกระจายความเสี่ยง คือหัวใจสำคัญของการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุน

สำหรับผู้ที่มองหาจุดเริ่มต้นในการลงทุนในรูปแบบนี้ กองทุน BCAP-GW90 จาก บลจ. บางกอกแคปปิตอล เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยกองทุนนี้เน้นการลงทุนทั้งในสินทรัพย์มั่นคงและสินทรัพย์เสี่ยง ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

รู้จักกองทุน BCAP-GW90

กองทุนเปิด บีแคป โกลบอล เวลท์ 90 (BCAP-GW90) มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ได้แก่ ตราสารหนี้, ตราสารทุน, กองทุนสินทรัพย์ทางเลือก, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในสินทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ โดยจะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 90% ของ NAV

Finnomena 3D Diagram BCAP-GW90

Finnomena 3D Diagram BCAP-GW90

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมผสม Aggressive Allocation)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 0.535%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.284% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.52565% ต่อปี
  • ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/09/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน BCAP-GW90

1. เหมาะสำหรับเป็นกองทุนแรกของผู้ที่เริ่มต้นลงทุน 

กองทุน BCAP-GW90 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับกองทุนแรก ด้วยนโยบายการลงทุนแบบผสมที่ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลก ทั้งในไทยและต่างประเทศ เสมือนพอร์ตการลงทุนที่รวมโอกาสการลงทุนไว้ในกองทุนเดียว

2. ตอบโจทย์การเป็นกองทุนหลักของพอร์ตการลงทุน (Core Port)

กองทุน BCAP-GW90 ตอบโจทย์การเป็นกองทุนหลัก (Core Port) ที่สามารถรวมทุกโอกาสการลงทุนไว้ในที่เดียว ทั้งสินทรัพย์มั่นคงและสินทรัพย์เสี่ยง

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน BCAP-GW90 โดย บลจ. บางกอกแคปปิตอล ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Aggressive Allocation Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

จังหวะลงทุนยุคดอกเบี้ยขาลงใน 2 กองทุนเด่นจาก บลจ.กรุงศรี คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

Finnomena Editor
KSAM คว้ารางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena

กองทุน KF-SINCOME และ KFGPROP-A จาก บลจ.กรุงศรี ผู้ชนะรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประเภท Best Global Bond Fully F/X Hedge Fund และ Best Fund of Property Fund (Foreign) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena ชูโอกาสทองของการลงทุนรับทิศทางดอกเบี้ยขาลง

หนึ่งในธีมการลงทุนหลักของปีนี้ คือการเฟ้นหาโอกาสลงทุนในทิศทางดอกเบี้ยขาลงทั่วโลก ดังนั้น จะเห็นว่าการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีอายุกลาง-ยาว และกองทุนรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์-โครงสร้างพื้นฐาน กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง

โดยวันนี้เราจะพามารู้จักกับ 2 กองทุนของ บลจ.กรุงศรี ที่สร้างความโดดเด่นจากการลงทุนในตราสารหนี้โลกอย่าง KF-SINCOME และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์-โครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกอย่าง KFGPROP-A

รู้จักกองทุน KF-SINCOME

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัม หรือ KF-SINCOME มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund (Class I-Acc) ซึ่งมีการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก

Finnomena 3D Diagram KF-SINCOME

Finnomena 3D Diagram KF-SINCOME

Source: Finnomena as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 5 – เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee)  0.8560% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.0578% ต่อปี
  • ข้อมูลจากสรุปสาระสำคัญของกองทุน ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KF-SINCOME

1. ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่ได้รับ Morningstar 5 ดาว* พิสูจน์ด้วยประวัติผลการดำเนินงานที่โดดเด่นตลอดช่วงที่ภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลง จากกลยุทธ์การปรับพอร์ตเชิงรุกอย่างยืดหยุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและอัตราดอกเบี้ย

2. มุ่งเน้นรายได้ที่สม่ำเสมอจากการลงทุน โดยมีแหล่งรายได้หลากหลายจากการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลก ผสมผสานระหว่างตราสารคุณภาพสูงกับตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้เอกชน Investment Grade และ High yield รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอสังหาค้ำประกัน (MBS) /สินทรัพย์ค้ำประกัน (ABS) 

ที่มา: PIMCO ณ 30 พ.ย. 2024 | *การจัดอันดับจาก Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด

3. เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มการกระจายการลงทุนให้กับพอร์ตตราสารหนี้ และผู้ที่มองหาศักยภาพในการเพิ่มระดับผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนโดยรวม

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KF-SINCOME โดย บลจ.กรุงศรี ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Global Bond Fully F/X Hedge Fund จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


รู้จักกองทุน KFGPROP-A

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ ชนิดสะสมมูลค่า หรือ KFGPROP-A มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง REITs ผ่านกองทุนหลัก Janus Henderson-Global Real Estate Equity Income Fund, Class I1q USD

Finnomena 3D Diagram KFGPROP-A

Finnomena 3D Diagram KFGPROP-A

Source: Finnomena Funds as of 30/01/2025

รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ 

  • ความเสี่ยงระดับ 5 – เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.0%
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee)  0.8560% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.0578% ต่อปี
  • ข้อมูลจากสรุปสาระสำคัญของกองทุน ณ วันที่ 31/12/2024

ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds

สรุปจุดเด่นของกองทุน KFGPROP-A

1. ลงทุนผ่าน Janus Henderson – Global Real Estate Equity Income ซึ่งมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดี อยู่ในระดับ Percentile Rank ต้น ๆ โดยตลอด พร้อมได้รับ Morningstar 5 ดาว*

2. มีกลยุทธ์ปรับพอร์ตที่รวดเร็ว เช่น การเพิ่มน้ำหนักกลุ่ม Office จาก 6% เมื่อสิ้นปี 2023 ขึ้นมาเป็น 11% (ในเดือนกันยายน 2024) หลังเห็นสัญญาณ Bottom out ในกลุ่ม Office

3. Universe การลงทุนกว้าง โดยลงทุนใน New economy เช่น Cell Tower, Data Center, Life Science และ Healthcare Housing รวมทั้งไม่ยึดติดเฉพาะกลุ่ม Big Cap เท่านั้น แต่มีการลงทุนในภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ด้วย

ที่มา: Janus Henderson ณ 31 ธ.ค. 67 | *การจัดอันดับจาก Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด

ขอแสดงความยินดีกับกองทุน KFGPROP-A โดย บลจ.กรุงศรี ผู้คว้ารางวัล Fund Performance Excellence Award ประเภท Best Fund of Property Fund (Foreign) จากเวที Hall of Funds 2025 by Finnomena


Hall of Funds 2025 รางวัลแห่งความสำเร็จของกองทุนรวม

Hall of Funds 2025 by Finnomena

รางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูความสำเร็จของกองทุนรวมและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังดีเด่น มุ่งส่งเสริมมาตรฐานในอุตสาหกรรมลงทุน ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 

กองทุนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์เชิงปริมาณ 3 ด้าน ได้แก่ ผลตอบแทน (Return) ความคุ้มค่าของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) และการขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) โดยจะพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งใช้ข้อมูลจาก Morningstar Direct และทำการเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานภายในกลุ่มเดียวกัน เพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พัฒนาการบริหารจัดการกองทุน และช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดูรายละเอียดรางวัล Hall of Funds 2025 by Finnomena 

เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.finnomena.com/hall-of-funds/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุน KFGPROP-A ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน และกองทุนป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้  | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299